🔴มาลาริน/28 ก.ย.ไทยพบโควิด 22 คน มาจากตปท. ศบค.ถอดบทเรียนโควิดในเมียนมา เคาะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 กลุ่มเข้าไทย

ศบค.แถลงผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 22 ราย



ด่วน ศบค.แถลงผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 22 ราย เดินทางมาจาก 4 ประเทศ
 
วันที่ 28 กันยายน 2563 ทางด้านนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า การประชุมในวันนี้ แจ้งเพื่อทราบการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทยพบใหม่ 22 ราย อยู่ในสถานกักกันทั้งสิ้น ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,545 ราย หายป่วย 3,369 ราย เสียชีวิต 59 ราย เดินทางมาจาก 4 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน 1 ราย , ซูดานใต้ 16 ราย , ฟิลิปปินส์  1 ราย , อินเดีย 4 ราย

https://www.komchadluek.net/news/regional/444580?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_ข่าวไฮไลท์

'ศบค.'ถอดบทเรียน'พม่า'หลังยอดป่วยโควิดพุ่ง สั่ง 10 จว.ชายแดนร่วมสกัดระลอก2

วันจันทร์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2563, 15.40 น.


 
'ศบค.'ถอดบทเรียนโควิด-19 ในเมียนมา เผยสาเหตุเกิดจากชายขอบติดอินเดีย-บังกลาเทศก่อนไหลเข้าใจกลางประเทศ จนส่งผลให้ยอดผู้ป่วยพุ่งกว่าหมื่นรายแล้ว กำชับปชช. 10 จังหวัดแนวตะเข็บต้องให้ความร่วมปกป้องประเทศ  ด้าน"บิ๊กตู่"ผวาคนไทยเริ่มการ์ดตก ใส่หน้ากากลดฮวบจากเดิม 94.8 % เหลือเพียง 82.2 % สั่งกลางวง"ศบค."เพิ่มการรณรงค์เข้มข้นขึ้นอีก
 
28 กันยายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านว่า จากรายงาน วันนี้ผู้ติดเชื้อแตะ 10,734 ราย ซึ่งขอบชายแดนของเมียนมาติดกับไทยถึง 10 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง

"จึงขอพี่น้องประชาชนที่อยู่ใน 10 จังหวัดนี้ร่วมมือในการดูแลขอบของประเทศไทยเราเป็นอย่างดี เพราะในสถานการณ์ของเมียนมาที่เกิดขึ้น ก็เกิดจากขอบที่ติดกับอินเดียและบังกลาเทศที่มีการติดเชื้อเริ่มต้นมาก่อน และไหลเข้ามาจนถึงใจกลางประเทศ ส่วนของเราหากตามทฤษฎีเดิมๆที่ทำมาคือ ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และรักษาความสะอาดจะช่วยป้องกันได้ก่อนจะมีวัคซีน ขณะที่รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ได้กระจายการตรวจตามแนวชายแดนยังไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
 
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานการประชุม ว่า ในที่ประชุมได้รายงานว่าเพื่อสร้างความมั่นใจต้องมีการตั้งกลุ่มเป้าหมายในการตรวจทางห้องปฏิบัติการให้มากขึ้น โดยมี 3 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มการตรวจสำหรับการเฝ้าระวัง ได้แก่ การเฝ้าระวังในระบบปกติ การเฝ้าระวังในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และการเฝ้าระวังพิเศษในกลุ่มอื่นๆ 2.การตรวจสำหรับการสอบสวนระบาดวิทยา กรณีพบผู้ป่วยยืนยัน อย่างน้อย 1 รายขึ้นไป ได้แก่ การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก และการค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน 3.การตรวจเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ได้แก่ผู้ป่วยต้องการตรวจเอง การตรวจในสถานประกอบการที่ต้องการเปิดกิจการ เป็นต้น

โฆษกศบค. กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เน้นย้ำต้องรณรงค์ต่อเนื่องการใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลังพบประชาชนใส่หน้ากากลดลงจากช่วงเดือนพฤษภาคม จากเดิม 94.8 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 82.2 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้กลับไปเข้มงวดเหมือนเดิมให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ถึงจะปลอดภัย และผอ.ศบค.ได้ย้ำความพร้อมในการรับมือต้องทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นกับระบบสาธารณสุขไทย แต่ภาคประชาชนก็ต้องร่วมมือด้วย ทั้งนี้ผลกระทบที่มีต่อระบบเศรษฐกิจนายกฯมีความห่วงใยเรื่องปากท้องของประชาชนที่เป็นสิ่งสำคัญ ทางแก้ไขทั้งหมดคือมาตรการผ่อนคลายต่างๆต้องเกิดขึ้น โดยมีมาตรฐานที่เราใช้คือกักตัว 14 วันในการควบคุมโรค
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค.ได้พูดคุยถึงความเป็นไปได้ตามที่ข้อเสนอของ นพ.ยง ภู่วรวรรณ ที่เสนอให้ส่งทีมแพทย์ไปตรวจเชื้อในพื้นที่เมียนมา เพราะมีการระบาดต่อเนื่อง นพ.ทวีศิลป์ ตอบว่า โดยหลักการของการจัดการควบคุมป้องกันโรคติดต่อโดยภาคประเทศเพื่อนบ้านมีความร่วมมือกันดีอยู่แล้ว ครั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุข ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) ในพื้นที่ พูดคุยกันเพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศที่มีการระบาดนี้ เราพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจ อย่างน้อยที่สุดก็ 10 จังหวัดตามแนวชายแดน หากคนต่างชาติเข้ามาเราก็ร่วมมือกัน ก็รอเพียงการตอบรับหรือร่วมมือกันเชิงลึกมากกว่านี้

