เราถูกสนับสนุนให้เป็นคนคิดบวก เพราะการคิดบวกส่งผลดีต่อเรามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต เพื่อให้เราลุกขึ้นมาสู้ใหม่ และมีความคิดที่เป็นบวกต่อสถานการณ์ รวมถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การคิดบวกก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เหมือนทักษะในการขับรถ ที่ต้องหมั่นฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ นอกจากการคิดบวกจะส่งผลดีต่อตัวเราเองแล้ว การคิดบวกยังทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบตัวอีกด้วย เนื่องจากใครก็อยากได้พลังบวกจากคนที่คิดบวก วันนี้แพรมีบทความจิตวิทยา ว่าด้วย 4 วิธีง่ายๆ ในการสร้างความคิดที่เป็นบวกมาฝากทุกคนกันค่ะ
1. พัฒนาทักษะการคิดบวก โดยการฝึกสมองให้คิดบวกอยู่เสมอ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การคิดบวกก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง โดยธรรมชาติแล้วสมองของเราจะจำเรื่องราวที่เป็นแง่ลบ หรือความเจ็บปวดได้ดีกว่าความคิดบวก เนื่องจากสมองของเราถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยให้เราสามารถดำรงชีวิตรอดได้ ดังนั้น เราจะต้องฝึกสมองให้หมั่นคิดแง่บวก ซึ่งขั้นแรก เราควรที่จะมีสติ รู้เท่าทันความคิดของเราเองเสียก่อน เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นความคิดแง่ลบเกิดขึ้น ให้เราแทนที่ด้วยความคิดที่เป็นแง่บวกแทน ซึ่งในช่วงแรกๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย
อีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยได้อย่างมากก็คือ การเขียน Gratitude Journal เพื่อช่วยให้เรามองหาเรื่องราวดีๆ ที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตประจำวันของเราในแต่ละวัน เพียงแต่เรามองข้ามมันไปเท่านั้น นอกจากนี้ การรับข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายในโลกออนไลน์ ก็ควรถูกจำกัดเช่นกัน เลือกเสพเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่เป็นบวก สร้างสรรค์ และมีประโยชน์กับชีวิตของเรา
2.โฟกัสในสิ่งที่มี และรู้จักขอบคุณ
นอกจากการเขียน Gratitude Journal จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสในสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันในชีวิตของเราได้แล้ว การมองในสิ่งที่เรามีแทนที่จะคิดถึงแต่สิ่งที่เรายังไม่มี ก็จะสามารถช่วยให้เรารู้สึกดีกับชีวิตของตัวเอง และเพิ่มความสามารถในการมองโลกในแง่บวกได้ด้วยเช่นกัน
ลองถามคำถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณกำลังมีความคิดในแง่ลบ
- เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งที่เกิดขึ้น (มองปัญหาและอุปสรรคเป็นบททดสอบที่เข้ามาเพื่อให้เราได้เรียนรู้) หรือ;
- มีโอกาสอะไรบ้างที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ไม่ว่าสถานการณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ตาม มันจะมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ เพียงแต่เรามองเห็นมันหรือไม่)
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา มันจะมีด้านดีเกิดขึ้นเสมอ ดังนั้นฟกัสในด้านที่ดี ฝึกที่จะตีความเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทางที่มีประโยชน์กับตัวเราเอง
3. ฝึกเป็นคนที่มีจิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่น
การช่วยเหลือคนอื่นเมื่อมีโอกาส หรือภายใต้ความสามารถที่เราสามารถทำได้ หรือแม้แต่การแสดงน้ำใจ ไมตรีจิตเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ชมเพื่อนร่วมงานว่าแต่งตัวสวยดูสดใส ซึ่งเราจะต้องจริงใจกับการชมของเรา รวมถึงการแสดงถึงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ด้วย การเป็นคนที่มีจิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่น เป็นพื้นฐานอุปนิสัยที่สำคัญของคนที่มองโลกในแง่ดีค่ะ
4. ยิ้ม หัวเราะ และมีความสุขกับชีวิต
ความสุข เป็นสิ่งที่เราสามารถจัดการได้ด้วยตัวเราเอง
ความสุข ของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
เราสามารถที่จะตัดสินใจที่จะมีความสุขกับชีวิตได้เดี๋ยวนี้ตอนนี้
เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ เช่น การได้กินอาหารอร่อยสักจาน การได้ใช้เวลากับครอบครัว การได้เห็นหมาที่เลี้ยงไว้มีความสุข ความสุขที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อแลกมา ดังนั้น การตั้งปฎิธานกับตัวเองว่าจะมีความสุข ยิ้มและหัวเราะให้บ่อยขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับมุมมองชีวิตในด้านบวกด้วยเช่นกัน
iStrong.co ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและครอบครัว
วิธีฝึกตัวเองให้เป็นคนคิดบวก
1. พัฒนาทักษะการคิดบวก โดยการฝึกสมองให้คิดบวกอยู่เสมอ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การคิดบวกก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง โดยธรรมชาติแล้วสมองของเราจะจำเรื่องราวที่เป็นแง่ลบ หรือความเจ็บปวดได้ดีกว่าความคิดบวก เนื่องจากสมองของเราถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยให้เราสามารถดำรงชีวิตรอดได้ ดังนั้น เราจะต้องฝึกสมองให้หมั่นคิดแง่บวก ซึ่งขั้นแรก เราควรที่จะมีสติ รู้เท่าทันความคิดของเราเองเสียก่อน เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นความคิดแง่ลบเกิดขึ้น ให้เราแทนที่ด้วยความคิดที่เป็นแง่บวกแทน ซึ่งในช่วงแรกๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย
อีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยได้อย่างมากก็คือ การเขียน Gratitude Journal เพื่อช่วยให้เรามองหาเรื่องราวดีๆ ที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตประจำวันของเราในแต่ละวัน เพียงแต่เรามองข้ามมันไปเท่านั้น นอกจากนี้ การรับข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายในโลกออนไลน์ ก็ควรถูกจำกัดเช่นกัน เลือกเสพเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่เป็นบวก สร้างสรรค์ และมีประโยชน์กับชีวิตของเรา
2.โฟกัสในสิ่งที่มี และรู้จักขอบคุณ
นอกจากการเขียน Gratitude Journal จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสในสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันในชีวิตของเราได้แล้ว การมองในสิ่งที่เรามีแทนที่จะคิดถึงแต่สิ่งที่เรายังไม่มี ก็จะสามารถช่วยให้เรารู้สึกดีกับชีวิตของตัวเอง และเพิ่มความสามารถในการมองโลกในแง่บวกได้ด้วยเช่นกัน
ลองถามคำถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณกำลังมีความคิดในแง่ลบ
- เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งที่เกิดขึ้น (มองปัญหาและอุปสรรคเป็นบททดสอบที่เข้ามาเพื่อให้เราได้เรียนรู้) หรือ;
- มีโอกาสอะไรบ้างที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ไม่ว่าสถานการณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ตาม มันจะมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ เพียงแต่เรามองเห็นมันหรือไม่)
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา มันจะมีด้านดีเกิดขึ้นเสมอ ดังนั้นฟกัสในด้านที่ดี ฝึกที่จะตีความเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทางที่มีประโยชน์กับตัวเราเอง
3. ฝึกเป็นคนที่มีจิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่น
การช่วยเหลือคนอื่นเมื่อมีโอกาส หรือภายใต้ความสามารถที่เราสามารถทำได้ หรือแม้แต่การแสดงน้ำใจ ไมตรีจิตเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ชมเพื่อนร่วมงานว่าแต่งตัวสวยดูสดใส ซึ่งเราจะต้องจริงใจกับการชมของเรา รวมถึงการแสดงถึงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ด้วย การเป็นคนที่มีจิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่น เป็นพื้นฐานอุปนิสัยที่สำคัญของคนที่มองโลกในแง่ดีค่ะ
4. ยิ้ม หัวเราะ และมีความสุขกับชีวิต
ความสุข เป็นสิ่งที่เราสามารถจัดการได้ด้วยตัวเราเอง
ความสุข ของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
เราสามารถที่จะตัดสินใจที่จะมีความสุขกับชีวิตได้เดี๋ยวนี้ตอนนี้
เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ เช่น การได้กินอาหารอร่อยสักจาน การได้ใช้เวลากับครอบครัว การได้เห็นหมาที่เลี้ยงไว้มีความสุข ความสุขที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อแลกมา ดังนั้น การตั้งปฎิธานกับตัวเองว่าจะมีความสุข ยิ้มและหัวเราะให้บ่อยขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับมุมมองชีวิตในด้านบวกด้วยเช่นกัน
iStrong.co ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและครอบครัว