▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
อุทยานแห่งชาติ
จังหวัดชุมพร
เที่ยวทะเล
ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะชุมพรต่อบางสะพาน ตอนที่ 1
กลับมารีวิวอีกครั้งหลังห่างหายไปนาน หลังผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่ล็อคดาวน์ก็ถึงเวลาที่คนช่างเที่ยวอย่างเราจะโบยบินไปเที่ยวกันต่อ ช่วงปลดล็อคนี้เรียกว่าอัดอั้นมานานเลยเที่ยวดะมันทุกเดือนที่มีวันหยุดยาวกันเลย รอบนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผมเดินทางไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ๆ ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมากัน เป็นเวลา 3 คืน 4 วันในทริปตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะชุมพรต่อบางสะพาน ต้องบอกเลยว่าใครที่เป็นคนไม่ชอบคนเยอะ ๆ ในช่วงวันหยุดยาว ๆ ลองพิจารณามาเที่ยวรองดูสักครั้ง แล้วจะติดใจเหมือนผม เพราะเมืองรองก็มีดีไม่ได้เป็นรองเรื่องที่เที่ยวเลยนะครับ ก่อนอื่นมาดูแผนการเดินทางของทริปนี้ของผมก่อนรึกันครับ
วันแรก : เดินทางไปชุมพร
วันที่ 2 : เที่ยวย่านตัวเมืองชุมพร
วันที่ 3 : เที่ยวย่านอำเภอสวี
วันที่ 4 : เที่ยวย่านอำเภอปะทิว
วันที่ 5 : เที่ยวย่านอำเภอบางสะพาน และเดินทางกลับ
วันที่ 1 - 2 : เดินทางไปชุมพร และเที่ยวย่านตัวเมืองชุมพร
ทริปนี้ออกเดินทางไปชุมพรด้วยรถไฟ เพราะผมสู้ราคาตั๋วเครื่องบินที่ราคาพุ่งทะยานในช่วงเทศกาลหยุดยาวไม่ไหว ไหน ๆ สถานีรถไฟจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่ก็อยู่ใกล้บ้านแถมวิ่งผ่านไปจังหวัดชุมพรด้วย เลยรีบจองตั๋วรถไฟก่อนเริ่มทริปได้ประมาณ 1 เดือน ได้มาในราคา 710 บาท นอนสบาย ๆ บนรถไฟถึงชุมพรเลย
การเดินทางเที่ยวด้วยรถไฟเหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเวลา เพราะทุกอย่างเลทหมด ทั้งเวลารถมาถึงสถานีต้นทางที่ผมนั่งก็เลทไป 15 นาที กว่าจะถึงชุมพรปลายทางได้เลทไป 3 ชั่วโมง ตามตารางบอกว่ารถไฟจะมาถึงสถานีชุมพรประมาณตี 5 แต่เวลาวิ่งจริงถึง 8 โมงครับ โชคดีว่านอนเหยียดขาสบายบนรถเลยพอรับได้
ผมให้ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์มาส่งรถที่สถานีรถไฟชุมพร ได้โทรแจ้งเมื่อรถใกล้ถึงชุมพรให้ทางร้านทราบจะได้รอเราไม่นาน ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ผมเช่านี้บริการดีใช้ได้ คิดราคาค่าเช่ารถเกียร์ออโต้วันละ 250 บาท รวมผมเช่าขี่รถเที่ยวในทริปนี้ 4 วันเป็น 1,000 บาท บวกค่าน้ำมันตลอดทริปตกเป็นเงิน 328 บาท รวมเป็นค่าเดินทางทั้งหมด 1,328 บาท ถือว่าเป็นราคาประหยัดสำหรับการเที่ยวตระเวนไปหลายที่ในจังหวัดชุมพรนะครับ สำหรับเบอร์โทรร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ชุมพรนะครับ ผมเช่าร้านคุณจุ๊บ บริการดีใส่ใจลูกค้าดี เบอร์ 084 - 2944191
