(เที่ยวบินพิเศษช่วงโควิด)ไปเยอรมัน การบินไทย BKK - MUC 11กันยา2020, ใช้เอกสารอะไรบ้าง, ตอบคำถามตม.เยอรมัน

[CR] (เที่ยวบินพิเศษช่วงโควิด)ไปเยอรมัน การบินไทย BKK - MUC 11กันยา2020, ใช้เอกสารอะไรบ้าง, ตอบคำถามตม.เยอรมัน

กระทู้รีวิว

การบินไทย Schengen Visa เที่ยวยุโรป สนามบิน ประเทศเยอรมนี

C h a p t e r : n i n e (special)
______________________________________________________________

มาแล้วค่า มีใครกำลังรออยู่ไหมเอ่ย

พอดีเวลาที่เยอรมัน-ไทย ห่างกัน5ชั่วโมงก็จะงงๆหน่อย

วันนี้เราจะมารีวิวเที่ยวบินพิเศษจากการบินไทย flower

กรุงเทพ-มิวนิค ในวันที่ 11 กันยายน 2563

ซึ่งมีไฟลท์เดียวทั้งเดือน และ

รูปภาพบรรยากาศภายในสนามบินสุวรรณภูมิ, รีวิวระหว่างเที่ยวบินเป็นยังไง

และการตอบคำถามกับตม.เยอรมัน ง๊ายง่าย

รูปภาพจากทางเว็บไซด์การบินไทยนะคะ

ณ เดือนกันยายน

ตอนนี้เที่ยวบินพิเศษได้มีเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะมากกก

ลองเช็คกันดู แนบลิ้งไว้ให้นะค้า " เที่ยวบินพิเศษการบินไทย "

เที่ยวบินพิเศษจากไทยไปเยอรมันมีการบินไทย และรู้สึกจะมีสายการบินอื่นด้วย

แต่เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลเลย ขอไม่พูดถึงสายการบินอื่นนะคะ

การบินไทย ปลายทางไปเยอรมัน มีสองDestinationsคือ มิวนิค และ แฟรงเฟิร์ต

เราเลือกที่จะลงมิวนิค เพราะลงตัวหลายๆอย่าง

เราเลือกบินชั้นประหยัด ราคาตอนจ่าย 17,065 บาทถ้วนค่ะ (ขาเดียว)

เงื่อนไขของตั๋วเที่ยวบินพิเศษมีเยอะมาก อ่านกันดีๆนะคะ

ไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันตั้งแต่เช็คอินที่ไทยเลยดีกว่าค่ะ

ขาไปเที่ยวบิน TG924 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

บินเวลา 12:20 นาฬิกา หรือ เที่ยง(วัน) ยี่สิบนาที

ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง 15 นาที

ถึงสนามบินนครมิวนิค เวลา 18:35 นาฬิกา

ดูจากตารางหลายเที่ยวบินได้ยกเลิก มีแต่เที่ยวบินภายในประเทศเท่านั้นที่ทำการบินอยู่

ไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์ C กันเลยค่าาา เราเข้าไปเช็คอินประมาณ 9 โมงเช้า

นั่งดูจากคนที่มาเช็คอินแล้ว ไฟลท์นี้คนไม่น่าจะเยอะ

นับคร่าวๆประมาณ 30 กว่าคนค่ะ

กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง2ใบ น้ำหนักรวมกัน 29.9KG พอดี 55555 เขาให้ 30KG

นึกในใจว่าก็ไม่ได้ขนอะไรไปเยอะน้าาาาาาา เกือบไปแล้ว

อีกใบเป็นCarry On มีหมอนรองคอ และLaptopค่ะ

ตอนเช็คอินพี่พนักงานบอกว่า " เราเป็นวีซ่าเชงเก้น มีตั๋วขากลับรึเปล่า "

ณ ตอนนั้นคือเราไม่ได้ซื้อขากลับ เพราะเข้าใจว่าตอนกลับต้องติดต่อสถานทูตไทยในเยอรมันเพื่อซื้อตั๋วกลับ

พี่พนักงานการบินไทยก็ยังยืนยันว่า ยังไงเราก็ต้องมีตั๋วขากลับ

เขาบอกให้เราซื้อตั๋วขากลับ แล้วพอจะกลับให้แจ้งกับสถานทูตว่าเรามีตั๋วนี้อยู่แล้ว ให้ใช้ตั๋วนี้

เราก็ถามว่าถ้าเที่ยวบินยกเลิกอีกละจะทำยังไง เพราะตอนนั้นเรามีปัญหากับการRefundตั๋วกับการบินไทย

เลยไม่อยากซื้อตั๋วขากลับกับการบินไทย แต่สุดท้ายก็ซื้อตั๋วขากลับกับการบินไทย

ในราคาประมาณ 18,XXX บาท เพราะไม่มีเวลาเช็คกับสายการบินอื่น

ตอนนั้นจะ10โมงแล้วค่ะ กลัวตกเครื่อง เราก็ยอมซื้อไป T^T

เช็คอินเรียบร้อย มีตั๋วขากลับแล้ว สบายใจแล้ว

ไปGateกันค่ะ

ดูจากบอร์ดแล้วหาไม่ยากเลยค่ะ เพราะมีแค่สองเที่ยวบิน 55555

Gate D1Aค่ะ ป่ะ เดินนนนน

ณ ตอนนั้นDuty Freeเปิดฝั่งเดียว ร้านค้าส่วนใหญ่ปิด

เดินหาร้านขายน้ำจนเหงื่อแตก เดินไกลมากกกก

มันก็จะวังเวงหน่อยๆ ไปชมภาพกันเลยค่า

ถึงGateแล้วค้าบบบบ

ตอนนั้นมีเวลาเดินเล่นอีกนิดหน่อย

เก็บรูปมาฝากเพื่อนๆให้ชมกันดีกว่า บรรยากาศสนามบินสุวรรณภูมิช่วงโควิดค่ะ

เงียบเหงามากๆเลยค่ะ คิดถึงบรรยากาศคนเยอะๆ มีสีสันจังเลยเนอะ

สักพักก็ถึงเวลาBoarding 11:40 นาฬิกา

เครื่องบินไม่ได้ต่องวงช้างนะคะ ต้องนั่งShuttlebusไปขึ้นเครื่อง รู้สึกว่าไปจอดไกลอยู่เหมือนกันค่ะ

แล้วก็ต้องแบกCarry Onไปตลอดทาง มุแง้

ระหว่างทางนั่งรถไปขึ้นเครื่องบินค่า

เรางงมากว่า เขาให้ทุกคนมานั่งหลังปีกหมดเลย แล้วที่นั่งระหว่างกลางลำก็ว่าง

เหมือนจะให้ลูกเรือนั่ง เพราะลูกเรือเที่ยวบินนี้เยอะมากกก เดินกันมาเป็นสิบ น่าจะเป็นเพราะตอนขากลับ ต้องรับคนไทยกลับ

พอเราถามลูกเรือว่า " ทำไมเขาจัดให้ทุกคนมานั่งหลังWingหมดเลย "

ลูกเรือบอกว่า " ไม่ทราบค่ะ เป็นหน้าที่ของGround Staff เขาจัดมา " เราก็ โอเคคคค้ เขาว่างั้นก็ว่างั้น

เราจำไม่ได้ว่าเราบินAircraftอะไร พยายามหาข้อมูลแล้วก็ไม่เจอ

แต่ตอนเช็คอินเราย้ำกับพี่พนักงานว่า ข้างๆหนูไม่มีคนนั่งนะคะ Pleaseeee!

