JJNY : โรงแรมดังโคราชประกาศปิดกิจการ/ค้าชายแดน8ด.ลด7.42%/พท.จวกรัฐเล็งยื้อแก้รธน./อรุณีจี้รับผิดชอบกรณีครูทำร้ายเด็ก

พิษเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีคนพัก โรงแรมดังเมืองโคราชประกาศปิดกิจการ
https://www.matichon.co.th/region/news_2382763
 

  
พิษเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีคนพัก โรงแรมดังเมืองโคราชประกาศปิดกิจการ
 
นครราชสีมา – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงแรมศรีพัฒนา ซึ่งเป็นโรงแรมดังของเมืองโคราช ตั้งอยู่ริมถนนสุรนารี ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ปิดประกาศ “ปิดกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 เป็นต้นไป” และประกาศลงในเพจ “โรงแรมศรีพัฒนา – Sripattana Hotel” ซึ่งเป็นเพจของโรงแรมว่า
 
“กราบสวัสดี ชาวโคราชทุกท่านและนักท่องเที่ยวทุกท่าน ขณะนี้ทางโรงแรมศรีพัฒนาบริหารงานโดย บริษัท โคราชศรีพัฒนา ได้ทำการปิดบริการโรงแรมศรีพัฒนาทั้งหมด ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 กระผมในนามอดีต ผู้บริหารโรงแรมศรีพัฒนาและพนักงานทุกคน ขอกราบขอบพระคุณ แขกที่มาใช้บริการทุกท่าน ชาวปาร์ตี้ นักท่องเที่ยว หน่วยงานต่างๆ ฯลฯ โรงแรมศรีพัฒนาบริหารงานโดย บริษัท โคราชศรีพัฒนา ได้ทำการให้บริการแขกที่เข้ามาเยี่ยมเยือนที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นเวลาทั้งหมด 9 ปี เรามีความทรงจำที่ดีกับแขกทุกท่านที่มาใช้บริการที่โรงแรมศรีพัฒนามาโดยตลอด และเราจะจดจำช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ตลอดไป
 
ปล.ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ทางโรงแรมศรีพัฒนาร่วมธุรกิจทุกท่านด้วย
 
และขอบคุณพนักงานทุกท่านที่ทำงานกับโรงแรมศรีพัฒนาอีกครั้งครับ”
 
ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้ เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของเมืองโคราช โดยเปิดกิจการมานานกว่า 50 ปี จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของแวดวงธุรกิจโคราชว่า อาจจะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ไม่มีคนมาพัก จึงไม่สามารถเปิดกิจการต่อไปได้อีก ต้องปิดตัวลงในที่สุด
 
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายรัฐประทีป กีรติอุไร อดีตผู้บริหารโรงแรมศรีพัฒนา เปิดเผยว่า การประกาศปิดบริการในครั้งนี้ เนื่องจากตนเองหมดสัญญาเช่ากับเจ้าของโรงแรมเดิม ซึ่งเป็นนักธุรกิจรายหนึ่งของโคราช (ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ) ที่ตนเองทำสัญญาเช่ามาบริหารต่อเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา และได้หมดสัญญาเช่าลงไปในวันที่ 30 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงหลังประสบกับปัญหาภาวะขาดทุนมาโดยตลอด ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเปิดห้องพักเหมือนในอดีต ทำให้ตนเองตัดสินใจไม่ต่อสัญญาอีก หลังจากนี้จึงปล่อยให้เจ้าของโรงแรมเดิมดำเนินกิจการต่อ ส่วนจะเปิดให้บริการต่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่เขา ตนเองก็มีธุรกิจอื่นให้ทำอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนก็ยอมรับว่าช่วงหลายปีมานี้ตัวเมืองโคราช เศรษฐกิจซบเซามาก อันเนื่องมาจากระบบการขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ดีพอ รวมทั้งไม่มีอะไรดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักในตัวเมืองโคราชเลย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไปกระจุกอยู่แต่ในเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ขณะที่ตัวเมืองโคราชมีการขยายตัวออกไปรอบข้าง เช่นไปฝั่ง ต.โคกกรวด ต.หัวทะเล และ ต.จอหอ ทำให้คนจะไปอยู่รอบเมืองเป็นส่วนใหญ่ โดยรอบเมืองมีโรงแรมใหม่ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จึงทำให้ในตัวเมืองโคราชซบเซาหนักเข้าไปอีก ตอนกลางคืนถนนโล่งราวกับเมืองร้าง ดังนั้นโรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองจึงได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ต้องฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้ามาช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับมาฟื้นตัวเร่งด่วน
 
ด้านนายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นี้ โรงแรมในตัวเมืองโคราช ได้รับผลกระทบอย่างหนัก รายได้หายไปกว่า 80% แม้ว่ารัฐบาลจะปลดล็อกให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดได้มาแล้วหลายเดือน แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะไปเที่ยวกระจุกอยู่แค่ไม่กี่แห่ง เช่นที่ อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว ส่วนในตัวเมืองโคราช ก็ยังคงซบเซาอยู่ จึงทำให้โรงแรมบางแห่งต้องปิดกิจการลง เพราะทนแบกรับภาระค่าจ้างพนักงาน และการดูแลไม่ไหว
 

 
โควิดฉุดยอดค้าชายแดน8ด.ลด7.42%
https://www.innnews.co.th/economy/news_789993/
 
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 8.5 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุที่การค้าชายแดนและผ่านแดนที่ปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการปิดด่านชายแดนการค้าทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้กระทบต่อการส่งออกและนำเข้า
 
สำหรับสถิติการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.95 รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.33 เมียนมา มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.02 และกัมพูชา มูลค่า 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.09
 
ในด้านการค้าผ่านแดนไปยัง จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.58 รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.02 เวียดนาม มูลค่า 3.9 หมื่นล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.56
 
อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2563 เมียนมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 และส่งผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตามชายแดนไทยประกาศระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ เป็นการชั่วคราว ณ จุดผ่อนปรนการค้า ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน 3 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าห้วนต้นนุ่นติดกับรัฐคะยา จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแลบติดกับรัฐกะเหรี่ยง จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยผึ้งติดกับรัฐฉาน และในจังหวัดกาญจนบุรี 1 แห่ง คือ จุดผ่านแดนชั่วคราว ด่านพระเจดีย์สามองค์ติดกับภาคตะนาวศรี ทำให้สถานการณ์เปิดจุดผ่านแดน ของไทย เหลือเพียง 36 แห่ง จากทั้งหมด 97 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ เพื่อหาแนวทางผลักดันในการอำนวยความสะดวกทางการค้า ณ จุดผ่านแดน เพื่อให้การขนส่งสินค้ามีความคล่องตัวมากขึ้นต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่