JJNY : 4in1 รมว.คลังไม่สำคัญเท่าทีมศก./คนไทยยอมซื้อสมาร์ทโฟนตกรุ่น/พิชัยกังวลอาคมนั่งรมว./แอมเนสตี้แถลงทวงความคืบหน้า

นักลงทุนมอง รมว.คลังไม่สำคัญเท่า "ทีมศก.รัฐบาล" ไม่มี
https://www.thansettakij.com/content/money_market/451675
 

 
นักลงทุน " ดร.นิเวศน์ "  มองใครเป็น รมว.คลัง ไม่เป็นประเด็น เหตุภาพ"ทีมเศรษฐกิจ" รัฐบาลไม่มี ทำให้กลยุทธ์ที่เป็นของรัฐบาลไม่ชัดเจน ด้านโบรกเคทีบี มองเป็นเชิงบวกต่อตลาดหุ้น ขับเคลื่อนมาตรกรกระตุ้นศก.-ลงทุนอีอีซีได้ทันที   
 
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (วีไอ ) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าสำหรับนักลงทุนแล้ว การแต่งตั้ง "อาคม  เติมพิทยาไพสิฐ" เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ถือว่าเป็นประเด็น เพราะไม่ว่าใครจะมาเป็นรมว.คลัง การบริหารเชิงกลยุทธ์ในลักษณะ "ทีมเศรษฐกิจ" ของรัฐบาลไม่มี ต่างคนต่างทำ ด้วยลักษณะโครงสร้างทางการเมือง รัฐธรรมนูญถูกเขียนให้เป็นเช่นนี้ ทำให้ทีมเศรษฐกิจเกิดขึ้นยาก เพราะมาจากหลายพรรคการเมือง 
 
"ผมเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ รู้สึกเฉย ๆ  ไม่ว่าใครจะมาเป็นรมว.คลัง เพราะการทำงานในลักษณะ" ทีมเศรษฐกิจ"  ไม่มี  จึงไม่มีอะไรที่เป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลที่ชัดเจน  คือต่างคนต่างทำหน้าที่ ขับเคลื่อนมาตรการในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ  ขอให้มี รมว.คลัง ก็แล้วกัน เพราะหากปล่อยทิ้งนานไปความเสียหายก็จะมากและแรงขึ้น  เพราะหลายมาตรการออกมาไม่ได้ ต้องรอ หรือชะงัก อย่างน้อยการมี รมว.คลัง ก็สามารถดันมาตรการออกมา อย่างไรก็ดีนักลงทุนไม่ได้คาดหวัง เพราะยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์  อีกทั้งปัญหาใหญ่ขณะนี้ คือสถานการณ์โควิดจะคลี่คลายหรือจบลงเมื่อไรไม่มีใครคาดการณ์ได้  แนวทางมาตรการที่ออกมาจึงทำได้แค่รับมือตามสถานการณ์มากกว่า "
 
ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าการที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่นั้นถือว่า  ตลาดหุ้นยอมรับและตอบรับในเชิงบวก เนื่องจากนายอาคมเคยผ่านงานการเมือง เป็นรมว.คมนาคม ( 9 ส.ค. 58 – 10 ก.ค. 62 )และเคยเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีผลงานพิสูจน์มาแล้ว  และเป็นการเข้ามาดำรงตำแหน่งในจังหวะเวลาที่เศรษฐกิจประเทศจำเป็นต้องเร่งรันต่อ อาทิมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการลงทุนในอีอีซี   เพราะต้องมีรมว.มาเซ็นลงนาม และเนื่องจากว่างเว้นมานาน 1 เดือน ทำให้สามารถขับเคลื่อนได้ในทันที
 
"คุณสมบัติที่ตลาดหุ้นยอมรับนอกจากความสามารถ มีผลงานที่พิสูจน์มาแล้ว และไม่เป็นนักการเมืองหรือนักวิชาการจนมากไป  สำหรับรมว.อาคม ถือว่าสอบผ่าน และตลาดหุ้นน่าจะตอบรับในเชิงบวก "
 

