เรื่องของเรื่องคือแม่ของผมโดนมิจฉาชีพหลอกด้วยการมาคุยและให้ช่วยเหลือ(ผมจะแทนตัวโจรมา D) D โดยถ้าช่วยเหลือจะให้เงินจำนวนมหาศาลมากๆ ซึ่งหากโดยปกติทั่วไปแล้ว คงจะไม่มีใครหลงเชื่อกันง่ายๆ แต่ก็นั่นแหละครับ แม่ผมดันหลงเชื่อ และได้ใช้เงินเก็บที่มีเกือบครึ่งล้านไปกับการ "ช่วยเหลือ" D คนนี้ โดยเป็นการตอดไปทีละเล็กละน้อย จากการที่เขาอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการโอนถ่ายทรัพย์สินข้ามประเทศบลาๆ
แล้วแม่ผมก็โดนตอดไปเรื่อยๆ จากหลักพัน เป็นหลักหมื่น และเป็นหลักแสน โดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับคนในครอบครัวเลย อีกทั้งยังไปยืมคนอื่น หรือกู้เพิ่ม เพื่อหวังจะได้เงิน(ที่ D พร่ำว่าจะได้) ซึ่งในระยะเวลาระหว่างนี้ หนี้มันเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน โดยที่แม่ผมเป็นคนไปกู้ยืม เพื่อเอามาให้ D เอง จนเวลาผ่านมา เกือบ 6 ปี (ระหว่างนี้คือญาติพี่น้องเริ่มรู้และเตือนกันแล้ว แต่แม่ผมไม่ฟังใครเลย) ผมก็เรียนและทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ปีนึงได้กลับเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น และไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กับผมเลย
หลังจากเวลาผ่านมาเกือบ 10 ปี ผมก็ได้รู้เนื่องจากพี่สาวบอกว่ามีหมายศาลมานัดให้ไปไกล่เกลี่ยเรื่องหนี้สิน แต่แม่ไม่ยอมไป และปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาอีก จนมีหมายศาลฉบับที่ 2 มาให้ไปไกล่เกลี่ยอีกรอบในเดือน ก.พ. 64(ตรงนี้ผมยังไม่เห็นหมายศาล แต่พี่สาวบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องไกล่เกลี่ย)โดยที่ผมผู้ซึ่งไม่มีใครบอกอะไรเลยได้แต่อึ้งและจับต้นชนปลายไม่ถูก พอโทรไปถามแม่ ก็ปรากฏว่าแม่ไม่เล่าอะไรให้ผมฟังเลย แล้วพี่สาวผมก็โทรมาเล่าให้ฟังอีกว่า แม่เคยไปไกล่เกลี่ยรอบนึงแล้ว (ที่ว่าไม่ยอมไป จริงๆคือไป) แต่แม่ไม่ยอมเล่ารายละเอียดกับศาลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เอาไปให้ใคร หรือแม้แต่จะอ้างตัวกับศาลว่าตัวเองก็โดนหลอกมาอีกที ผมเลยลองถามแม่อีกทีว่าทำไมไม่พูดไป แม่ตอบกลับมาอย่างเรียบๆว่า
....."เดี๋ยวมันรู้ละมันจะอยากได้เงิน เดี๋ยวจะเหนื่อยอีก" .....
พอมาถึงตรงนี้ผมก็ได้แต่เหม่อลอยนั่งเครียดว่า จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้
ผมควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ในขณะที่ตอนนี้ผมก็มีหนี้รถที่เพิ่งออกมาและยังมีค่าเทอมที่กำลังเรียนต่อเพื่อกรุยทางชีวิตให้ดีขึ้น แต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวในตอนที่ชีวิตกำลังจะไปได้ดี ผมขอถามเพื่อนๆพี่ๆที่มีความรู้ทางกฏหมายหน่อยครับ แบบนี้ผมมีตัวเลือกแบบไหนบ้าง ทำอะไรได้บ้างครับ
ตอนนี้ผมได้เงินเดือนประมาณ 16k ครับ รายได้ทางอื่นมีนิดหน่อย
รายจ่ายของผม ต่อเดือน
- รถ 8000
- บัตรเครดิต(จ่ายค่าน้ำมันเดินทางไปเรียน) 2000
- เก็บเป็นค่าเทอม 2000
- ค่าอินเตอร์เน็ต 800
- ค่าอาหารวันที่ไปเรียน(เสาร์-อาทิตย์) 800
- แบ่งเก็บ 1000
- ให้แม่ 1000
ปล.แก้ไขบรรทัดเพื่อให้อ่านง่าย
พ่อแม่สร้างหนี้ไว้ โดยที่ไม่ยอมบอกใคร รู้อีกทีคือมีหมายศาลมาฟ้องบังคับขายที่ดินและบ้านแล้ว ควรทำยังไงดีครับ
แล้วแม่ผมก็โดนตอดไปเรื่อยๆ จากหลักพัน เป็นหลักหมื่น และเป็นหลักแสน โดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับคนในครอบครัวเลย อีกทั้งยังไปยืมคนอื่น หรือกู้เพิ่ม เพื่อหวังจะได้เงิน(ที่ D พร่ำว่าจะได้) ซึ่งในระยะเวลาระหว่างนี้ หนี้มันเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน โดยที่แม่ผมเป็นคนไปกู้ยืม เพื่อเอามาให้ D เอง จนเวลาผ่านมา เกือบ 6 ปี (ระหว่างนี้คือญาติพี่น้องเริ่มรู้และเตือนกันแล้ว แต่แม่ผมไม่ฟังใครเลย) ผมก็เรียนและทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ปีนึงได้กลับเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น และไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กับผมเลย
หลังจากเวลาผ่านมาเกือบ 10 ปี ผมก็ได้รู้เนื่องจากพี่สาวบอกว่ามีหมายศาลมานัดให้ไปไกล่เกลี่ยเรื่องหนี้สิน แต่แม่ไม่ยอมไป และปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาอีก จนมีหมายศาลฉบับที่ 2 มาให้ไปไกล่เกลี่ยอีกรอบในเดือน ก.พ. 64(ตรงนี้ผมยังไม่เห็นหมายศาล แต่พี่สาวบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องไกล่เกลี่ย)โดยที่ผมผู้ซึ่งไม่มีใครบอกอะไรเลยได้แต่อึ้งและจับต้นชนปลายไม่ถูก พอโทรไปถามแม่ ก็ปรากฏว่าแม่ไม่เล่าอะไรให้ผมฟังเลย แล้วพี่สาวผมก็โทรมาเล่าให้ฟังอีกว่า แม่เคยไปไกล่เกลี่ยรอบนึงแล้ว (ที่ว่าไม่ยอมไป จริงๆคือไป) แต่แม่ไม่ยอมเล่ารายละเอียดกับศาลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เอาไปให้ใคร หรือแม้แต่จะอ้างตัวกับศาลว่าตัวเองก็โดนหลอกมาอีกที ผมเลยลองถามแม่อีกทีว่าทำไมไม่พูดไป แม่ตอบกลับมาอย่างเรียบๆว่า
ตอนนี้ผมได้เงินเดือนประมาณ 16k ครับ รายได้ทางอื่นมีนิดหน่อย
รายจ่ายของผม ต่อเดือน
- รถ 8000
- บัตรเครดิต(จ่ายค่าน้ำมันเดินทางไปเรียน) 2000
- เก็บเป็นค่าเทอม 2000
- ค่าอินเตอร์เน็ต 800
- ค่าอาหารวันที่ไปเรียน(เสาร์-อาทิตย์) 800
- แบ่งเก็บ 1000
- ให้แม่ 1000
ปล.แก้ไขบรรทัดเพื่อให้อ่านง่าย