หลังจากคนพร้อม รถพร้อม ก็ถึงเวลาตระเวนเที่ยวตัวเมืองชุมพรกันแล้วครับ รู้สึกอิสระจริง ๆ กับการขี่รถชิล ๆ ชมวิวระหว่างทางไปเรื่อย ๆ อัดอั้นมานานตั้งแต่ล็อคดาวน์เพราะโควิด 19 จุดหมายแรกที่ผมขี่รถไปเที่ยวชมคือ จุดชมวิวแหลมหัวโม่ง - คอกวาง
ถนนที่วิ่งจากตัวเมืองชุมพรไปยังจุดชมวิวแหลมหัวโม่ง - คอกวางระยะแรกจะใช้เส้นทางขึ้นเหนือออกไปทางอำเภอปะทิว แล้วจึงแยกไปละแวกเดียวกับทางไปหาดทรายรี ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงได้ก็มาถึงจุดชมวิวดังกล่าว
จุดชมวิวแห่งนี้เงียบสงบดี ผู้คนไม่พลุกพล่านเพราะอยู่ปลายสุดของถนนและห่างไกลจากตัวเมือง ทำให้นาน ๆ ทีจึงมีคนท้องถิ่นแวะเวียนมานั่งปิกนิคหรือมาถ่ายรูปวิวกัน เป็นอะไรที่ผมชอบนะ เรามาเสพบรรยากาศ ชมความสวยที่เงียบสงบ ซึ่งบรรยากาศนี้คงหาได้ยากในแหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ ในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ดังนั้นช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว ๆ ต่อเนื่องกันผมจึงมักชอบเที่ยวที่เมืองรองมากกว่าเมืองหลัก เพราะชอบบรรยากาศแบบนี้
ชายหาดบริเวณจุดชมวิวนี้เป็นหาดหิน ไม่สามารถเล่นน้ำได้ เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเซลฟี่หรือนั่งปิกนิคหาอะไรมาทานเล่นริมทะเลเสียมากกว่า ที่นี่ได้รับการดูแลและรักษาความสะอาดพื้นที่ได้ดีจาก อบต. ในพื้นที่ มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงากว้างขวางและมีระเบียงชมวิวพร้อม แถมที่นี่ฟรีไม่เสียค่าเข้าชมด้วย
ต่อจากจุดชมวิวแหลมหัวโม่ง - คอกวาง ผมก็ขี่รถเลาะไปทางใต้เพราะวันนี้ตั้งใจเก็บที่เที่ยวย่านหาดทรายรี แล้วค่อยขี่รถไปนอนที่อำเภอสวี จุดหมายต่อไปคือ ปากหาด
ปากหาดนับเป็นทางผ่านที่ผมแวะชมก่อนจะไปยังจุดอื่น ๆ ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านชาวประมงใกล้ปากหาดเลยจอดรถแวะถ่ายรูปสักแชะ เนี่ยเป็นข้อดีของการขี่รถมาเที่ยวคนเดียว อยากดื่มด่ำชมวิวตรงไหนก็จอดรถถ่ายรูปได้เลยไม่ต้องดูสีหน้าใคร หรือสอบถามเพื่อนร่วมทริปก่อนว่าจะแวะเหมือนเราไหม
มาถึงชายทะเลบ้านปากหาดในช่วงเที่ยงวัน ความร้อนแรงของแดดช่างแรงกล้าเสียจริง บริเวณชายหาดแถวนี้ดูโล่งเตียนไปหมด ไม่มีต้นไม้ใหญ่แผ่ร่มเงาให้ริมชายหาดเลย มาถึงตอนเที่ยงน้ำทะเลแห้งลง แถมร้านค้าริมทางก็ปิดหมด บรรยากาศริมหาดที่นี่น่าจะดีตอนเย็น ๆ ที่แดดร่มลมตกแล้วเพราะเห็นมีร้านปิ้งย่างหมาล่า หมูกระทะตั้งขายเรียงรายริมหาดอยู่หลายร้าน