ขอที่นั่งที่ไม่นั่งติดกับใครเลยค่ะ พี่เขาเลยจัดที่นั่งริมหน้าต่างที่ว่าง 3 ที่ติดมาให้ ขอบคุณค่าาาา กราบงามๆ

ตอนเดินขึ้นเครื่องก็หยิบถุงขนมมาคนละถุง

ในถุงมีน้ำขวดเล็ก 1 ขวด, น้ำแอปเปิ้ล 1 กล่อง, ขนมถุงเล็กๆ น่าจะ 2 ถุงค่ะ และผ้าเช็ดมือ

พร้อมTake Offแล้วค่ะ เดือนเพ็ญ

อาหารบนเครื่องมี 2 มื้อ

มื้อแรก กระเพราไข่ดาว

มื้อที่สอง ข้าวมันไก่ (ตามรูปเลยค่า)

เที่ยวบินนี้ไม่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ

เรามาดูบรรยากาศระหว่างบินกันดีกว่า

บินตอนกลางวันแสงจะจ้ามาก ถ้าเจอคนข้างหน้าหรือข้างหลังเปิดหน้าต่างไว้ตลอดเวลา

นี่ตายแน่ๆ 5555555 เราเตรียมพร้อมด้วยผ้าปิดตา นอนยาวตลอดไฟลท์ สบายใจ

ระหว่างบินจะมีการตรวจไข้สองรอบด้วยพี่ลูกเรือ เดินตรวจทุกคนค่ะ

และก็ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ของทางสายการบินประมาณ 3 รอบ โดยพี่ลูกเรือเดินแจกเช่นกัน

แป๊บๆก็ถึงสนามบินนครมิวนิคแล้วค่า

มีพี่ๆพนักงานมารับด้วยShuttlebusเช่นเคย เพื่อไปด่านตรวจคนเข้าเมืองค่า

ระหว่างไปด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่มีรูปนะค่า ไม่สะดวกถ่ายมาค่ะ

แต่จะมาเล่าให้ฟังแทนน้าา

พอมาถึงด่านตม. ก็จะมีสองแถวค่ะ คนไม่เยอะเลย เพราะมีแค่เที่ยวบินเรา

ถึงคิวเรา เราทักทายเจ้าหน้าที่ก่อนเลย

เรา: Good Evening! How are you doing?

จนท: Where is your destination?

เรา: Here! Munich is my destination.

จนท: What is your plan? What are you doing here?

เรา: I am going to travel with my boyfriend for 64 days. We will go on a road trip around Germany.

จนท: Do you have return ticket?

เรา: Yes, I do have

จนท: Can I see your face?

เรา: (เพราะเราใส่หมวก ใส่แว่นตา ใส่แมสค่ะ เลยถอดออกหมด) ไม่ได้แต่งหน้าด้วย หน้าอาจจะไม่เหมือนPassport 555

จากนั้นได้ยินเจ้าหน้าที่ปั้มสแตมป์ ปึง! แล้วยื่นหนังสือเดินทางคืนให้

เรา: Thank you so much! Have a nice day

แค่นี้เลยค่ะ ง่ายมากกกกกก

ของเราไม่ขอดูเอกสารอะไรเลยสักอย่าง แค่ถามเท่านั้น

แต่เราก็เตรียมเอกสารไว้ในโทรศัพท์นะคะ เผื่อเขาขอดู

**เราไม่ได้ตรวจโควิดไป ไม่มีเอกสารการตรวจโควิด แต่พกเอกสารFit to Flyไปด้วยค่ะ แต่ก็ไม่มีใครขอดู

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะค้า

★ ฝากเพจด้วยค้าบ ★
https://www.facebook.com/pekapeak
เพจเกี่ยวกับออสเตรเลีย แต่ตอนนี้จะอัพเดตการไปเที่ยวในเยอรมันค่า

ใครมีคำถามคอมเม้นหรือinboxมาได้ตลอดเลยนะคะ
ยินดีตอบทุกคำถามค่า
inlove