 
คนไทยเลิกติดหรู ยอมซื้อสมาร์ทโฟนตกรุ่น
https://www.thansettakij.com/content/tech/451649
 
 คาดไอโฟน 12 ปลุกชีพตลาดสมาร์ทโฟนโค้งท้าย เผยพฤติกรรมคนไทยยอมทิ้งนิสัย “ติดหรู” เลือกช็อปสมาร์ทโฟนตกรุ่น ราคาถูกกว่าเปิดตัว 20-30% “เอ็มวิชั่น” สมาร์ทโฟนขายดีงาน Thailand Mobile Expo 2020 ราคาหมื่นต้นๆ ไม่ใช่รุ่นเรือธง หลังกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง
 
นายธีริทธิ์​ เปาวัลย์ นักวิเคราะห์ตลาด อุปกรณ์ไคล์เอนด์ ดีไวซ์ บริษัทไอดีซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตลาดสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในไตรมาส 4 โดยมองว่าไอโฟนใหม่หรือ ไอโฟน 12 ที่คาดว่าจะเปิดตัวราวเดือนพฤศจิกายน จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดให้เติบโตขึ้นท่ามกลางภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภค และคาดว่าจะสามารถช่วยผลักดันส่วนแบ่งตลาดแอปเปิลเพิ่มเป็น 15% จากไตรมาส 2 มีส่วนแบ่งตลาด 10.6%
 
อย่างไรก็ตามมองว่า ภาพรวมพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal เปลี่ยนแปลงไป โดยมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าใหม่ตกรุ่น ที่ราคาถูกลง 30-40% และราคาไม่เกิน 10,000 บาทมากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อลดลง ผู้บริโภคเลือกซื้อของจำเป็นที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น ไม่ได้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง หรือ แฟล็กชิป โมเดล เพื่อแสดงสถานะสังคม หรือเป็นผู้นำเทรนด์เหมือนที่ผ่านมา
 
สำหรับตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนล่าสุดในไทยนั้น ไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีตัวเลขประมาณ 4.3 ล้านเครื่อง เติบโตจากไตรมาสแรก 21.2% แต่หากเทียบกับปีที่แล้วลดลง 8.8% โดยแบรนด์ที่ขยับขึ้นเป็นอันดับหนึ่งคือ วีโว่ โดยมีส่วนแบ่งตลาด 19.5% รุ่นราคาถูกอย่างตระกูล Y ซีรีส์ ทั้ง Y11 และ Y15 และรุ่นราคาระดับกลาง เช่น Y30 และ Y50 ได้รับการตอบรับดี ส่วนอันดับ 2 เป็นซัมซุง มีส่วนแบ่งตลาด 18.6% โดยรุ่น A71 เป็นรุ่นที่ขายดีในตลาด ทั้งซัมซุงยังมีแคมเปญมาเก็ตติ้ง ต่อเนื่อง ทั้ง Edu Buddy, Super Hot Sales, Butter to Go
 
ส่วนออปโป้ ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งไตรมาสแรก ตกลงมาอยู่ที่ 3 มีส่วนแบ่งตลาด 16.9% โดยออปโป้ มีการปรับขึ้นราคาสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในบางช่วงทำให้ยอดขายลดลง ขณะที่แบรนด์ที่มาแรง ขยับขึ้นมาอันดับ 4 แทนหัวเว่ย คือ เรียลมี โดยมีส่วนแบ่งตลาด 12.2% รุ่นราคาถูกของเรียลมี และรุ่น X50 Pro ได้รับการตอบรับจากตลาดต่างจังหวัดเป็นอย่างดี ส่วนอันดับ 5 คือ แบรนด์แอปเปิล มีส่วนแบ่งตลาด 10.6% โดย iPhone SE และ iPhone11 ได้รับความนิยมในช่วงโควิดที่ผ่านมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่