เริ่มเรื่องเลยนะคะคือเราติดหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด 2ใบนี้รวมกันวงเงินประมาน150,000(รวมดอกเบี้ยแล้วโดยประมาน) ดิฉันค้างจ่ายมาประมาน5เดือนจนเรื่องไปถึงฝ่ายประนอมหนี้ และดิฉันได้ติดต่อเพื่อขอประนอมหนี้แต่ทางฝ่ายประนอมหนี้ยื่นเงื่อนไขมาคือ ผ่อนชำระ6เดือน กับ ปิดยอดหมดในงวดเดียวโดยลดแค่ดอกเบี้ยไปประมาน6พันกว่าบาท ซึ่งเงื่อนไขที่เขาเสนอมาดิฉันไม่สามารถจ่ายได้แน่นอน เพราะผ่อน6เดือนก็งวดละเกือบ25,000แล้ว  และถ้าปิดงวดเดียวยิ่งไม่ได้เลยเพราะไม่มีเงินก้อน  เจ้าหน้าที่เลยแจ้งว่ามีอีกเงื่อนไขคือส่งเรื่องฟ้องศาลและรอไปไกล่เกลี่ยที่ศาลจะได้ผ่อนประมาน36งวด และเจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องฟ้องศาลช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ และจะมีเอกสารหมายศาลออกไปส่งที่บ้านภายใน7วันทำการ ถ้ามาส่งที่บ้านแล้วไม่เจอตัวดิฉันก็จะแปะเอกสารไว้หน้าบ้านเลย

สิ่งที่อยากถามคือ
1. ปกติแล้วค้างจ่าย5งวด ธนาคารจะส่งเรื่องฟ้องศาลเลยหรอคะ  เพราะมีเพื่อนคนนึงติดหนี้ประมาน8หมื่นกว่าค้างจ่ายเป็นปีแล้ว ธนาคารยังไม่ส่งเรื่องฟ้องศาลเลย ทุกวันนี้เพื่อนยังคงผ่อนจ่ายงวด500มั่ง1000มั่งเป็นการปรับโครงสร้าหนี้ เลยงงว่าทำไมธนาคารนี้ถึงฟ้องเร็วจัง และไม่มีนโยบายให้ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ด้วย คือให้ไปไกล่เกลี่ยที่ศาลอย่างเดียว แบบนี้ดิฉันไม่มีเวลาได้รวบเงินก้อนเลย จะทำแฮร์คัทก็คงไม่ได้
2. จริงไหมคะที่เอกสารหมายศาลฟ้องจะส่งมาภายใน7วันทำการ  เพราะดิฉันไม่ได้อยู่บ้าน ที่บ้านพ่อแม่จะอยู่ค่ะ ดิฉันอยู่หอพักใกล้ที่ทำงาน อยากรู้ว่าถ้าเจ้าหน้าที่เขามาส่งแล้วถ้าไม่เจอตัวดิฉัน เขาจะแปะไว้หน้าบ้านจริงไหมคะ
3. ขั้นตอนการไปไกล่เกลี่ยที่ศาลต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องขึ้นบัลลังก์ไหมคะ แล้วต้องไปศาลบ่อยไหมหรือไกล่เกลี่ยแค่1วันเสร็จ เพราะดิฉันไม่อยากลางานบ่อยๆ
4. กรณีที่ไปไกล่เกลี่ยที่ศาลแล้วตกลงการจ่ายเรียบร้อยแล้ว แบบนี้เขามีสิทธิ์มาอายัดเงินเดือนหรือยึดทรัพย์เราไหมคะ

*ตอนนี้เครียดและกังวลใจมาก วอนผู้รู้หรือผู้เคยมีประสบกาณ์แบบนี้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ T T