The Eight Hundred (นักรบ 800) (Guan Hu)
8.5/10
"ดุดัน และสมจริงมากในการนำเสนอ ราวกับพาคนดูไปอยู่ท่ามกลางห่ากระสุนในสมรภูมิ"
...
ผิดคาด....น่าจะใช้คำนี้ได้เลยสำหรับการได้ดูหนังสงครามเรื่อง The Eight Hundred หรือ นักรบ 800 ...หนังสงครามที่สะท้อนภาพประวัติศาสตร์ของสงครามจีน ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ที่หน้าหนังเหมือนจะเชิดชูวีรบุรุษทหารจีนที่ร่วมกันปกป้องเมืองและต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิด แต่แท้ที่จริงตัวหนังนั้นแฝงอะไรมากกว่า อย่างน้อยที่ผมสัมผัสได้ นี่คือหนังที่พูดถึงก้นบึ้งของความเป็นมนุษย์ที่ทุกคนล้วนรักตัวกลัวตาย และหนังก็สะท้อนประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจนควบคู่ไปกับการสร้างภาพความเป็นฮีโร่ของนักรบที่น่ายกย่อง
The Eight Hundred คือเรื่องจริงในเกร็ดประวัติศาสตร์สงครามจีน ญี่ปุ่นครั้งที่สองในช่วงปี คศ.1937 ที่กองทัพญี่ปุ่นบุกยึด ตีราบแผ่นดินจีนจนมาถึงเมืองท่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญคือเซี่ยงไฮ้ ก่อนจะบุกไปยึดนานกิงที่เป็นเมืองหลวงในขณะนั้น และที่เซี่ยงไฮ้นี่เอง มีกองพัน 88 ที่ได้รับคำสั่งจากผู้นำในขณะนั้นคือเจียงไคเช็ค ให้อยู่ตรึงกำลังเพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นยึดเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ และกองทัพ 88 นี้ตามประวัติศาสตร์ก็คือกองกำลังทหารปลายแถว (ในขณะที่ทหารจริงไปเตรียมกำลังพลที่นานกิง) ที่ไม่ได้มีฝีมือเก่งกาจอะไรเลยและจำนวนกำลังพลที่มีก็แค่สี่ร้อยกว่านาย แต่ต้องบอกตัวเลข 800 นายเพื่อสร้างภาพ สร้างความฮึกเหิมให้กำลังพล ...กองพัน 88 นี้ได้ใช้โกดังร้างสี่ห้าง เป็นเสมือนป้อมปราการ เป็นดังสมรภูมิต้งมั่นในการรบ และโกดังนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซูโจว ตรงข้ามกับเขตพื้นที่ให้เช่าของชาวตะวันตกที่มีทั้งชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และพลเมืองชาวจีนบางส่วนอาศัยอยู่ และยังเป็นพื้นที่ปลอดสงคราม เพราะทั้งอังกฤษ อเมริกาเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างเชื้อชาตินี้
ด้วยความที่เป็นทหารที่ไม่เชี่ยวชาญการรบ บางคนถูกเกณฑ์เข้ากองทัพ บางคนจะจับปืนยังไม่กล้าเลย ทำให้หนังมีมุมหลายมุมในการเล่าชีวิตของทหารในกองทัพได้หลากหลาย ทั้งทหารขี้กลัว ทหารที่ฟูมฟายเพราะรักตัวกลัวตาย ทหารที่จำใจต้องยิงปืนฆ่าเชลยศึกเพราะโดนบังคับ ทหารที่คิดจะหนีเพื่อข้ามฝั่งไปยังเขตปลอดสงคราม และหนังก็เลือกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ควบคู่ไปกับภาพของการโจมตี ภาพของสงครามที่ทั้งดุดัน สมจริงสมจังมากๆ ภาพของความโหดร้ายของสงคราม การฆ่ากัน ภาพของห่ากระสุนต่างๆ เหมือนกับว่าคนดูอย่างเราเป็นหนึ่งในทหารที่เข้าไปอยู่ในสมรภูมิรบที่โกดังสี่ห้าง และนำเสนอได้อย่างโคตรจริงจนหลายๆ ตอนถึงกับขนลุก หลายตอนถึงกับน้ำตาซึมถึงความโหดร้ายที่มนุษย์ทำกับมนุษย์ด้วยกัน หลายตอนเอาใจช่วย หลายตอนเข้าใจถึงความอ่อนแอในใจทหารกองพัน 88 เข้าใจถึงความกลัวตาย รักชีวิต รักครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง เข้าใจถึงความเห็นแก่ตัวที่จะเอาตัวรอด ซึ่งหนังก็ผสมผสานประเด็นเหล่านี้ได้อย่างกลมกลืน ก่อนมาถึงช่วงพีคที่ทุกคนต้องสู้เพื่อปกป้องชาติและแผ่นดิน ภาพที่เห็นในหนังเราจะเห็นคนที่เคยขี้ขลาดตาขาว กลับมาเป็นวีรบุรุษที่สู้จนหยดสุดท้าย
