เนื่องจากเพิ่งไปสอบ IELTS มาเมื่อ 21 ก.พ. 62 หลังจบคอร์สติวกับสถาบัน Acknowledge Centre ก่อนสอบหาข้อมูลที่เรียนติวสอบนานมาก และหารีวิวของที่นี่ไม่ค่อยได้ ทำให้ลังเล ตัดสินใจนาน เลยอยากมารีวิวที่นี่เผื่อประกอบการตัดสินใจให้คนอื่น ๆ  ค่ะ
ตอนแรกไปสอบวัดระดับเบื้องต้นกับสถาบันนึงมาที่เซ็นทรัลเวิลด์ เกือบตัดสินใจสมัครเรียนที่นั่นแล้ว เพราะรู้สึกถูกชะตากับอาจารย์ฝรั่งที่ทดสอบ speaking เรา ใจดีมาก แต่เราถามว่าจะเลือกเรียนกับเขาได้ไหม เขาบอกว่าตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ตารางสอนของตัวเองล่วงหน้า จนกว่าจะถึงสัปดาห์ที่เริ่มเรียนเลย จึงยังไม่ได้สมัครกับที่นี่
เหตุผลหลัก ๆ  ที่เรียนกับ Acknowledge คือค่าเรียนถูกกว่าที่อื่น (ในระดับหนึ่ง) และทางสถาบันเคลมว่าสอบได้ไม่ถึง 6.5 สามารถกลับมาเรียนซ้ำได้ (ทั้งนี้แล้วแต่ดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอนด้วย ว่าตอนเรียนเราตั้งใจเรียนไหม ส่งการบ้านรึเปล่า เป็นต้น) โดยทั้ง4 ทักษะจะเรียนกับอาจารย์คนไทยหมดเลย ตอนแรกแอบคิดว่าฟังกับพูดเรียนกับเจ้าของภาษาน่าจะดีกว่ารึเปล่า แต่พบว่าเรียนกับอาจารย์คนไทยก็มีข้อดีคนละแบบ รายละเอียดเพิ่มเติมจะบอกในพาร์ทการพูดนะคะ

มาดูหลักสูตรก่อนเลย คอร์สไอเอลของที่นี่เน้นสอนเพื่อสอบแบบ ‘Academic’ ซึ่งตอนสมัครเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้ง เราสมัครสอบแบบ General เพิ่งมารู้เอาวันเริ่มเรียน ซึ่งพาร์ท writing กับ reading เนี่ยข้อสอบจะไม่เหมือนกัน สำหรับคนที่จะสอบ general จะเรียน private เฉพาะ writing ก็ได้ค่ะ เขาลดค่าเรียนคอร์สรวมให้ (พี่ที่เรียนคอร์สเดียวกันบอกมา) ข้อดีของที่นี่คือมีให้เลือกทั้งคอร์สวันธรรมดาและคอร์สวันเสาร์ หากวันไหนไม่ว่างสามารถขอเรียนชดของอีกคอร์สได้(แต่ต้องดูด้วยว่าเขาสอนไปถึงไหนแล้ว คอร์สวันธรรมดาจะไปเร็วกว่า) ที่ชอบอีกอย่างคือนักเรียนต่อห้องไม่เยอะ อาจารย์ทุกคนเป็นกันเอง สงสัยอะไรถามได้ตลอด

- Listening เรียนกับพี่ปอ ออกแนวเรื่อย ๆ เน้นการบ้าน เฉลย ทำแบบฝึกหัด แต่เทียบคะแนนสอบก่อนเรียนวันแรกกับหลังเรียนวันสุดท้าย ได้เยอะขึ้นสองเท่า ก็ถือว่าพอใจนะคะ

- Writing พี่ป๊อป ตั้งใจสอนมาก ๆ ๆ  มีแทรกแกรมม่ากับคำศัพท์ให้ด้วย ตัวช้อสอบ writing แบ่งเป็น 2 part พาร์ทแรกเนี่ย general กับ academic จะต่างกันแบบสิ้งเชิง แต่พาร์ทหลังข้อสอบแนวเดียวกัน แค่ academic คำถามจะยาก ออกแนววิชาการกว่า ถ้าสอบแบบ academic คือเทคนิคจากพี่ป๊อปชนะเลิศ หลังจบคอร์สสามารถส่งงานเขียนให้พี่เขาช่วยตรวจหรือให้ band ได้

- Speaking ครูหยกผู้น่ารักและโหดที่สุดในคอร์ส ฮ่าๆ เรียนแต่ละครั้งนี่ลุ้นมากวันนี้จะเจออะไร แต่ทุกอย่างที่ครูหยกสอนคือเอาไปใช้ได้จริงมาก ๆ ทุกคำแนะนำให้เอาไปฝึก ไปพัฒนาต่อจะช่วยได้เยอะ ตั้งใจทำการบ้านทุกชิ้นแล้วจะเก่งขึ้นแน่นอน (แอบบอกว่าเรียนวันแรกเราบอกครูเลยว่าอีกเดือนนึงสอบแล้ว กังวลพาร์ทนี้สุดเลย แต่ผลออกได้คะแนนพาร์ทสูงสุดเฉย ขอบคุณครูหยกจริง ๆ ค่ะ) ตอนเรียนในห้องครูจะให้เราประเมิน band ให้เพื่อน แล้วครูถึงจะบอกว่าสำหรับครูให้แต่ละคนเท่าไหร่ ตรงนี้ช่วยให้เราฝึกประเมิน band ตัวเองได้ด้วย ส่วนครูหยกประเมิน band แม่นมาก ประเมินเราได้เท่าตอนสอบจริงเลย 55555 เรียนพูดกับครูคนไทยมีข้อดีคือเขาจะรู้จุดอ่อนคนไทย แนะนำได้ว่าควรปรับตรงไหน ระดับความรู้เท่านี้จะฝึกยังไง

- Reading คอร์สวันธรรมดากับวันเสาร์จะเป็นครูคนละคนกัน พี่โจ๊กกับพี่โอเบส แนวพี่โจ๊กจะพาทำแบบฝึกหัดไปเรื่อย ๆ ชิลๆ  ส่วนพี่โอเบสจะจัดเต็มมาก ทั้งทริค เทคนิค energy ซึ่งชอบตรงที่มีทริคให้จับ เพราะช่วยในการบริหารเวลา เดาคำศัพท์ได้ ชีทที่ใช้สอนจะเป็นข้อสอบ academic เกือบ100% แต่ใครสอบ general ก็เรียนได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะหาแบบฝึกหัดมาฝึกทำเองเพิ่มเติมค่ะ

ส่วนตัวเราว่าคนที่ลงคอร์สนี้ควรจะพอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาบ้าง ( บ้างนะคะ เพราะเราก็ไม่เก่งอังกฤษ ตอนเรียนมหาลัยได้ C รัว ๆ) เพราะที่นี่ไม่ได้แบ่งห้องตามระดับ เรียนรวมกันหมดเลย ความยากของเนื้อหาก็จะอยู่ระดับกลาง ๆ  ถ้าใครอ่อนอังกฤษมาก ๆ  อาจจะตามไม่ทันหรือเรียนไม่รู้เรื่องได้ วิธีแก้คือแนะนำให้ศึกษาแกรมม่าเองก่อน เอาแค่พื้นฐานทั่วไป ถ้าอ่อนการฟังการพูดก็ฝึกจากดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ จากนั้นปูพื้นฐานด้วยหนังสือที่แนะนำไว้ล่างสุดก็ดีค่ะ

สำหรับคนว่างแบบเราลงวันธรรมดาไปเลย เรียนจ พ ศ วันละ 7 ชม. 10 วัน ใช้เวลา 3 สัปดาห์กว่า ๆ  หลังจบคอร์สแนะนำว่าให้เผื่อเวลาอ่านเองอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนสอบ เพื่อทบทวน ลุยทำแบบฝึกหัด และฝึกส่วนที่ยังพลาดบ่อยอยู่  อย่างเราจะแบ่งวันละสองพาร์ท อย่างเช่น วันแรกฟัง+พูด วันต่อมาอ่าน+เขียน สลับกันไป วิธีฝึกการอ่านกับการฟังของเราคือเน้นฝึกทำข้อสอบอย่างเดียวเลย ส่วนการเขียนก็เขียนส่งให้พี่ป๊อปตรวจ การพูดนี่ก็หาโจทย์จากแนวข้อสอบมาแล้วอัดเสียง แล้วมาเปิดฟัง ประเมิน band ตัวเอง

** แนะนำหนังสือ The Official Cambridge Guide to IELTS เล่มขาวคาดน้ำเงิน มีทั้ง genaral & academic ด้านหลังมี CD สำหรับพาร์ท Listening และ Speaking เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยสอบมาก่อน เล่มนี้ช่วยตั้งแต่ปูพื้น อธิบายลักษณะข้อสอบ บางหน้าแอบมีทริคเล็ก ๆ ให้ด้วย