จากชายทะเลบ้านปากหาดก็ขี่รถต่อไปยัง จุดชมวิวเขามัทรี ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปราว 14 ก.ม. ใช้เวลาขี่รถไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ถึง
ถนนที่ขึ้นไปยังจุดชมวิวเขามัทรีแม้เป็นระยะทางที่สั้นแต่ก็ชันเอาการ ดังนั้นรถบัสหรือคนขับรถไม่คล่องไม่ควรขับรถขึ้นไปเองนะครับ ตรงทางขึ้นก่อนถึงทางชันจะมีรถสองแถวของคนท้องถิ่นจอดให้บริการพาขึ้นมาบนยอดเขาครับ ส่วนราคาเท่าไหร่อันนี้ไม่ทราบนะครับเพราะว่าผมไม่ได้ใช้บริการ แต่เห็นมีรถยนต์หลายคันไม่กล้าขับขึ้นมาก็ใช้บริการเหมารถสองแถวให้ขับขึ้นมาส่งกันเยอะแยะ
แต่พอขี่รถขึ้นมาถึงบนจุดชมวิวแล้วต้องร้องว้าว ว้าว...กันเลย เพราะวิวแจ่มมาก ลมพัดโชยตลอดไม่ร้อน มองเห็นวิวได้ 2 ฝั่งเลย ด้านบนมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมในท่าประทับนั่งตั้งอยู่ยอดบนสุดของจุดชมวิว
บริเวณจุดชมวิวมีร้านกาแฟอยู่ 2 ร้านพร้อมขายอาหารตามสั่งด้วย ร้านแรกเรียกแขกได้เยอะชื่อว่า "ร้านกาแฟถ้ำสิงห์" เพราะตัวร้านสร้างเป็นระเบียงยื่นออกไปยังจุดชมวิวมองเห็นท้องทะเลและเกาะแก่งต่าง ๆ ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรได้อย่างกว้างขวาง
ส่วนอีกร้านจะใกล้บันไดทางขึ้นไปลานชมวิวตรงรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ร้านนี้มีขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่มราคาไม่แพง ในร้านมีห้องแอร์ และระเบียงด้านนอกร้านที่ยื่นรับลมชมวิวของปากน้ำชุมพร แถมมีสัญญาณไวไฟให้ใช้ฟรีด้วย
หากเราไม่ได้สั่งอาหารและซื้อเครื่องดื่มที่ร้านทาน ก็สามารถขอเจ้าของร้านเดินไปถ่ายรูประเบียงด้านหลังร้านที่เป็นจุดชมวิวได้นะครับ ลองซูมภาพก็เห็นวิวปากน้ำชุมพรออกสู่ทะเลได้แจ่มขึ้น
หลังจากพักหลบแดดคลายร้อนกันแล้ว ผมก็ขี่รถต่อไปยัง หาดภราดรภาพ ซึ่งเป็นชายหาดที่อยู่ด้านล่างเมื่อมองจากจุดชมวิวเขามัทรี
หาดภราดรภาพช่วงต้นหาดจะเป็นชายหาดที่มีหินตั้งอยู่ระเกะระกะ เหมาะกับการถ่ายรูปชมวิวมากกว่ามาเล่นน้ำทะเลนะครับ
ถ้าหากใครต้องการวิวชายหาดแปลก ๆ ที่ไม่ได้มีแค่น้ำทะเลกับหาดทราย ผมว่าที่นี่ตอบโจทย์นี้ได้ดี เพราะผมเพลิดเพลินกับการหามุมต่าง ๆ ของชายหาดนี้อยู่นานพอสมควร
บริเวณถนนเลียบชายหาดแห่งนี้มีก็ร้านอาหารติดทะเลตั้งอยู่หลายร้าน สามารถแวะฝากท้องกันได้สำหรับคนที่ชอบกินอาหารพร้อมเสพวิวทะเลไปด้วย