ขอเกริ่นก่อนว่าเรากับเเฟนคบกันมา 6 ปีกว่าเเล้ว ตอนนี้บ้านเเฟนมีปัญหากัน พอกับเเม่เเยกกันอยู่ โดยที่พ่อไปมีอีกบ้าน เเม่เเฟนเราก็จิตตก ไม่กินไม่นอน กลายเป็นติดโซเชียล โพสท์ด่า เเชร์เรื่องมาด่า เเต่เราก็พอเข้าใจว่าทำไปเพราะโมโห ก็ได้เเต่ห้ามปรามไม่ให้มันเกินไปในการโพสท์กลัวจะมีเรื่องมีราวจนถึงขึ้นโรงพัก เเต่ประเด็นนั้นกลับเป็นรองเรื่องในบ้าน เเม่เเฟนกลายเป็นคนจุกจิกกับเเฟนเรามากๆ โทรหาเเฟนเราเวลาทำงาน หลายๆครั้งต่อวัน เวลาไปกินข้าวเย็นด้วยกันก็ไม่ลงมากิน จะรอบนรถ เราก็เกรงใจไม่อยากให้รอนาน วันไหนที่เเม่เเฟนมาส่งเราที่บ้านด้วย เราก็จะไม่เเวะกินข้าว ให้เเฟนมาส่งบ้านเลย คือเรากับเเฟนกินข้าวเย็นด้วยกันอาทิตย์ละ 2-3 วัน ทำเเบบนี้มา 3-4 ปีเเล้ว ก่อนหน้านี้เเฟนเห็นเเม่เครียดก็เลยพาไปเที่ยว ตอนนั่งรถไปก็คุยกันนู้นนี้นั้น สักพักเเม่เเฟนก็โทรคุยน่าจะกับญาติพ่อ ก็ร้องไห้ประมาณไม่อยากให้เป็นเเบบนี้ ตายจากกันยังดีกว่าที่จะต้องมามีคนอื่น เเล้วพอวางสายก็หันมาโวยวายเเฟนว่าไม่คิดจะเเวะให้เข้าห้องน้ำ ให้เเวะไหนเลยหรอ เเล้วก็เปิดประตูรถทั้งๆที่รถวิ่งอยู่ เรากับเเฟนก็รีบจับ ก็นั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้าน เวลาผ่านไปก็คิดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะมาเจอกันรอบหลังก็ลงไปกินข้าวด้วยกัน พอมาวันนี้เเฟนมารับเราไปกินข้าว เเม่เเฟนก็โทรมาถามอยู่ไหน เเฟนเราก็บอกว่ากินข้าวอยู่ เเม่เเฟนก็วางสาย พอกำลังขับกลับบ้าน เเม่เเฟนโทรมาอีกเเล้วบอกว่าไม่ไหวเเล้วเเล้วตัดสายทิ้ง เเฟนเราก็รีบกลับบ้าน ไปถึงบ้านคือเเม่ไม่ได้เป็นอะไร เเล้วก็ไม่พูดด้วย คือเราสงสารเเฟนมากๆ ในใจเราคิดว่าอาจจะหวงลูกเพราะกลัวถูกทิ้งไปอีกคน เเต่การที่เขาทำเเบบนี้เราว่าคนที่ลำบากใจน่าจะเป็นลูกเขามากกว่า
เราควรเเก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี