ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน แทบจะออกไปไหนไม่ได้ นอกจากนอนอยู่บ้านใช้ชีวิตกับอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน จนบางทีก็เบื่อเหมือนกันที่จะต้องทำอะไรแบบนี้เดิมๆทุกวัน ถ้าถามเรื่องไปเที่ยวช่วงหน้าฝนคงจะนึกไม่ค่อยจะออกเท่าไหร่นักแต่จริงๆแล้วมีอีกหลายๆที่ ที่ควรจะไปช่วงหน้าฝน เช่น
River Kwai Jungle Rafts ,กาญจนบุรี ..
ถ้าพูดถึงที่พักดีๆหลายคนคงมีนิยามสำหรับคำนี้อยู่หลากหลายแบบ อาจจะเป็น การเดินทางที่ง่าย มีสิ่งอำนวยสะดวกครบ แต่กลับที่นี่ ตรงกันข้ามทุกอย่าง แต่ก็นับว่าเป็นที่พักที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
ที่นี่ไม่มี Free Wifi
ที่นี่ไม่มี สัญญาณโทรศัพท์และ 4G
ที่นี่ไม่มี ไฟฟ้า
เรามาพักที่นี่ 2 วัน 1 คืน เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ฟังเพลงที่ชอบและอ่านหนังสือที่หวังว่าจะอ่านให้จบ(ซักที) เราเดินทางจากกรุงเทพโดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานีน้ำตกหลังจากนั้นก็จะมีรถตู้มาส่งที่ท่าเรือรีโซเทลเพื่อนั่งเรือหางยาวไปที่แพ
เรามาถึงที่พักทำการเช็คอินและเข้าห้อง พนักงานที่นี่คือชาวมอญทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมอญข้างบน เราเข้าห้องไปก็พบกับเตียงนอน 2 เตียงตามมาตรฐานที่พักทั่วไป มีมุ้ง และ มีพัดให้อีก 2 อัน เผื่อจะร้อน
ทั้งด้านหนัาและด้านหลังห้องพักมีเปลให้นอนฟังเสียงธรรมชาติ อากาศดีมาก เราสามารถพบเห็นชาวต่างชาติต่างออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจในตามฉบับของตัวเอง บางคนก็นนอนฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือพูดคุยกับคนข้างๆที่มาร่วมประสบการณ์ด้วยกัน ไม่มีบรรยากาศเสียงดังและความวุ่นวาย
อยากที่เล่าไปข้างต้นว่าที่ River Kwai Jungle Rafts นั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ เราจึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับไฟฉายและตะเกียงเจ้าพายุ กลิ่นน้ำมันก๊าดนั้นมันเป็นเอกลักษณ์จริงๆ มันทำให้เราเลิกคิดถึงบรรยากาศในเมืองไปได้เลย
หลังจากที่ฝนตกในช่วงบ่าย และอ่านหนังสือจบไปแล้ว 1 เล่ม เราก็เดินดูบรรยากาศบริเวณแพ และพบว่านอกจากจะมีบริการนวดแผนไทยแล้ว ตอนเย็นก็ยังมีโชว์ระบำมอญอีกด้วยในราคาตั๋ว 160 บาท หรือใครจะเดินขึ้นไปดูหมู่บ้านมอญก็สามารถเดินขึ้นไปได้เลย อยู่ติดกับแพ ข้างบนก็จะมีขายของที่ระลึก แคมป์ช้าง วัดมอญ สามารถขอแผนที่จาก reception ได้ (Map น่ารักมาก)
ด้วยความที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ มื้อเย็นของเราเลยต้องพึ่งเจ้าตะเกียงนี่แหละ ทำให้กลายเป็นมื้อใต้แสงตะเกียงไปโดยปริยายและพบว่าบรรยากาศใช้ได้เลยแหะ โรแมนติกดีเหมือนกัน
หลังจากทานอาหารเย็นแล้วเราก็มานั่งเล่นที่บริเวณหน้าห้องตัวเอง นั่งคิดหลายๆอย่าง เป็นช่วงเวลาที่เราไม่ได้ติดต่อใครเลย ไม่ต้องคอยกังวลกับสายโทรเข้า บทสนทนาใน Facebook หรือทวิตเตอร์ ที่นี่จึงเหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง
เราควรจะใช้ชีวิตกับตัวเองบ้าง หลายๆอย่างเราไม่สามารถหาได้จาก Social Media แต่เกิดจากการเดินทางออกไปพบเจอ
fahpawa*
05 August 2016
[CR] Hotels Story#1 :: ไปนอนฟังเสียงฝนริมแม่น้ำแควน้อยที่ River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts ,กาญจนบุรี ..
