.... สวัสดีท่านผู้อ่านและผู้แสวงหาคอร์สไอเอลดีๆสักคอร์สครับ วันนี้ผมจะมารีวิว คอร์สติวสอบ IELTS ของสถาบันกวดวิชา Acknowledgement centre ที่ตั้งอยู่ที่ตึกไดมอนด์ สีลม (อยู่ใกล้ๆกับรถไฟฟ้า ช่องนนทรี) ก่อนอื่นเลยผมขอเกริ่นเกี่ยวกับตัวผมก่อน ผมได้เรียนคอร์สติวไอเอลที่นี่ โดยที่ตามไปจากโพสต์ในพันทิปเก่าๆ รวมทั้งโพสต์ในเด็กดีหลายๆโพสต์ และรู้สึกว่า เออ ที่นี่ ดูเรียนจริงจัง มีการบ้าน ครูดูตั้งใจกันทุกคน แม้จะเป็นครูไทยแต่ก็ดูรับรองว่าผลลัพธ์จะออกมาดี ประกอบกับตอนที่ผมจะสอบผมมีเวลาเตรียมตัวประมาณเดือนนึง ผมจึงสมัครเรียนไป โดยที่โรงเรียนแห่งนี้จะมีอีกหลายๆคอร์สสอนนะครับ แต่ใน IELTS course เนี่ยจะประมาณ 70 ชั่วโมง (7 ชั่วโมง [9.00-17.00 เว้นพักเที่ยง]ซึ่งเมื่อเทียบๆแล้ว เยอะมากกกกก เมื่อเทียบกว่าที่อื่นที่มีชื่อเสียง เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมมาเรียนที่นี่)  มีสองคอร์สหลักๆ ในทุกๆเดือน คือคอร์สวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ และ คอร์สวันเสาร์ ซึ่งทั้งสองแบบเนี่ย อาจจะมีแตกต่างกันบ้างในแง่ผู้สอน แต่คุณภาพผมว่าพอๆกันเลยนะครับ โดยวันๆนึงเนี่ย จะประกอบด้วย 4 คาบ คาบละประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยที่จะเป็น 4 คาบของแต่ละ skills ใน IELTS นั่นก็คือ LISTENING, READING, WRITING และ SPEAKING ซึ่งผมจะทำการอธิบายทีละ skill ไปนะครับ

1. LISTENING: พี่ปอ
...... หลายคนอาจจะรู้สึกว่า skills นี้คือน่าจะง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก ฟังๆตอบๆ ถามอะไรมาก็ตอบไปตามนั้น แต่ความจริงแล้วในข้อสอบ IELTS สำหรับผม ผมว่าคะแนนของสกิลนี้ ก็ไม่ได้เอามาง่ายๆเหมือน TOEIC เพราะค่อนข้างต้องใช้ skills และการฝึกฝนปริมาณมาก นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าสกิลนี้เป็นสกิลที่ยากแต่ฝึกฝนได้มากที่สุดใน 4 สกิล คาบแรกครูพี่ปอจะลองทำ test ก่อน หลังจากนั้นก็จะฝึกสกิลกันไปเรื่อยๆ แทรกศัพท์บ้าง แทรก เทคนิคการฟังบ้าง และนำมาเทียบคะแนนกับครั้งสุดท้ายดูว่าพัฒนาอย่างไรบ้าง แต่หลังจากเรียนกับพี่ปอ ผมรู้สึกได้เลยครับว่าแบบ เราพอฟังภาษาอังกฤษได้มากขึ้นทั้งในข้อสอบ ในชีวิตประจำวัน แต่ก่อนฟังได้แค่ คีย์เวิร์ด งูๆปลาๆ แต่หลังๆเริ่มจับใจความสิ่งที่คลิปเสียงพูด รวมทั้งฟังซีรี่ย์หรือข่าวภาษาอังกฤษได้มากขึ้นอย่างน่าตกใจ

2. READING: พี่โอเบส พี่โจ๊ก
......... อีกเหมือนกัน สกิลนี้ตอนแรกผมว่าน่าจะเป็นตัวที่ฉุดคะแนนได้สูงๆเลย แต่พอมาเจอโจทย์จริงๆ โห ถ้าทำมาน้อย ไม่มีเทคนิคก็ตายเหมือนกันครับ โดยอันนี้วันธรรมดาจะแตกต่างกันระหว่างพี่โอเบสที่จะสอนวันเสาร์ และพี่โจ๊กที่สอนวันธรรมดา โดยที่พี่โอเบสจะเน้นไปยังเทคนิค แปลทุกอย่างกลมๆ หัดอ่านอย่างมีชั้นเชิง เพื่อให้ในห้องสอบสามารถกาข้อที่ถูกต้องได้ และพี่โจ๊กจะเน้นไปที่การทำโจทย์ พร้อมคำแปลและการอ่านอย่างจับใจความรวดเร็ว อย่างไรก็ตามครูทั้งสองคน จะเน้นการทำโจทย์ และให้พวกเราเห็นโจทย์ให้ได้เยอะที่สุด ฝึกอ่านให้เยอะที่สุด เพื่อง่ายต่อการทำข้อสอบวันจริง และก็มีการบ้านในกลับมาฝึกจริงๆในทุกครั้งที่มีการสอน