อีกมุมหนึ่งของหนังที่ชอบมาก และโคตรจะมีความ Irony มากๆ คือภาพของโกดังและเขตเมืองปลอดอาวุธที่โคตรจะ contrast ...ฝั่งหนึ่งต้องอยู่กันแบบร้อนๆ หนาวๆ เพราะไม่รู้ว่าข้าศึกจะบุกมาเมื่อไร อีกฝั่งกลับมีแสงสี มีการร้องรำทำเพลง ราวกับเมืองแห่งความฝันที่ไม่มีสงครามใดๆ ทั้งๆ ที่ห่างกันแค่แม่น้ำกั้น มันเหมือนกระจกสะท้อนภาพความฝันกับความเป็นจริง ...อีกฝั่งส่องกล้องเห็นอีกฝั่งที่กำลังโดนเครื่องบินรบบินมายิงกระสุนฆ่ากันตาย เพื่อปกป้องชีวิตผู้คนของอีกฝั่ง ...มันทั้งขมขื่นและเจ็บปวด และหนังก็ฉายภาพนี้ออกมาได้อย่างเห็นชัด ...มันสะท้อนความจริงที่ว่าคนที่อยู่แถวหน้า จะปกป้องชีวิตของคนที่อยู่แนวหลังเอง ...สารภาพผมแอบสะอึกและสะเทือนใจในประเด็นนี้มากๆ
จะว่าไป ถ้าจะมองในแง่โปรดักชั่นทั้งงานด้านภาพ งานด้านเสียง ดนตรีประกอบ หรือแม้แต่การแสดงของนักแสดงหลายคน ก็ทำได้ดีงามไม่แพ้งานโปรดักชั่นใหญ่ๆ จากฮอลลีวูด ...จะมีแค่ช่วงต้นเรื่องที่หนังเล่าเรื่องแบบไปเร็วมาก ด้วยเพราะตัวละครที่มีมากมายหลากหลายชีวิต หลากหลายเหตุการณ์ ทำให้คนดูอย่างเราไม่สามารถโฟกัสได้จุดใด จุดหนึ่ง กว่าจะเข้าถึงตัวหนังก็ค่อนไปทางกลางเรื่อง และหลังจากนั้นหนังก็สามารถดึงอารมณ์ร่วมของเราเข้าไปอยู่ในหนังราวกับเป็นหนึ่งชีวิตในนั้น ...แอบเสียดายนะ ถ้าหนังตัดให้สั้นกว่านี้สักนิดจะสมบูรณ์ เพอร์เฟคมากๆ
The Eight Hundred คือหนังสงครามที่ไม่ใช่แค่พูดถึงความเป็นวีรบุรูษแบบหนังสงครามทั่วไปเท่านั้น แต่คุณค่าที่หนังเรื่องนี้ให้มากกว่าความรักชาติ รักแผ่นดินเกิด คือคุณค่าความเป็นมนุษย์ คุณค่าที่หนังเข้าถึงจิตใจที่แท้จริงของมนุษย์แม้จะเป็นทหารหาญแต่เนื้อแท้ก็ยังคงเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ มีจิตใจ มีคนที่รัก มีครอบครัวที่รออยู่ ...นี่คือหนึ่งในหนังสงครามที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นบทบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่แสนเจ็บปวดทั้งของคนจีนหรือแม้แค่คนญี่ปุ่นเอง และเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนว่ายิ่งใหญ่เหมือนแผ่นดินเกิด และทำมาได้ดีงามไม่แพ้หนังฮอลลีวู้เลยแม้แต่น้อย ...ควรดูในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่งครับ แนะนำเลยครับ
#TheEightHundred
#นักรบ800
#GoldenAEntertainment
#เอ้อระเหยลอยลม
รีวิว : The Eight Hundred นักรบ 800 ...ดุดัน สมจริงมาก ราวกับพาคนดูไปอยู่ท่ามกลางห่ากระสุนในสงคราม
8.5/10
"ดุดัน และสมจริงมากในการนำเสนอ ราวกับพาคนดูไปอยู่ท่ามกลางห่ากระสุนในสมรภูมิ"
...
