คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 26 พ.ค. 2563
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 26 พฤษภาคม 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,045 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 3 ราย)
เสียชีวิตรวม 57 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,929 ราย (96.19%) (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดย 2 รายมาจากประเทศคูเวต เข้ารับการรักษาที่จังหวัดสมุทรปราการ (State quarantine) อีก 1 รายมาจากประเทศรัสเซีย เข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี (State quarantine)
กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยที่รับรักษาสะสมมากที่สุด (1,532 ราย) ตามด้วย ภูเก็ต (227), นนทบุรี (158), ยะลา (125), สมุทรปราการ (115), ชลบุรี (86), ปัตตานี (79), สงขลา (44), เชียงใหม่ (41) และ ปทุมธานี (39) โดยมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่าง state quarantine และในจังหวัดต่างๆ รวม 108 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2807963589329195
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
อีกวัน ที่ไม่ติดเชื้อในประเทศ
ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ (26 พ.ค. ุ63) มีจำนวน 3 ราย แต่ทั้งสามราย เป็นคนไทยที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และกักตัวอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine) โดย 1 ราย เป็นพนักงานนวด กลับมาจากประเทศรัสเซียพร้อมกับผู้ติดเชื้อที่รายงานไปเมื่อวานนี้ ส่วนอีกสองราย มาจากประเทศคูเวต
ดังนั้นก็เท่ากับว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ไทยไม่มีผู้ติดเชื้อที่มาจากภายในประเทศ
นอกจากนั้น ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวัน ที่เราไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
หากจะรักษายอดนี้ไว้ได้ พวกเราต้องร่วมมือกัน ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก อย่างที่คุณหมอทวีศิลป์ได้ฝากไว้นะคะ
"ภาครัฐเข้มข้น เอกชนเข้มแข็ง ประชาชนร่วมแรง ประเทศไทย...ได้ไปต่อ"
https://www.facebook.com/ThaiCovidCenter/posts/132870471712204
Talk today ประเทศไทยเร่งพัฒนาผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 เองไม่ต้องรอซื้อ
วัคซีนโควิด-19 ในไทยคาดว่าใช้ได้เมื่อไร ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คลังเปิดตัวเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com
รวมทุกมาตรการด้านการเงินดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จัดทำเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com เพื่อเผยแพร่มาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบการจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการ
ตามที่ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จัดทำเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรวบรวม และเป็นช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลมาตรการด้านการเงินของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง ในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตรงความต้องการของลูกค้า ประชาชนและผู้ประกอบการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคาร จึงได้มีนโยบายอย่างเร่งด่วนให้ ธอส. ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงิน ของรัฐ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการพัฒนา Website ดังกล่าว โดยได้วางโครงสร้างการออกแบบเว็บไซต์ เน้นความสะดวกและง่ายต่อการสืบค้นหาข้อมูลมาตรการด้านการเงินต่าง ๆ โดยสามารถเลือกค้นหาได้ทั้งตามสถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่ง ประกอบด้วย 1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 2.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.ธนาคารออมสิน 4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 5.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 6.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) 7.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 8.บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) และ 9.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และเลือกตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่ 1.เกษตรกรและ SMEs เกษตรกร 2.ประชาชนฐานรากและบุคคลทั่วไป 3.ผู้ประกอบการ SMEs 4.ผู้ประกอบการนำเข้า – ส่งออก และ 5.Non-Bank ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ยังมีการจัดกลุ่มตามการช่วยเหลือเป็นด้าน ได้แก่ พักชำระเงินต้น/ดอกเบี้ย ลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือเติมสินเชื่อใหม่ให้เพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการเงินให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ ตลอดจนสนับสนุนแหล่งเงินให้กับประชาชน และผู้ประกอบการให้มีสภาพคล่องหรือมีเงินทุนไปใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเงื่อนไขในแต่ละมาตรการนั้นจะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่งเป็นผู้พิจารณาอนุมัติตามความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถเข้าดูข้อมูลเว็บไซต์ดังกล่าวได้ทาง www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com หรือเข้าทางเว็บไซต์ของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ www.gfa.or.th นอกจากนี้ ยังสามารถคลิกแบนเนอร์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และเว็บไซต์ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง โดยเมื่อลูกค้าประชาชนหรือผู้ประกอบการสนใจเลือกใช้มาตรการใดได้แล้วสามารถคลิกลิงค์เข้าไปยังเว็บไซต์ของสถาบันการเงินของรัฐที่สนใจเพื่อดูรายละเอียดมาตรการและติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ เป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการลดความเสี่ยงจากการที่ต้องเดินทางไปติดต่อสถาบันการเงินต่าง ๆ ด้วย สำหรับช่องทางการเข้าสืบค้นหาข้อมูลมาตรการด้านการเงินดังกล่าว สามารถเข้าดูได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ที่มา : เพจสถานีข่าวกระทรวงการคลัง
