#พฤติกรรมที่ทำให้ผิวหน้าเหี่ยวย่นอย่างคาดไม่ถึง#
หัวข้อในวันนี้เราจะไม่พูดถึงสาเหตุของความแก่ หรือว่าริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากอายุนะคะ
แต่จะมาพูดถึงเรื่องของ #พฤติกรรม กับ #Lifestyle ที่หลายคนอาจจะยังไม่รุ้ว่าทำให้เกิดหน้าเหี่ยวได้ค่า
สาวๆหนุ่มๆ รวมถึงสาวใหญ่ หนุ่มใหญ่จะได้มีกำลังใจในการดูแลผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย หรือดูดีสมวัยได้นะคะ
1. การแสดงสีหน้ามาก หรือแสดงสีหน้าซ้ำๆ
เปิดหัวข้อมาก็แก้ยากเสียแล้ว การแสดงสีหน้าแบบเดิมซ้ำๆ ในที่นี้รักจะพูดถึงการเลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว ย่นหน้าผาก ย่นจมูก (- -") (-*-) (-~-)
ซึ่งจะเป็นการแสดงสีหน้าที่ออกเชิง Negative expression นะคะ คนเราเมื่อแสดงอารมณ์ปกติ หรือ Positive expression เช่น การยิ้ม หรือหัวเราะ
เราจะเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งรักบอกเลยว่าถ้าริ้วรอยจะเกิดจากอารมณ์ที่ดีแต่มาพร้อมความอิ่มใจก็ยังพอรับได้
แต่การที่เราแสดงสีหน้าเชิง Negative นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ริ้วรอยส่วนที่ไม่ควรเกิดขึ้นโดยง่าย ก็จะโผล่ขึ้นมา
ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทุกคนรู้ว่าความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าเราโทรม เพราะฉะนั้น การขยับหน้าหรือแสดงสีหน้าในเชิงนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
เพราะนอกจากจะบุคลิกดูดี ชื่นใจ ยังไม่สร้างริ้วรอยให้ตัวเองด้วยค่า
2. การขยี้ตา
บริเวณรอบดวงตาเป็นที่ปีนป่ายฝากรอย foot ของน้องกาได้อยู่แล้วตามอายุ แต่อีกที่หนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องของใต้ตา
ซึ่งเรียกได้ว่าอ่อนไหวและบอบบางที่สุดบนใบหน้า และเป็นจุดที่เห็นริ้วรอยชัดที่สุดของใบหน้า ลองคิดดูแค่นอนดึกก็หมองแล้ว
ถ้าเพิ่มการขยี้ตาเข้าไปเหมือนเราฝืนดึงพลาสติกจนและเสียรูป และการที่จะทำให้ถุงใต้ตาทีเสียรูปไปแล้วกลับมาเรียบตึงและไม่หมองคล้ำจากการขยี้ตา
บอกเลยว่ายากมาก ต่อให้โบก skincare + eye cream ก็ยังกู้ยาก จนถึงขนาดมีคำกล่าวว่า หากคุณขยี้ตา 1 ครั้งคุณจะต้องเสียเวลา 1 เดือนในการกู้ใต้ตาให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติเลยนะคะ T^T
3. การจับหน้าแรงๆ
บางคนอาจจะไม่เข้าใจในข้อนี้ การจับหน้าแรงๆเช่น พอเวลาเบื่อๆเซ็งๆแล้วเล่นแก้มตัวเอง เล่นหน้าตัวเอง หรือ จังหวะที่เบื่อแล้วเอามือเท้าหน้าตัวเองจนหน้าย่น เป็นต้น ข้อนี้รักคิดว่าอาจจะยากหน่อยเพราะเป็นพฤติกรรมที่เราจะทำโดยไม่รู้ตัว แต่ขอให้สังเกตไว้นิดนึงนะคะ ถ้าเลี่ยงได้นอกจากริ้วรอยจะไม่เพิ่ม ก็ลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ผิวหน้าสกปรกจนเป็นสิว หรือในยุคนี้ก็คือลดความเสี่ยงในเรื่องของ COVID-19 ไปด้วยในตัวนะคะ (อันนี้สำคัญมากๆๆ)
4. การถูหน้าแรงๆ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าต่างกับข้อ 3 ยังไง ข้อนี้จะมาพูดถึงในเรื่องของจัวหวะที่เราจำเป็นต้องเอามือจับหน้าจริงๆ เช่นการล้างหน้า ทาครีมทั้งหลาย
แม้แต่การแต่งหน้า แต่เราจะต้องนุ่มนวลกับหน้าให้มากที่สุดไม่รีบร้อนในการถูหน้าขณะล้างหน้า ถูเบาๆ ค่อยๆล้าง หหือขณะทา skincare ก็เลือกใช้นิ้วนางในการทาเพราะเป็นนิ้วที่ให้น้ำหนักการทาได้น้อยที่สุด หากจะใช้ทั้งฝ่ามือก็ต้องเป็นการประคบทา ไม่ใช่การถูรูดเนื้อผิวหน้าไหลติดไปกับมือ
รวมถึงการแต่งหน้าก็ใช้การ tap eye shadow แล้ว blend เบาๆทีหลัง เป็นต้น
วันนี้ขอให้ข้อมูลแค่ 4 ข้อก่อนน้า
พรุ่งนี้จะมาให้ detail ที่เหลืออีก 5 ข้อ
#ลองสังเกต #พฤติกรรม #Lifestyle ว่าเราเป็นแบบไหนอยู่บ้างรึป่าวน้า อาจจะยังไม่ต้องทำได้ทั้งหมด แต่ค่อยๆฝึก ค่อยๆทำ
#ความอ่อนกว่าวัย #สุขภาพผิวสมวัย ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่า
#เภสัชกรรัก
สาเหตุที่ทำให้หน้าเหี่ยวย่น ตอนที่ 1/2
หัวข้อในวันนี้เราจะไม่พูดถึงสาเหตุของความแก่ หรือว่าริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากอายุนะคะ
แต่จะมาพูดถึงเรื่องของ #พฤติกรรม กับ #Lifestyle ที่หลายคนอาจจะยังไม่รุ้ว่าทำให้เกิดหน้าเหี่ยวได้ค่า
สาวๆหนุ่มๆ รวมถึงสาวใหญ่ หนุ่มใหญ่จะได้มีกำลังใจในการดูแลผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย หรือดูดีสมวัยได้นะคะ
1. การแสดงสีหน้ามาก หรือแสดงสีหน้าซ้ำๆ
เปิดหัวข้อมาก็แก้ยากเสียแล้ว การแสดงสีหน้าแบบเดิมซ้ำๆ ในที่นี้รักจะพูดถึงการเลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว ย่นหน้าผาก ย่นจมูก (- -") (-*-) (-~-)
ซึ่งจะเป็นการแสดงสีหน้าที่ออกเชิง Negative expression นะคะ คนเราเมื่อแสดงอารมณ์ปกติ หรือ Positive expression เช่น การยิ้ม หรือหัวเราะ
เราจะเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งรักบอกเลยว่าถ้าริ้วรอยจะเกิดจากอารมณ์ที่ดีแต่มาพร้อมความอิ่มใจก็ยังพอรับได้
แต่การที่เราแสดงสีหน้าเชิง Negative นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ริ้วรอยส่วนที่ไม่ควรเกิดขึ้นโดยง่าย ก็จะโผล่ขึ้นมา
ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทุกคนรู้ว่าความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าเราโทรม เพราะฉะนั้น การขยับหน้าหรือแสดงสีหน้าในเชิงนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
เพราะนอกจากจะบุคลิกดูดี ชื่นใจ ยังไม่สร้างริ้วรอยให้ตัวเองด้วยค่า
2. การขยี้ตา
บริเวณรอบดวงตาเป็นที่ปีนป่ายฝากรอย foot ของน้องกาได้อยู่แล้วตามอายุ แต่อีกที่หนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องของใต้ตา
ซึ่งเรียกได้ว่าอ่อนไหวและบอบบางที่สุดบนใบหน้า และเป็นจุดที่เห็นริ้วรอยชัดที่สุดของใบหน้า ลองคิดดูแค่นอนดึกก็หมองแล้ว
ถ้าเพิ่มการขยี้ตาเข้าไปเหมือนเราฝืนดึงพลาสติกจนและเสียรูป และการที่จะทำให้ถุงใต้ตาทีเสียรูปไปแล้วกลับมาเรียบตึงและไม่หมองคล้ำจากการขยี้ตา
บอกเลยว่ายากมาก ต่อให้โบก skincare + eye cream ก็ยังกู้ยาก จนถึงขนาดมีคำกล่าวว่า หากคุณขยี้ตา 1 ครั้งคุณจะต้องเสียเวลา 1 เดือนในการกู้ใต้ตาให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติเลยนะคะ T^T
3. การจับหน้าแรงๆ
บางคนอาจจะไม่เข้าใจในข้อนี้ การจับหน้าแรงๆเช่น พอเวลาเบื่อๆเซ็งๆแล้วเล่นแก้มตัวเอง เล่นหน้าตัวเอง หรือ จังหวะที่เบื่อแล้วเอามือเท้าหน้าตัวเองจนหน้าย่น เป็นต้น ข้อนี้รักคิดว่าอาจจะยากหน่อยเพราะเป็นพฤติกรรมที่เราจะทำโดยไม่รู้ตัว แต่ขอให้สังเกตไว้นิดนึงนะคะ ถ้าเลี่ยงได้นอกจากริ้วรอยจะไม่เพิ่ม ก็ลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ผิวหน้าสกปรกจนเป็นสิว หรือในยุคนี้ก็คือลดความเสี่ยงในเรื่องของ COVID-19 ไปด้วยในตัวนะคะ (อันนี้สำคัญมากๆๆ)
4. การถูหน้าแรงๆ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าต่างกับข้อ 3 ยังไง ข้อนี้จะมาพูดถึงในเรื่องของจัวหวะที่เราจำเป็นต้องเอามือจับหน้าจริงๆ เช่นการล้างหน้า ทาครีมทั้งหลาย
แม้แต่การแต่งหน้า แต่เราจะต้องนุ่มนวลกับหน้าให้มากที่สุดไม่รีบร้อนในการถูหน้าขณะล้างหน้า ถูเบาๆ ค่อยๆล้าง หหือขณะทา skincare ก็เลือกใช้นิ้วนางในการทาเพราะเป็นนิ้วที่ให้น้ำหนักการทาได้น้อยที่สุด หากจะใช้ทั้งฝ่ามือก็ต้องเป็นการประคบทา ไม่ใช่การถูรูดเนื้อผิวหน้าไหลติดไปกับมือ
รวมถึงการแต่งหน้าก็ใช้การ tap eye shadow แล้ว blend เบาๆทีหลัง เป็นต้น
วันนี้ขอให้ข้อมูลแค่ 4 ข้อก่อนน้า
พรุ่งนี้จะมาให้ detail ที่เหลืออีก 5 ข้อ
#ลองสังเกต #พฤติกรรม #Lifestyle ว่าเราเป็นแบบไหนอยู่บ้างรึป่าวน้า อาจจะยังไม่ต้องทำได้ทั้งหมด แต่ค่อยๆฝึก ค่อยๆทำ
#ความอ่อนกว่าวัย #สุขภาพผิวสมวัย ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่า
#เภสัชกรรัก