เรื่องนี้เกิดกับผมตอนสมัยเด็ก อายุ 9 ขวบได้ตอนนั้นผมจำมันได้ดีเลย ช่วงหน้าฝน เป็นเวลาตอนกลางคืน คืนนั้นฝนตกหนักมาก
ผมอยู่กับพ่อกลางทุ่งนาโดยอาศัยเถียงนาเป็นที่กำบังฝน ในตอนนั้นผมนั่งอยู่บนเถียงนา ส่วนพ่อนั้นกำลังรองน้ำฝนเอาไว้ใช้
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นอย่างกระทันหันโดยมีเสียงฟ้าร้องดังลั่น จนน่ากลัว ผมเองตอนนั้นก็กำลังนั่งคลุมโปง คุยกับพ่ออยู่บนเถียงซึ่งพ่ออยู่ด้านล่าง อยู่ๆ ก็มีอะไรเหมือนลมแรงๆผ่านหน้า แล้วมีแสงผ่านหน้าเหมือนแสงตอนกลางวันเกิดจ้าจนเห็นบริเวณรอบๆตอนกลางวัน ห่างออกจากบริเวณลมลมแรงผ่านหน้าเสียงดังเหมือนเสียงปืน แล้วมีกลิ่นเหมือนดินปืนที่ติดไฟ มีสะเก็ดไฟบริเวณโคนต้นไม้ห่างจากตัวผมประมาณ 10 เมตรได้ ผมกลัวจนตัวสั่น แล้วสุนัขที่ผมเลี้ยงไว้ มันร้องยัง หงิ้ง แล้วมันก็วิ่งหายโดยเรียกหามันก็ไม่กลับมา จนถึงตอนนี้ผมยังงงกับตัวเองว่าผมรอดจากเหตุการณ์นั้นมาได้ยังไงตั้งแต่นั้นมา มันเป็นภาพติดตาทุกครั้งที่เสียงฟ้าร้องผมยังคิดถึงเรื่องในวันนั้นทุกครั้ง จนผมต้องกลัวทุกครั้งเวลาที่มีเสียงฟ้าแลบหรือฟ้าผ่า
นี่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับผมไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นนะครับ
เล่าประสบการณ์การโดนฟ้าผ่า
ผมอยู่กับพ่อกลางทุ่งนาโดยอาศัยเถียงนาเป็นที่กำบังฝน ในตอนนั้นผมนั่งอยู่บนเถียงนา ส่วนพ่อนั้นกำลังรองน้ำฝนเอาไว้ใช้
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นอย่างกระทันหันโดยมีเสียงฟ้าร้องดังลั่น จนน่ากลัว ผมเองตอนนั้นก็กำลังนั่งคลุมโปง คุยกับพ่ออยู่บนเถียงซึ่งพ่ออยู่ด้านล่าง อยู่ๆ ก็มีอะไรเหมือนลมแรงๆผ่านหน้า แล้วมีแสงผ่านหน้าเหมือนแสงตอนกลางวันเกิดจ้าจนเห็นบริเวณรอบๆตอนกลางวัน ห่างออกจากบริเวณลมลมแรงผ่านหน้าเสียงดังเหมือนเสียงปืน แล้วมีกลิ่นเหมือนดินปืนที่ติดไฟ มีสะเก็ดไฟบริเวณโคนต้นไม้ห่างจากตัวผมประมาณ 10 เมตรได้ ผมกลัวจนตัวสั่น แล้วสุนัขที่ผมเลี้ยงไว้ มันร้องยัง หงิ้ง แล้วมันก็วิ่งหายโดยเรียกหามันก็ไม่กลับมา จนถึงตอนนี้ผมยังงงกับตัวเองว่าผมรอดจากเหตุการณ์นั้นมาได้ยังไงตั้งแต่นั้นมา มันเป็นภาพติดตาทุกครั้งที่เสียงฟ้าร้องผมยังคิดถึงเรื่องในวันนั้นทุกครั้ง จนผมต้องกลัวทุกครั้งเวลาที่มีเสียงฟ้าแลบหรือฟ้าผ่า
นี่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับผมไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นนะครับ