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/145848343700165
ครม. เห็นชอบ ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ถึง 30 มิ.ย. 63
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/145928693692130
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้เพื่อการบูรณาการ ควบคุมสถานการณ์ และจัดการปัญหาโควิด - 19
เหตุใดจึงต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่มี พ.ร.บ.โรคติดต่ออยู่แล้ว
การบริหารจัดการโควิด - 19 ต้องมีการทำงานข้ามกระทรวง ซึ่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ ฉบับเดียว ไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น การคมนาคม การเดินทางเข้าประเทศ การแก้ไขปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการนำกฎหมายกว่า 40 ฉบับ รวมถึง พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวง เพื่อให้การบริหารงานมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/279676433417686
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 26 พฤษภาคม 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,045 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 3 ราย)
เสียชีวิตรวม 57 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,929 ราย (96.19%) (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดย 2 รายมาจากประเทศคูเวต เข้ารับการรักษาที่จังหวัดสมุทรปราการ (State quarantine) อีก 1 รายมาจากประเทศรัสเซีย เข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี (State quarantine)
กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยที่รับรักษาสะสมมากที่สุด (1,532 ราย) ตามด้วย ภูเก็ต (227), นนทบุรี (158), ยะลา (125), สมุทรปราการ (115), ชลบุรี (86), ปัตตานี (79), สงขลา (44), เชียงใหม่ (41) และ ปทุมธานี (39) โดยมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่าง state quarantine และในจังหวัดต่างๆ รวม 108 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2807963589329195
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
อีกวัน ที่ไม่ติดเชื้อในประเทศ
ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ (26 พ.ค. ุ63) มีจำนวน 3 ราย แต่ทั้งสามราย เป็นคนไทยที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และกักตัวอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine) โดย 1 ราย เป็นพนักงานนวด กลับมาจากประเทศรัสเซียพร้อมกับผู้ติดเชื้อที่รายงานไปเมื่อวานนี้ ส่วนอีกสองราย มาจากประเทศคูเวต
ดังนั้นก็เท่ากับว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ไทยไม่มีผู้ติดเชื้อที่มาจากภายในประเทศ
นอกจากนั้น ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวัน ที่เราไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
หากจะรักษายอดนี้ไว้ได้ พวกเราต้องร่วมมือกัน ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก อย่างที่คุณหมอทวีศิลป์ได้ฝากไว้นะคะ
"ภาครัฐเข้มข้น เอกชนเข้มแข็ง ประชาชนร่วมแรง ประเทศไทย...ได้ไปต่อ"
https://www.facebook.com/ThaiCovidCenter/posts/132870471712204
Talk today ประเทศไทยเร่งพัฒนาผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 เองไม่ต้องรอซื้อ
วัคซีนโควิด-19 ในไทยคาดว่าใช้ได้เมื่อไร ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คลังเปิดตัวเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com
รวมทุกมาตรการด้านการเงินดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จัดทำเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com เพื่อเผยแพร่มาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบการจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการ
ตามที่ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จัดทำเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรวบรวม และเป็นช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลมาตรการด้านการเงินของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง ในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตรงความต้องการของลูกค้า ประชาชนและผู้ประกอบการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคาร จึงได้มีนโยบายอย่างเร่งด่วนให้ ธอส. ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงิน ของรัฐ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการพัฒนา Website ดังกล่าว โดยได้วางโครงสร้างการออกแบบเว็บไซต์ เน้นความสะดวกและง่ายต่อการสืบค้นหาข้อมูลมาตรการด้านการเงินต่าง ๆ โดยสามารถเลือกค้นหาได้ทั้งตามสถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่ง ประกอบด้วย 1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 2.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.