ผิดคาด....น่าจะใช้คำนี้ได้เลยสำหรับการได้ดูหนังสงครามเรื่อง The Eight Hundred หรือ นักรบ 800 ...หนังสงครามที่สะท้อนภาพประวัติศาสตร์ของสงครามจีน ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ที่หน้าหนังเหมือนจะเชิดชูวีรบุรุษทหารจีนที่ร่วมกันปกป้องเมืองและต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิด แต่แท้ที่จริงตัวหนังนั้นแฝงอะไรมากกว่า อย่างน้อยที่ผมสัมผัสได้ นี่คือหนังที่พูดถึงก้นบึ้งของความเป็นมนุษย์ที่ทุกคนล้วนรักตัวกลัวตาย และหนังก็สะท้อนประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจนควบคู่ไปกับการสร้างภาพความเป็นฮีโร่ของนักรบที่น่ายกย่อง
The Eight Hundred คือเรื่องจริงในเกร็ดประวัติศาสตร์สงครามจีน ญี่ปุ่นครั้งที่สองในช่วงปี คศ.1937 ที่กองทัพญี่ปุ่นบุกยึด ตีราบแผ่นดินจีนจนมาถึงเมืองท่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญคือเซี่ยงไฮ้ ก่อนจะบุกไปยึดนานกิงที่เป็นเมืองหลวงในขณะนั้น และที่เซี่ยงไฮ้นี่เอง มีกองพัน 88 ที่ได้รับคำสั่งจากผู้นำในขณะนั้นคือเจียงไคเช็ค ให้อยู่ตรึงกำลังเพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นยึดเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ และกองทัพ 88 นี้ตามประวัติศาสตร์ก็คือกองกำลังทหารปลายแถว (ในขณะที่ทหารจริงไปเตรียมกำลังพลที่นานกิง) ที่ไม่ได้มีฝีมือเก่งกาจอะไรเลยและจำนวนกำลังพลที่มีก็แค่สี่ร้อยกว่านาย แต่ต้องบอกตัวเลข 800 นายเพื่อสร้างภาพ สร้างความฮึกเหิมให้กำลังพล ...กองพัน 88 นี้ได้ใช้โกดังร้างสี่ห้าง เป็นเสมือนป้อมปราการ เป็นดังสมรภูมิต้งมั่นในการรบ และโกดังนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซูโจว ตรงข้ามกับเขตพื้นที่ให้เช่าของชาวตะวันตกที่มีทั้งชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และพลเมืองชาวจีนบางส่วนอาศัยอยู่ และยังเป็นพื้นที่ปลอดสงคราม เพราะทั้งอังกฤษ อเมริกาเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างเชื้อชาตินี้
ด้วยความที่เป็นทหารที่ไม่เชี่ยวชาญการรบ บางคนถูกเกณฑ์เข้ากองทัพ บางคนจะจับปืนยังไม่กล้าเลย ทำให้หนังมีมุมหลายมุมในการเล่าชีวิตของทหารในกองทัพได้หลากหลาย ทั้งทหารขี้กลัว ทหารที่ฟูมฟายเพราะรักตัวกลัวตาย ทหารที่จำใจต้องยิงปืนฆ่าเชลยศึกเพราะโดนบังคับ ทหารที่คิดจะหนีเพื่อข้ามฝั่งไปยังเขตปลอดสงคราม และหนังก็เลือกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ควบคู่ไปกับภาพของการโจมตี ภาพของสงครามที่ทั้งดุดัน สมจริงสมจังมากๆ ภาพของความโหดร้ายของสงคราม การฆ่ากัน ภาพของห่ากระสุนต่างๆ เหมือนกับว่าคนดูอย่างเราเป็นหนึ่งในทหารที่เข้าไปอยู่ในสมรภูมิรบที่โกดังสี่ห้าง และนำเสนอได้อย่างโคตรจริงจนหลายๆ ตอนถึงกับขนลุก หลายตอนถึงกับน้ำตาซึมถึงความโหดร้ายที่มนุษย์ทำกับมนุษย์ด้วยกัน หลายตอนเอาใจช่วย หลายตอนเข้าใจถึงความอ่อนแอในใจทหารกองพัน 88 เข้าใจถึงความกลัวตาย รักชีวิต รักครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง เข้าใจถึงความเห็นแก่ตัวที่จะเอาตัวรอด ซึ่งหนังก็ผสมผสานประเด็นเหล่านี้ได้อย่างกลมกลืน ก่อนมาถึงช่วงพีคที่ทุกคนต้องสู้เพื่อปกป้องชาติและแผ่นดิน ภาพที่เห็นในหนังเราจะเห็นคนที่เคยขี้ขลาดตาขาว กลับมาเป็นวีรบุรุษที่สู้จนหยดสุดท้าย
อีกมุมหนึ่งของหนังที่ชอบมาก และโคตรจะมีความ Irony มากๆ คือภาพของโกดังและเขตเมืองปลอดอาวุธที่โคตรจะ contrast ...ฝั่งหนึ่งต้องอยู่กันแบบร้อนๆ หนาวๆ เพราะไม่รู้ว่าข้าศึกจะบุกมาเมื่อไร อีกฝั่งกลับมีแสงสี มีการร้องรำทำเพลง ราวกับเมืองแห่งความฝันที่ไม่มีสงครามใดๆ ทั้งๆ ที่ห่างกันแค่แม่น้ำกั้น มันเหมือนกระจกสะท้อนภาพความฝันกับความเป็นจริง ...อีกฝั่งส่องกล้องเห็นอีกฝั่งที่กำลังโดนเครื่องบินรบบินมายิงกระสุนฆ่ากันตาย เพื่อปกป้องชีวิตผู้คนของอีกฝั่ง ...มันทั้งขมขื่นและเจ็บปวด และหนังก็ฉายภาพนี้ออกมาได้อย่างเห็นชัด ...มันสะท้อนความจริงที่ว่าคนที่อยู่แถวหน้า จะปกป้องชีวิตของคนที่อยู่แนวหลังเอง ...สารภาพผมแอบสะอึกและสะเทือนใจในประเด็นนี้มากๆ
จะว่าไป ถ้าจะมองในแง่โปรดักชั่นทั้งงานด้านภาพ งานด้านเสียง ดนตรีประกอบ หรือแม้แต่การแสดงของนักแสดงหลายคน ก็ทำได้ดีงามไม่แพ้งานโปรดักชั่นใหญ่ๆ จากฮอลลีวูด ...จะมีแค่ช่วงต้นเรื่องที่หนังเล่าเรื่องแบบไปเร็วมาก ด้วยเพราะตัวละครที่มีมากมายหลากหลายชีวิต หลากหลายเหตุการณ์ ทำให้คนดูอย่างเราไม่สามารถโฟกัสได้จุดใด จุดหนึ่ง กว่าจะเข้าถึงตัวหนังก็ค่อนไปทางกลางเรื่อง และหลังจากนั้นหนังก็สามารถดึงอารมณ์ร่วมของเราเข้าไปอยู่ในหนังราวกับเป็นหนึ่งชีวิตในนั้น ...แอบเสียดายนะ ถ้าหนังตัดให้สั้นกว่านี้สักนิดจะสมบูรณ์ เพอร์เฟคมากๆ
The Eight Hundred คือหนังสงครามที่ไม่ใช่แค่พูดถึงความเป็นวีรบุรูษแบบหนังสงครามทั่วไปเท่านั้น แต่คุณค่าที่หนังเรื่องนี้ให้มากกว่าความรักชาติ รักแผ่นดินเกิด คือคุณค่าความเป็นมนุษย์ คุณค่าที่หนังเข้าถึงจิตใจที่แท้จริงของมนุษย์แม้จะเป็นทหารหาญแต่เนื้อแท้ก็ยังคงเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ มีจิตใจ มีคนที่รัก มีครอบครัวที่รออยู่ ...นี่คือหนึ่งในหนังสงครามที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นบทบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่แสนเจ็บปวดทั้งของคนจีนหรือแม้แค่คนญี่ปุ่นเอง และเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนว่ายิ่งใหญ่เหมือนแผ่นดินเกิด และทำมาได้ดีงามไม่แพ้หนังฮอลลีวู้เลยแม้แต่น้อย ...ควรดูในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่งครับ แนะนำเลยครับ
#TheEightHundred
#นักรบ800
#GoldenAEntertainment
#เอ้อระเหยลอยลม