https://www.naewna.com/politic/521477

ศบค. เคาะ 'เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ' 6 กลุ่มเข้าไทย หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ



ศบค. อนุมัติหลักการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าประเทศทั้งระยะสั้นและยาว หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ย้ำเข้มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
 
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 63 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค. ว่า วันนี้ที่ประชุม ศบค.รายงานความคืบหน้าการอนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยอาศัยอำนาจตามข้อ 3 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 (ฉบับที่ 13) ทั้งหมด 6 กลุ่ม ดังนี้

1. การอนุญาตให้นักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ช่วงวันที่ 6-16 ต.ค. 2563 จัดขึ้นในพื้นที่ จ.สมุทรสงครม จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง และไปสิ้นสุดที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีมาตรการต่างๆ รองรับ State Quarantine 14 วัน ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์
 
2. แนวทางการปฏิบัติในการกักตัวนักบินและลูกเรือบริษัท การบินไทย ในเที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับไทย (Repatriation Flight) ซึ่งลูกเรือประมาณ 340 กว่าคน ขอเข้า State Quarantine เพราะบินในเส้นทางสหรัฐอเมริกา ที่ประชุมอนุมัติในหลักการและรับทราบให้มีการดูแลบุคคลสัญชาติไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินพิเศษที่เดินทางกลับมาในราชอาณาจักรไทย และเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการควบคุมโรคเจ้าหน้าที่ของรัฐ

3. การอนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant) ประเภทต่างๆ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เน้นย้ำว่าเป็นนักธุรกิจที่ไม่มีใบอนญาตทำงานในประเภทต่างๆ ซึ่งมีคนจำนวนมากที่มีความจำเป็นจะต้องเข้ามาเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ เอื้อประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ จึงเห็นควรให้มีการอนุญาต แต่ต้องมีสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกันในจำนวนเงินไทยไม่น้อยกว่า 500,000 บาท และเดินทางตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของทางราชการโดยเคร่งครัด
 
4. การกำหนดเงื่อนไขผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Long Stay ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการ เมื่อ 15 ก.ย. 2563 ผู้ที่จะเข้ามาต้องถือตรวจลงตราประเภท Special Tourist Visa โดยนายกรัฐมนตรีเห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือร่วมกันกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเงื่อนไขการลงตราให้สอดคล้องกันบนพื้นฐานการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศที่จะได้รับจากการเดินทางเข้ามา

5. การอนุญาตผู้ถือบัตร APEC Card เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเป็นนักธุรกิจที่มีการคัดกรองและได้รับการยอมรับจากประเทศทาง APEC 18 ประเทศต้นทางจำนวนหลายแสนคน มีคนที่มีความต้องการจะเข้ามายังประเทศไทย และยังเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย ผู้อำนวยการ ศบค. มีการอนุมัติเห็นสมควรอนุญาตผู้ถือบัตร APEC Card เข้ามาในไทยได้ โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง คาดว่าจะมีประมาณ 1 แสนคน และย้ำว่าต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคเช่นกัน

6. การอนุญาตให้ผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะเวลาสั้นและระยะยาวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร มีคนที่ต้องการจะมาอยู่ในประเทศไทย 60 วัน สามารถขอต่อได้อีก 30 วัน โดยต้องมีบัญชีฝากย้อนหลัง 6 เดือน เทียบเป็นเงินไทยไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาต

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวต่อไปว่า ในที่ประชุมมีเรื่องการพิจารณาขออนุญาตให้สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยเสนอจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ หรือ BWF World Tour ในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วง ม.ค. 2564 ซึ่งที่ประชุม ศบค. วันนี้เห็นชอบในหลักการ

https://www.komchadluek.net/news/regional/444602?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_ข่าววันนี้

ท่องซ้ำๆจำให้ขึ้นใจค่ะ "อย่าการ์ดตก"

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่