ธนาคารออมสิน 4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 5.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 6.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) 7.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 8.บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) และ 9.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และเลือกตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่ 1.เกษตรกรและ SMEs เกษตรกร 2.ประชาชนฐานรากและบุคคลทั่วไป 3.ผู้ประกอบการ SMEs 4.ผู้ประกอบการนำเข้า – ส่งออก และ 5.Non-Bank ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ยังมีการจัดกลุ่มตามการช่วยเหลือเป็นด้าน ได้แก่ พักชำระเงินต้น/ดอกเบี้ย ลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือเติมสินเชื่อใหม่ให้เพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการเงินให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ ตลอดจนสนับสนุนแหล่งเงินให้กับประชาชน และผู้ประกอบการให้มีสภาพคล่องหรือมีเงินทุนไปใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเงื่อนไขในแต่ละมาตรการนั้นจะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่งเป็นผู้พิจารณาอนุมัติตามความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถเข้าดูข้อมูลเว็บไซต์ดังกล่าวได้ทาง www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com หรือเข้าทางเว็บไซต์ของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ www.gfa.or.th นอกจากนี้ ยังสามารถคลิกแบนเนอร์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และเว็บไซต์ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง โดยเมื่อลูกค้าประชาชนหรือผู้ประกอบการสนใจเลือกใช้มาตรการใดได้แล้วสามารถคลิกลิงค์เข้าไปยังเว็บไซต์ของสถาบันการเงินของรัฐที่สนใจเพื่อดูรายละเอียดมาตรการและติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ เป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการลดความเสี่ยงจากการที่ต้องเดินทางไปติดต่อสถาบันการเงินต่าง ๆ ด้วย สำหรับช่องทางการเข้าสืบค้นหาข้อมูลมาตรการด้านการเงินดังกล่าว สามารถเข้าดูได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ที่มา : เพจสถานีข่าวกระทรวงการคลัง
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/145848343700165
ครม. เห็นชอบ ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ถึง 30 มิ.ย. 63
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/145928693692130
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้เพื่อการบูรณาการ ควบคุมสถานการณ์ และจัดการปัญหาโควิด - 19
เหตุใดจึงต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่มี พ.ร.บ.โรคติดต่ออยู่แล้ว
การบริหารจัดการโควิด - 19 ต้องมีการทำงานข้ามกระทรวง ซึ่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ ฉบับเดียว ไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น การคมนาคม การเดินทางเข้าประเทศ การแก้ไขปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการนำกฎหมายกว่า 40 ฉบับ รวมถึง พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวง เพื่อให้การบริหารงานมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/279676433417686
สมาชิกหมายเลข 4130019 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5781809 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1778965 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 3540022 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4444213 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
💗มาลาริน/วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม แล้วทำไมยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีคำตอบค่ะ
ศบค.แถลงฯ สถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุด
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 รายงานผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุดเพิ่ม 3 ราย ป่วยรวมสะสม3,045 ราย รักษาหาย 2,929 ราย รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มวันนี้ไม่มี ยอดผู้เสียชีวิตรวม57 ราย และเหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 59 ราย
https://www.komchadluek.net/news/regional/431907?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_สถานะการโคโรน่า
หมอทวีศิลป์ตอบชัด ทำไมยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งๆที่ประเทศไทยมี พรบ.ควบคุมโรคติดต่ออยู่แล้ว
หมอทวีศิลป์ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ ว่าทำไมยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งๆที่ประเทศไทยมี พรบ.ควบคุมโรคติดต่ออยู่แล้ว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค.แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 รายงานผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุดเพิ่ม 3 ราย ป่วยรวมสะสม 3,045 ราย รักษาหาย 2,929 ราย รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มวันนี้ไม่มี ยอดผู้เสียชีวิตรวม57 ราย และเหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 59 ราย
ขณะที่ช่วงสุดท้ายของการแถลงสถานการณ์โควิด หมอทวีศิลป์ได้ตอบคำถามจากสื่อมวลชนและประชาชนถึงประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เราเห็นจำนวนผู้ติดเชิ้อมีไม่มาก ขณะที่ประเทศไทยก็มี พรบ.ควบคุมโรค ทำไมยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ?
