🔴มาลาริน/12ต.ค.ไทยพบโควิด 5 รายจากตปท./เร่งคัดกรอง'โควิดพท.แม่สอด/ปิด11โรงเรียน แต่เปิดด่านเมียวดีตรวจเข้ม/ผลวิจัยใหม่

ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 5 ราย เดินทางมาจาก 4 ประเทศ



เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถาน การณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,641 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 59 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,454 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 128 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เป็นคนไทย ทั้ง 5 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จาก ฮ่องกง 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย และ สิงคโปร์ 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902106

เร่งคัดกรอง'โควิด19'คนพื้นที่แม่สอด


สธ.เผยผลสอบสวนโรค 74ผู้สัมผัสใกล้ชิดคนขับรถเมียนมาด่านแม่สอด ไม่พบติดเชื้อ “รถเก็บตัวอย่าง”เร่งตรวจคัดกรองคนในพื้นที่เป้า 1,500 คน
 
       เมื่อวันที่ 12  ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนยนา2019 หรือโรคโควิด 19 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากการที่บริเวณด่านแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก มีการตรวจพบพนักงานขับรถชาวเมียนมา 3 รายติดโควิด19 โดยได้เข้ารับการรักษาที่รพ.เมียวดีแล้ว ซึ่งการสอบสวนโรคในพื้นที่พบมีผู้สัมผัสใกล้ชิดในฝั่งไทยรวม 74 คน ซึ่งผลการตรวจเชื้อเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ แต่จะต้องมีการเฝ้าระวังจนครบ 14 วันต่อไป นอกจากนี้ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 3 คันได้ลงไปในพื้นที่ เพื่อทำการเก็บตัวอย่างจากคนในพื้นที่อ.แม่สอดที่คนไทยและต่างชาติ ตรวจค้นหาโควิด19 เป้าหมาย 1,500 คน  ถือเป็นการเฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่  และให้ความรู้กับประชาชน สร้างความเข้าใจว่า การพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่มีมาตรการที่เข้มแข็งและรวดเร็วในการเข้าเข้าไปควบคุมการแพร่เชื้อ

        สำหรับสถานการณ์โควิด19ระบาดในประเทศเมียนมา ในส่วนของรัฐที่ติดกับชายแดนประเทศไทย แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่เป็นชนบทจะเดินทางลำบากเมื่อเทียบกับเขตเมืองที่มีผู้ติดเชื่อจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ประเทศไทยดำเนินการป้องกีนการแพร่เชื้อจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทย มีการดำเนินการเข้มแข็งมาตั้งแต่เดือนก.ย. ซึ่ง 10 จังหวัดที่เป็นชายแดนของประเทศไทยมีการยกระดับมาตรการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเมื่อมีผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจจะเข้าไปดำเนินการควบคุมอย่างรวดเร็ว

 https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902166

สธ.ระดมทีมลุยคัดกรองทั้งไทย-พม่าทั่วแม่สอดสกัดโควิด ปิด 11 โรงเรียน แต่เปิดด่านการค้าเมียวดีปกติ



เผยแพร่: 12 ต.ค. 2563 12:37   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชายแดนแม่สอด - สาธารณสุขระดมทีมแพทย์-จนท.พร้อมรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ลุยตรวจคัดกรองโควิดทั้งไทย-พม่าทั่วแม่สอด ขณะที่เทศบาลฯ สั่งปิด 11 โรงเรียนในสังกัด ส่วนด่านฯ แม่สอด-เมียวดียังเปิดค้าปกติแต่ตรวจเข้ม
 
วันนี้ (12 ต.ค.) ท่ามกลางความหวาดวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังตรวจพบคนขับรถชาวพม่าที่ข้ามมาซื้อสินค้าในโกดังกลางเมืองแม่สอด จ.ตาก ติดเชื้อแล้ว 3 ราย ล่าสุดพบว่าตลาดสดทั้งสองแห่งกลางเมืองแม่สอดค่อนข้างเงียบเหงา แต่ห้างร้านต่างๆ ยังคงเปิดค้าขายตามปกติ

เฉพาะตลาดสดพาเจริญ ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนสองแผ่นดินได้มีการตั้งจุดคัดกรองรอบตัวตลาดอย่างเข้มงวด โดยมีการติดป้ายสำหรับผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้ามาในตลาดสดพาเจริญจะถูกปรับจำนวนเงิน 2,000 บาท พร้อมมีการเดินแจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มแรงงานและคนยากจนในชุมชนรอบตลาดสดทั้งสองแห่ง


 
ขณะที่ผู้บริหารเทศบาลนครแม่สอดได้มีคำสั่งปิด 11 โรงเรียนในสังกัดเป็นการชั่วคราว 1 วัน ก่อนที่จะกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 14 ต.ค. เพื่อเร่งทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคทุกพื้นที่ของโรงเรียน และลดการเดินทางของนักเรียนเข้ามาในพื้นที่กลางแม่สอด พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า วันนี้สาธารณสุขจังหวัดตากได้ส่งรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจชาวบ้านทั้งคนไทยและคนพม่าในพื้นที่เสี่ยงหลายชุมชนเขตเทศบาลนครแม่สอด ซึ่งคาดว่าจะสามารถตรวจกลุ่มเสี่ยงในช่วงบ่ายวันนี้ได้ประมาณ 4,000 ราย อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครแม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงหากไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้านเพื่อป้องกันระวังตนเอง


 
ส่วนจุดผ่านแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 สะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก วันนี้ยังคงเปิดเป็นปกติ และยังคงมีรถบรรทุกเล็กจากฝั่งจังหวัดเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ข้ามเข้ามายังจุดขนถ่ายสินค้าหน้าด่านฯ เข้าเป็นจำนวนมาก เพื่อรอขนถ่ายสินค้าจากรถขนส่งคู่ค้าฝั่งไทยที่นำสินค้ามาส่งบริเวณหน้าด่านฯ ตามออเดอร์เป็นวันที่สอง ท่ามกลางมาตรการการคัดกรองอย่างเข้มงวดสองเท่า



https://mgronline.com/local/detail/9630000104045
 
ผลวิจัยใหม่ชี้ไวรัส ‘โควิด-19’ อยู่รอดบน ‘แก้ว-ธนบัตร’ ได้นานสุดถึง 28 วัน
 

 
นักวิจัยออสเตรเลียเผยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งก่อให้เกิดโรคโควิด-19 สามารถอยู่รอดบนพื้นผิวต่างๆ เช่น ธนบัตร, แก้ว และสเตนเลสสตีล ได้นานสูงสุดถึง 28 วันในอุณหภูมิต่ำ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการล้างมือและทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้บ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ
ผลวิจัยโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติออสเตรเลีย (CSIRO) ที่เผยแพร่ลงวารสาร Virology Journal พบว่า....⬇️

ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอุณหภูมิ ไวรัสโควิด-19 จะสามารถอยู่รอดและทำให้เกิดการติดเชื้อ (infectious) ได้เป็นระยะเวลานานกว่าที่เคยศึกษากันมา

นักวิจัยของ CSIRO พบว่า ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ไวรัส SARS-COV-2 จะสามารถอยู่รอดได้นานถึง 28 วันบนพื้นผิวที่เรียบ เช่น ธนบัตร และหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ในทางตรงกันข้าม ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza A) สามารถอยู่รอดบนพื้นผิวเหล่านี้ได้ไม่เกิน 17 วัน

“ผลการศึกษานี้ทำให้เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการล้างมือ และการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวซึ่งอาจจะมีการสัมผัสกับเชื้อไวรัสอยู่บ่อยๆ” เชน ริดเดลล์ หัวหน้าทีมวิจัย ระบุ

นักวิจัยได้ทำการทดลองโดยนำน้ำมูกสังเคราะห์ที่มีเชื้อไวรัสไปป้ายตามพื้นผิวต่างๆ ในปริมาณที่ใกล้เคียงกับตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 และทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน โดยมีการควบคุมอุณหภูมิที่ 20, 30 และ 40 องศาเซลเซียสตามลำดับ

ผลการทดสอบพบว่า ไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพอากาศที่เย็นมากกว่าอากาศร้อน, บนพื้นผิวที่เรียบมากกว่าพื้นผิวขรุขระ และอยู่บนธนบัตรกระดาษได้นานกว่าธนบัตรที่ทำจากพลาสติก

“การเข้าสู่ฤดูร้อนจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างแน่นอน เนื่องจากเชื้อไวรัสไม่สามารถอยู่รอดได้นานในสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า” ริดเดลล์ระบุ โดยหมายถึงฤดูร้อนในซีกโลกใต้ที่กำลังจะมาถึง

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้ทำการทดลองในที่มืดเพื่อขจัดตัวแปรจากแสงอัลตราไวโอเลต เนื่องจากการสัมผัสแสงแดดโดยตรงนั้นสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้

“ฉะนั้น ระยะเวลาการอยู่รอดของไวรัสในสภาพแวดล้อมจริงจึงน่าจะสั้นกว่าที่เราค้นพบ” ริดเดลล์ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

นักวิจัยยังพบด้วยว่า โปรตีนและไขมันจากของเหลวในร่างกายสามารถยืดระยะเวลาการอยู่รอดของไวรัสได้ ซึ่งอาจเป็นคำตอบว่าเหตุใดโควิด-19 จึงมักแพร่ระบาดจากสถานที่มีอุณหภูมิต่ำอย่างโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์
ออสเตรเลียถือว่าประสบความสำเร็จยิ่งกว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ ในการต่อสู้โควิด-19 โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ราวๆ 27,000 คน และเสียชีวิตเพียง 898 คน จากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน

ที่มา : รอยเตอร์

https://mgronline.com/around/detail/9630000104035

ติดตามข่าวโควิด19 เพื่อทราบข่าวคราวกันนะคะ

ใฝ่รู้เพื่ออยู่รอดในสถานการณ์ที่ไทยยังปลอดภัยอยู่ แต่ทั่วโลกวิกฤตหนัก

รัฐบาลทำงานอย่างเต็มกำลังทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ตรวจคัดกรองดูแลคนไทยที่เสี่ยงภัยอย่างเข้มข้น

ไม่ประมาท อย่าทำการ์ดตกนะคะ...อมยิ้ม36

สู้ๆค่ะ....พาพันไฟท์ติ้ง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่