ช่วงนี้ อย่างที่เราทราบกันดีครับ ว่าฝนตก น้ำท่วม และทำให้หลายคนเลี่ยงไม่ได้ จริงๆ ที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วมดังกล่าว 
และเราควรจะต้องดูแลอะไรบ้าง หลังรถเราลุยน้ำมาแล้ว 

ถ้าลุยน้ำท่วมในระดับที่ไม่สูงมาก ประมาณสัก 15 ซม. ยังไม่น่ากังวลมาก แต่ถ้าลุยสูงขนาด สักครึ่งล้อขึ้นไป จน น้ำสามารถเข้ามาในห้องโดยสาร อันนี้ ต้องระวังและตรวจเช็คจริงจังกันล่ะครับ

- ตรวจดูว่า หลังจากที่เราขับลุยน้ำท่วม เมื่อมีน้ำเข้ามาในห้องโดยสาร
ซึ่งอันดับแรก ควรนำรถไปจอดในที่โปร่ง หรือ จอดตากแดด 
และถ้าเป็นไปได้ควรถอดพวกเบาะ หรือ พรมที่ เปียกชื้นหากมีน้ำเข้ามาในห้องโดยสารไปซักตาก 
หรือเปลี่ยนมาใช้เป็น แผ่นยาง หรือ พลาสติกรองแทน ก็จะดีกว่า หากต้องขับผ่านบริเวณน้ำท่วมขัง

- ตรวจดูเกี่ยวกับตัวเครื่องยนต์ โดยดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาตรวจดูสีของตัวน้ำมัน ถ้ายังคงเป็นสีดำยังไม่น่ากังวล
แต่ถ้าสีออกเป็นน้ำตาล  นั่นเริ่มมีความเสี่ยงที่มีน้ำเข้าไปรวมผสมรวมน้ำมันเครื่อง
ซึ่งส่วนมากน้ำจะไหลเข้ามาตามรูอากาศ ซึ่งถ้าเจอสีน้ำตาล อันดับแรกเลย คือ ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองใหม่โดยทันที
รวมถึงตรวจน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ด้วยว่ามีน้ำเข้าไปหรือไม่ ถ้าเห็นสีเปลี่ยนไป หรือ ไม่มั่นใจก็ควรที่เปลี่ยนทิ้งใหม่ทั้งหมด 
 
- ระบบเบรก หากขับรถลุยน้ำ อาจพบปัญหาเบรกไม่อยู่เนื่องจากชื้น ดังนั้น นี่เป็นอีกจุดที่ต้องตรวจสอบว่าเบรกแล้วเฟด หากเวลาผ่านมาแล้วสักวันหนึ่ง ลองเช็คดูว่ายังเบรกอยู่ หรือ ไม่ หากผิดปกติ ก็ควรเข้าเช็ค ตรวจสอบ

- ระบบไฟ เราอาจพ่นสเปรย์ไล่ความชื้น ตามบริเวณที่มีระบบไฟ สายไฟ เพราะ เพื่อไล่ความชื้น เนื่องจาก น้ำกับไฟ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกกันอยู่แล้ว 
และเรายังควรเช็คไฟส่องสว่างว่าทุกดวงติดครบ ขณะขับขี่ 
และในกรณีฝนตกหนัก ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินวิ่ง ให้เปิดไฟหน้า และไฟตัดหมอกหน้า-หลัง  
เนื่องจากการเปิดไฟฉุกเฉิน นั้น ควรเปิดกรณี ที่เราจอดเสีย  ถ้าเปิดขณะวิ่งฝนตก จะรบกวนสายตาผู้ร่วมถนน 

- ตรวจเช็คจารบี สารหล่อลื่น ตามจุดหมุน เพราะ การขับลุยน้ำ อาจทำให้สารเหล่านี้ลดลง และฝืดได้ ซึ่งก็ควรอัดจารบี หรือ ฉีดสารหล่อลื่นเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี ไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำท่วมได้จะดีที่สุด ครับ จะได้ ไม่ต้องมาคอยดูแลรถ และเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายกับตัวรถ
ทำให้เราจะต้องเสียเงิน เสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมา