03/05/2018
ปรากฏการณ์เรื่องบุพเพสันนิวาส สร้างเรตติ้งสูงปี๊ดจนชนะช่องอื่นๆ มาได้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้ละครเรื่องอื่นๆได้ผลบุญของเรตติ้งจาก “ออเจ้า” ต่อเนื่อง
การที่ช่อง 3 ไปผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มบริษัท เทนเซนต์ (Tencent) ยักษ์ใหญ่วงการไอทีของจีน ด้วยการขายลิขสิทธิ์ (ไลเซ่นส์) ลิขิตรัก ละครฟอร์มใหญ่ พร้อมๆกับ ซีรีส์อีก 2 เรื่องซึ่งคือ “Meo Me & You แมวของเขา และรักของเรา” และ “Beauty Boy ผู้ชายขายสวย”
เพื่อนำไปออนแอร์วันเดียวกันกับเมืองไทยผ่านแพลตฟอร์มของ เทนเซนต์ วิดิโอ เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สำคัญของช่อง 3
ชื่อ “เทนเซนต์” หลายคนคงรับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากเป็นบริษัทไอทีอันดับ 1 ของประเทศจีนแล้ว
ยังเป็นเจ้าของเว็บไซต์ดังเช่น weibo , QQ. เจ้าของ We Chat เกมออนไลน์เช่น QQ Fantasy
และเมื่อหลายปีก่อนก็ได้เข้ามาซื้อเวปสนุกดอทคอมของไทย
ส่วนเทนเซนต์ วิดิโอ เป็นบริการ Over The Top (OTT) บริการทีวีผ่านอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน
ปัจจุบันมียอดสมาชิกวีไอพีกว่า 63 ล้าน User มียอดใช้งาน 140 ล้าน User ต่อวัน และ 790 ล้าน User ต่อเดือน
ผู้บริหารของเทนเซ์นต์ได้การันตี ยอดเข้าชมเฉพาะเรื่อง ลิขิตรัก มากกว่า 500 ล้านวิว (ทั้งเรื่องตั้งแต่ตอนแรกจนจบ)
โดยจะใช้ช่องทางออนไลน์ทุกช่องทางของเครือที่มีอยู่ช่วยกระตุ้น และประชาสัมพันธ์ละครเรื่องนี้
ทำไมเทนเซนต์ถึงเลือก ลิขิตรัก ของช่อง 3
โจม พารณจุลกะ CMO- Insight Technology Thailand เผยว่า
บริษัท เทนเซนต์ ได้ดำเนินงานและสื่อสารผ่านตัวกลางคือบริษัท อินไซท์ เทคโนโลยี จำกัด เพื่อทำดิวนี้ให้สำเร็จมานานหลายเดือน
และเหตุผลสำคัญในการเลือกละครของช่อง3 โดยเฉพาะเรื่องลิขิตรักเป็นเพราะ
1. ช่อง 3 เป็นช่องละครใหญ่ของไทย
2. เป็นละครของคู่ขวัญเบอร์ใหญ่ของช่องคือณเดช- ญาญ่า ซึ่งคนจีนส่วนหนึ่งรู้จักอยู่ แล้ว
3 เป็นละครของผู้จัด แอน ทองประสม ซึ่งทำเรื่องไหนปังทุกเรื่อง
4. มีเนื้อหาเหมาะสมกับประเทศจีน ที่มีกฎเหล็กสำหรับละครต่างชาติที่จะเข้าไปออกอากาศ ว่า
จะต้องไม่เป็นละครผี ไม่เน้นเรื่องเพศที่ 3 ไม่เป็นละครการเมือง หรือมีการตบตีรุนแรง
นอกจากนั้น การร่วมมือกันครั้งนี้ยังเป็นการสร้างมิติใหม่ในการนำละครไปฉายด้วยวิธีการขายลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง
เพราะก่อนหน้านี้ ละครส่วนใหญ่จากเมืองไทยถูกนำไปฉายในช่องทางออนไลน์แบบละเมิดลิขสิทธ์
รวมทั้งจะต้องผ่านการเซ็นเซอร์จากประเทศจีนอีกประมาณ 2 เดือนก่อนออกอากาศ โดยส่วนของจีนนั้นจะเป็นรูปแบบมีซับไตเติ้ลภาษาจีน
ราคาไม่สำคัญ ขอแค่เปิดตลาดในจีนให้ได้
ที่ผ่านมาละครของช่อง 3 ก็ถูกขายไปยังประเทศต่างๆอยู่แล้วในรูปแบบการรีรัน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นการขายเพื่อให้ออกอากาศพร้อมกัน
ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร กล่าวว่า ยังไม่อยากให้มองในเรื่องรายได้เป็นหลัก
แต่ต้องการให้มองถึงโอกาสที่ทำให้ช่อง 3 ได้ร่วมมือกับเจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนมากกว่า
เป็นการเปิดตลาดขนาดใหญ่จากคน 60 ล้านคน ในเมืองไทยสู่คนกว่า1,000 ล้านคนในประเทศจีน และไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย
อย่างไรก็ตามถ้ามองไปยังสเต็ปต่อไป หากละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จโอกาสอื่นๆก็จะตามมาในอนาคตแน่นอน เช่น
1.ในเรื่องของการขายไลเซ่นส์เรื่องต่อๆไป
2. มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องอาร์ตทิสแมเนจเมนท์
3. ดาราซึ่งเป็นทรัพย์สินที่สวยงามของช่อง 3 จะได้โอกาสในการเดินทางไปโชว์ตัวและได้งานต่างๆตามมา เป็นการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
Line และ Youtube เป็นการบุกตลาดออนไลน์ ของช่อง 3 ในรูปแบบการรีรันละคร หลังจากออกอากาศสดไปแล้ว 48 ชั่วโมง
ส่วนเทนเซนต์วิดีโอ ก็จะเป็นช่องทางใหม่ ในการเข้าไปบุกตลาดออนไลน์ในประเทศจีนในรูปแบบของการออนแอร์พร้อมกัน
แต่จะไปสร้างปรากฎการณ์ให้คนจีนได้ “ฮือฮา” หรือไม่ หลังวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ คงจะได้รู้กัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติม กระแสหลังการออกอากาศ
🧐 [ย้อนบทความเก่า] ช่อง 3 หวังพึ่งอิทธิฤทธิ์ เทนเซนต์ บิ้วท์คนดูในประเทศจีน 🔎 ทำไมเทนเซนต์ถึงเลือก ลิขิตรัก
2. เป็นละครของคู่ขวัญเบอร์ใหญ่ของช่องคือณเดช- ญาญ่า ซึ่งคนจีนส่วนหนึ่งรู้จักอยู่ แล้ว
3 เป็นละครของผู้จัด แอน ทองประสม ซึ่งทำเรื่องไหนปังทุกเรื่อง
4. มีเนื้อหาเหมาะสมกับประเทศจีน ที่มีกฎเหล็กสำหรับละครต่างชาติที่จะเข้าไปออกอากาศ ว่า