3. WRITING: พี่ป๊อปอาย
....... โอโห อันนี้นับว่าเป็น highlight ของคอร์สเลยก็ได้ครับ เพราะนับว่าเป็นสิ่งที่ผมเฝ้ารอมากๆตอนมาเรียน เนื่องจากเวลาที่มีน้อยนิดในการเตรียมตัว แต่รู้สึกว่าเป็นสกิลที่ตัวเองต้องทำได้ไม่ดีแน่ๆตอนสอบ พี่ป๊อปอายจะสอนโดยเน้นไปยังการเข้าใจ structure ของการสอบ รู้สึกควรจำเขียนอะไรลงไปในข้อสอบในแต่ละส่วน การ organized ข้อความต่างๆที่จะตอบลงไปในข้อสอบทั้งสอง TASK รวมทั้งแทรกแกรมม่าที่ควรโชว์มากมาย (พูดเลยครับว่ามากมายจริงๆ) ตอนสอบผมมั่นใจในการเขียนของตัวเองมากขึ้นมากๆครับ นับว่าเป็นอีกสกิลนอกจาก listening ที่เพิ่มความมั่นใจตอนทำข้อสอบได้ดีมากๆเลยครับ

4. SPEAKING: นำทีมโดย ครูหยก
........ ในตัว speaking จะแบ่งห้องออกเป็นกลุ่มเล็กๆครับ โดยครูที่สอนจะนำทีมโดย ครูหยก การเรียนสอนจะเป็นการฝึกฝนมากๆ แบบมากๆ ครับ ฝึกให้พูดกับเพื่อนในห้อง ในทุกๆคาบ โดยที่คุณครูจะจดความสามารถของพวกเราและนำมาพัฒนาไปด้วยกันเรื่อยๆครับ หลายคนคงคิดว่าการบ้านของ สกิล นี้อาจจะน้อยกว่าอื่นๆ แต่เปล่าเลยครับ การบ้านของทุกสกิลแทบจะไม่แตกต่างกันเลยครับ สกิลนี้คือต้องเตรียมตัวมาพูดเรื่องต่างๆให้ครู ให้เพื่อนฟัง รวมทั้งฝึกการ pronunciation คำที่ยากๆในการสอบ IELTS เหมือนเตรียมงานพรีเซนท์ที่ทำงานอย่างไรอย่างนั้น

......... โดยสรุปแล้ว ผมเองค่อนข้างพึงพอใจกับการติวของที่นี่นะครับ ด้วยบรรยากาศที่ครูทุกคนพยายามมากที่จะทำให้เราได้คะแนนไอเอลตามแบนด์ที่คาดหวัง ครูทุกคนจะจดจำว่าเราแต่ละคนต้องการไอเอลเท่าไหร่ มีการ evaluate เป็นระยะๆเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเรียนของพวกเรา มันทำให้รู้สึกว่าเราต้องพยายามมากขึ้น ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เราทำการบ้านและเตรียมตัวมาเรียนในทุกๆครั้ง ทำให้ผลลัพธ์ของการสอบออกมาดีครับ นอกจากนั้นตอนที่ผมเรียน ผมยังได้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในคอร์สเดียวกัน ทำให้เรามี contact ของพี่ๆน้องๆที่เรียนต่อในต่างประเทศ หรือมีการวางแผนอนาคตใกล้เคียงกัน ทำให้มาพูดคุยอัพเดตกันได้ ทุกวันนี้ผมยังติดต่อกับพวกเขาอยู่เลยครับ ส่วนข้อพิจารณาอื่นๆ ผมคิดว่าอาจจะมีเรื่องอาหารการกินครับ ในคอร์สวันธรรมดา เราสามารถเดินไปกินซอยละลายทรัพย์ที่ติดกับโรงเรียนได้ แต่ในวันเสาร์ อาจจะหากินยากหน่อยครับ แนะนำว่าให้ติดอะไรมากินตอนเที่ยงด้วย ส่วนอื่นๆถ้าใครมีคำถามสามารถเขียนไว้ในรีวิวแห่งนี้ได้เลยครับ ถ้าผมสะดวกจะมาตอบกลับนะครับ (ถ้าไม่สะดวกก็ขอโทษด้วยนะครับผม) ขอบคุณครับ

ปล. สถาบันรับรองคะแนนไว้ที่ 6.5 นะครับ ถ้าสมมุติว่าคะแนนยังไม่ถึงที่รับรองไว้ มาเรียนครบ มี participation ครบ อาจจะขอมาเรียนซ้ำได้นะครับ