อยากนอนแพกาญฯ แบบสัมผัสธรรมชาติเต็ม ๆ
แนะนำที่นี่เลย River Kwai Jungle Rafts
แพ สายธรรมชาติ ที่เหมาะกับการพักผ่อน
กับครอบครัว เพื่อน คนรัก
💵 ราคา
3,200 บาท / ห้อง
ราคานี้รวมค่าเดินทาง (เดี๋ยวอธิบายในรูป)
และอาหารเย็น อาหารเช้า
*แต่เพิ่มเติมไว้นิดนึงว่าที่นี่.....
ไม่มีไฟฟ้านะจ้ะ ไม่มีคือ ไม่มีอ่ะแกกกกกก
ไม่มีไฟ ไม่มีแอร์ พัดลมไม่มีอยู่แล้นนนนนน
ใครสายโซเชี่ยล ก็เตรียมพาวเวอร์แบงก์ กับธูป ไปปักขอสัญญาณกันเอา
เพราะบอกเลย สัญญาณหายากกว่าปลาคังในแม่น้ำข้างหน้าถ้าแกดำเอง
ถ้าใครสนใจ
เอ๊าาาาา ตามไปดูคำอธิบายใต้รูป!!!
การใช้เวลา อยู่กับคนที่เรารัก
โดยมีธรรมชาติโอบล้อม
ช่างเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ จริง ๆ 🥰🌿
ธรรมชาติที่ กาญจนบุรี
เป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่น่าหลงใหลมาก ๆ 🥺
และด้วยความเงียบสงบ
แบบไร้ไฟฟ้า
ยังทำให้เรามีโอกาสได้เจอเจ้าทางช้างเผือกอีกด้วย
เริ่ม!!!
เมื่อเตริกเริ่มเดินทางไปที่ รีสอร์ท หลังจากจองที่พัก
ก็ไม่ได้ศึกษารีวิวอะไรเกี่ยวกับที่นี่อีกเลย
พูดง่าย ๆ คืออยากไปก็ไปเลย
ก็ไม่ได้ยากเย็นนี่ พวงมาลัยในมือ น้ำมันเต็มถ้ง
ก็ไปตาม Google Map เลยจ้าาาาา
แต่พอมาถึงตามที่ Google Map ปักไว้
นอกจากจะไม่เจอทางเข้ารีสอร์ทแล้ว
ยังเจอนี่.......
ไม่ชัดช้ะ?? ดูรูปถัดไปจ้ะ
อีเวงงงงงงง!!!!
Google Map เอากูอีกแล้ว!!!!
คือการจะมาที่แพนี้เราต้องขับผ่านน้ำตก ไทรโยคน้อย มาประมาณ เกือบ ๆ 10 กิโล
แต่อีป้ายนี้บอกให้ขับกลับไปอีก 7 กิโล
เท่ากับจริง ๆ ผ่านไทรโยคมา 3 กิโลก็ถึงแล้ว!!!
ก็ว่าไปตามนี้
คือเราต้องขับไปที่
‘ท่าเรือพุตะเคียน’
เมื่อมาถึงก็ทำให้เราได้เข้าใจว่า
การจะเข้าไปที่แพจังเกิ้ลราฟท์
เราต้องจอดรถทิ้งไว้
แล้วนั่งเรือเข้าไป
“เช้ดดดดด แค่เริ่มก็ธรรมชาติเลย”
(นี่คือคำที่พูดกับรุ่นน้อง และแฟน โดยยังไม่รู้ชะตากรรมที่รออยู่)
วิวท่าเรือ ที่มาต้อนรับพวกเรา เหล่านักเดินทาง
ก็ถือว่าหายหงุดหงิดจากกูเกิ้ลแมพไปได้นะดับนึง
หลังจากโทรบอกทางที่พักว่าเรามาถึง
เขาก็จะส่งเรือหางยาวมารับเรา
****เพิ่มเติม
ถ้ามาช้ากว่า 6 โมงเย็น เราจะต้องเสียค่าเรือเข้าที่พักเอง
ซึ่งไม่ทราบราคาแน่นอน รู้แต่ว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่ ๆ
นี่คือเรือหางยาวของเรา
เรานั่งเรือหางยาว ผ่านแม่น้ำแควไปประมาณ 20 นาที
ถึงแล้วววววววว
(ขออภัยถ้ามืดไป คือเราหลง เลยถึงเย็น -“-)
นี่คือจุดเช็คอิน ลงแพ ของพวกเราจ้าาาา
เมื่อเช็คอิน และรับกุญแจเรียบร้อย
สิ่งที่ Reception แจ้งเราก็คือ
1. ห้องพักอยู่ทางไหน
2. อาหารเย็นเริ่ม 19:00 น.
3. ห้ามส่งเสียงดังหลัง 22:00 น.
4. อาหารเช้าเริ่ม 7:00 น. ที่เดียวดับที่กินอาหารเย็น
5. เช็คเอ้าท์ก่อน 12:00 น. และขึ้นเรือกลับท่าพุตะเคียน
และ
6. ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า
.........
ห๊ะ!!!!
ร้อง หนักมาก!!!!!!!
คือไม่ได้เอาพาวเวอร์แบงค์มาจากรถ
ยยย หลังจากทำใจได้เรื่องไม่มีไฟฟ้าใช้
ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเข้าไปกินอาหารเย็น
ซึ่งราคาค่าอาหารรวมกับค่าที่พักไปแล้ว
บรรยากาศมันดูคลาสสิคใช่มั้ยล่ะ
ก็จะไม่คลาสสิคได้ไง
ทั้งแพมีเพียงแสงจากตะเกียง ที่ให้ความสว่าง
นี่ถือเป็นการ Dinner ใต้เสียงแทนกับน้องปานครั้งแรกอย่างแท้จริง....
เทียนก็ไม่ถูก เรียกตะเกียงแหละมั้ง
ซึ่งอาหารเย็นที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้เรา
เป็นกับข้าวทั่ว ๆ ไป แต่..... เออ อร่อยว่ะ
ที่สำคัญ กับข้าวเติมได้ไม่อั้นเลยจ้าาาาา
หลังจากเราอิ่มท้อง ก็มานั่งสังสรรค์ ดื่มด่ำกันหน้าห้องพัก
นั่งไปนั่งมา
เตริกก็มองไปบนฟ้า และเห็นดาวพร่างพราย
จนสังเกตเห็นดาวกลุ่มนึง ที่อยู่หลังภูเขา
สว่างไสวผิดปกติ
จึงคว้ากล้องขึ้นมาแล้วตั้งถ่าย
สรุป!!!
ช้าง!!!!!!!
ช้างว่ะ!!!!!!!!
ทางช้างเผือกที่ไม่ได้เจอมา 2-3 ปีเต็ม ๆ
หลังจากนั้น เตริกก็ตั้งถ่ายอย่างสนุกสนาน จนกล้องแบตหมดไปเลยทีเดียว
จากอาการแฮงก์เมื่อคืน
ทำมห้ไม่สามารถตื่นมาดื่มด่ำบรรยากาศหมอกยามเช้าของแม่น้ำแคว
แต่ถือว่าบรรยากาศไม่เลวเลยทีเดียว
อาจเป็นเพราะความเงียบสงบของที่พัก
ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง กับแฟน กับเพื่อน ๆ ได้อย่างเต็มที่
อาหารเช้า ก็เป็นอะไรที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
นี่คือบรรยากาศที่พัก ที่เก็บมาฝาก ก่อนเราจะออกเดินทางกลับกัน
จบกันไปแล้วครับ กับการรีวิวที่พัก
River Kwai Jungle Rafts
จ. กาญจนบุรี
เป็นยังไงกันบ้างครับ
ถ้าเพื่อน ๆ เคยไปยังไง มาแชร์ความคิดเห็นกันนะครัว
แล้วอย่าลืมรอติดตามรีวิ
[CR] นอนแพกาญฯ สายธรรมชาติ ไร้ไฟฟ้า ไร้สัญญาณโทรศัพท์ ที่นี่เลย River Kwai Jungle Rafts Resort
แนะนำที่นี่เลย River Kwai Jungle Rafts
กับครอบครัว เพื่อน คนรัก
3,200 บาท / ห้อง
และอาหารเย็น อาหารเช้า
ไม่มีไฟฟ้านะจ้ะ ไม่มีคือ ไม่มีอ่ะแกกกกกก
โดยมีธรรมชาติโอบล้อม
เป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่น่าหลงใหลมาก ๆ 🥺
แบบไร้ไฟฟ้า
ก็ไม่ได้ศึกษารีวิวอะไรเกี่ยวกับที่นี่อีกเลย
ก็ไปตาม Google Map เลยจ้าาาาา
นอกจากจะไม่เจอทางเข้ารีสอร์ทแล้ว
คือการจะมาที่แพนี้เราต้องขับผ่านน้ำตก ไทรโยคน้อย มาประมาณ เกือบ ๆ 10 กิโล
การจะเข้าไปที่แพจังเกิ้ลราฟท์
แล้วนั่งเรือเข้าไป
ก็ถือว่าหายหงุดหงิดจากกูเกิ้ลแมพไปได้นะดับนึง
เขาก็จะส่งเรือหางยาวมารับเรา
ถ้ามาช้ากว่า 6 โมงเย็น เราจะต้องเสียค่าเรือเข้าที่พักเอง
ซึ่งไม่ทราบราคาแน่นอน รู้แต่ว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่ ๆ
(ขออภัยถ้ามืดไป คือเราหลง เลยถึงเย็น -“-)
2. อาหารเย็นเริ่ม 19:00 น.
3. ห้ามส่งเสียงดังหลัง 22:00 น.
4. อาหารเช้าเริ่ม 7:00 น. ที่เดียวดับที่กินอาหารเย็น
5. เช็คเอ้าท์ก่อน 12:00 น. และขึ้นเรือกลับท่าพุตะเคียน
ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเข้าไปกินอาหารเย็น
เป็นกับข้าวทั่ว ๆ ไป แต่..... เออ อร่อยว่ะ
นั่งไปนั่งมา
สว่างไสวผิดปกติ
ทำมห้ไม่สามารถตื่นมาดื่มด่ำบรรยากาศหมอกยามเช้าของแม่น้ำแคว
อาจเป็นเพราะความเงียบสงบของที่พัก
ถ้าเพื่อน ๆ เคยไปยังไง มาแชร์ความคิดเห็นกันนะครัว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้