ถ้าพูดถึงที่พักดีๆหลายคนคงมีนิยามสำหรับคำนี้อยู่หลากหลายแบบ อาจจะเป็น การเดินทางที่ง่าย มีสิ่งอำนวยสะดวกครบ แต่กลับที่นี่ ตรงกันข้ามทุกอย่าง แต่ก็นับว่าเป็นที่พักที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
ที่นี่ไม่มี Free Wifi
ที่นี่ไม่มี สัญญาณโทรศัพท์และ 4G
ที่นี่ไม่มี ไฟฟ้า
เรามาพักที่นี่ 2 วัน 1 คืน เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ฟังเพลงที่ชอบและอ่านหนังสือที่หวังว่าจะอ่านให้จบ(ซักที) เราเดินทางจากกรุงเทพโดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานีน้ำตกหลังจากนั้นก็จะมีรถตู้มาส่งที่ท่าเรือรีโซเทลเพื่อนั่งเรือหางยาวไปที่แพ
เรามาถึงที่พักทำการเช็คอินและเข้าห้อง พนักงานที่นี่คือชาวมอญทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมอญข้างบน เราเข้าห้องไปก็พบกับเตียงนอน 2 เตียงตามมาตรฐานที่พักทั่วไป มีมุ้ง และ มีพัดให้อีก 2 อัน เผื่อจะร้อน
ทั้งด้านหนัาและด้านหลังห้องพักมีเปลให้นอนฟังเสียงธรรมชาติ อากาศดีมาก เราสามารถพบเห็นชาวต่างชาติต่างออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจในตามฉบับของตัวเอง บางคนก็นนอนฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือพูดคุยกับคนข้างๆที่มาร่วมประสบการณ์ด้วยกัน ไม่มีบรรยากาศเสียงดังและความวุ่นวาย
อยากที่เล่าไปข้างต้นว่าที่ River Kwai Jungle Rafts นั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ เราจึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับไฟฉายและตะเกียงเจ้าพายุ กลิ่นน้ำมันก๊าดนั้นมันเป็นเอกลักษณ์จริงๆ มันทำให้เราเลิกคิดถึงบรรยากาศในเมืองไปได้เลย
หลังจากที่ฝนตกในช่วงบ่าย และอ่านหนังสือจบไปแล้ว 1 เล่ม เราก็เดินดูบรรยากาศบริเวณแพ และพบว่านอกจากจะมีบริการนวดแผนไทยแล้ว ตอนเย็นก็ยังมีโชว์ระบำมอญอีกด้วยในราคาตั๋ว 160 บาท หรือใครจะเดินขึ้นไปดูหมู่บ้านมอญก็สามารถเดินขึ้นไปได้เลย อยู่ติดกับแพ ข้างบนก็จะมีขายของที่ระลึก แคมป์ช้าง วัดมอญ สามารถขอแผนที่จาก reception ได้ (Map น่ารักมาก)
ด้วยความที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ มื้อเย็นของเราเลยต้องพึ่งเจ้าตะเกียงนี่แหละ ทำให้กลายเป็นมื้อใต้แสงตะเกียงไปโดยปริยายและพบว่าบรรยากาศใช้ได้เลยแหะ โรแมนติกดีเหมือนกัน
หลังจากทานอาหารเย็นแล้วเราก็มานั่งเล่นที่บริเวณหน้าห้องตัวเอง นั่งคิดหลายๆอย่าง เป็นช่วงเวลาที่เราไม่ได้ติดต่อใครเลย ไม่ต้องคอยกังวลกับสายโทรเข้า บทสนทนาใน Facebook หรือทวิตเตอร์ ที่นี่จึงเหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง
เราควรจะใช้ชีวิตกับตัวเองบ้าง หลายๆอย่างเราไม่สามารถหาได้จาก Social Media แต่เกิดจากการเดินทางออกไปพบเจอ
fahpawa*
05 August 2016