ก่อนการมี พ.ร.ก ฉุกเฉิน เราใช้ พรบ.โรคติดต่ออย่างเดียว ต้องทำงานข้ามกระทรวงกัน การประชุมสั่งการด้วยทางกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง สามารถทำได้ แต่จะไม่ดีเท่าทีควร เช่นเรื่องของหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลน ที่ผ่านมาให้กระทรวงสาธารณสุขจัดการให้เพียงพอ จนกระทั่งประกาศเป็นสินค้าควบคุม เพราฉะนั้นกฎหมายฉบับเดียวจัดการไมได้ ต้องบูรณาการร่วมกัน
พรบ.โรคติดต่อไม่สามารถทำได้ ด้วยตัวกฎหมายเดียว อย่างที่ทราบกันดี โรคนี้เป็นโรคที่เพิ่งเกิดขึ้น ต้องจัดการกับบุคคล เพื่อควบคุมโรคให้ได้ จากเดิมต่างคนต่างทำงานในแต่กระทรวง แต่ ณ วันนี้ต้องมาบูรณาการร่วมกัน และให้อำนาจนำที่บุคลากรของทางรัฐได้เข้าไปควบคุมจัดการ
https://www.komchadluek.net/news/regional/431912?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_ข่าววันนี้
ภาครัฐเข้มข้น เอกชนเข้มแข็ง ประชาชนร่วมแรง ประเทศไทยได้ไปต่อ...👍
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯก็ต้องคงไว้ก่อนเพื่อช่วยบุคลากรที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างมีเอกภาพ
ประชาชนไม่ได้เดือดร้อน มีผลกระทบต่อการทำมาหากินแต่อย่างใด
รัฐบาลเตรียมคลี่คลายผ่อนปรนระยะที่ 3
คนเดือดร้อนสาหัส คือคนที่อยากออกมาป่วนรัฐบาลทางการเมืองอย่างเช่นกลุ่มเสื้อสีแดง กลุ่มอยากเลือกตั้งบางคน กลุ่มก้าวกลวง
บางกลุ่มก็อ้างเป็นตัวแทนประชาชนจะให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อ้างง่ายๆแค่หาคนที่อยากต้านมาร่วมมือไม่กี่คน ซึ่งบางคนก็ยังไม่รู้ว่าพ.ร.ก.มีผลกระทบอย่างไร ก็พูดไปตามนักการเมือง นักกิจกรรมฝั่งต้านรัฐบาล เหมือนสอนนกแก้ว นกขุนทองให้พูดท่องจำ
ประชาชนควรเห็นเขาเห็นเรา เพราะคนบางกลุ่มเอาการเมืองมาเล่นไม่รู้กาละเทศะ ต้องช่วยรัฐบาลให้ทำงานสะดวกสบาย คลายโควิดให้ได้ค่ะ
ประชาชนคือกองหนุนรัฐบาล เพราะรัฐบาลดูแลทำบ้านเมืองสุขสงบให้ทุกคนได้มีความสุขร่วมกัน
ช่วยสนับสนุนรัฐบาลกันเถอะนะคะ....👍💕💗👍💗💕👍💗💕