สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องเจ้าเหมียวขนฟูตัวหนึ่งอยากจะมาเล่าให้ฟัง
เป็นเรื่องราวระหว่างโรซ่ากับแมวที่ชื่อว่า
" โทโระ " เริ่มเรื่องเลยนะคะ
โทโระเป็นแมวตัวผู้ พันธุ์ British Shorthair ย้ายมาอยู่กับเราตอนน้อง อายุได้ 4 เดือน กำลังเป็นน้องแมวตาแป๋วน่ารักน่าฟัด
แต่บอกตามตรงเลยว่าตอนแรกไม่อยากรับ เพราะเราไม่พร้อมในเรื่องของเวลา และพื้นเพเราเคยเลี้ยงน้องหมามาก่อน ประกอบกับน้องยังไม่หย่านมแม่
แต่เมื่อเพื่อนมอบให้ด้วยความหวังดีเราก็เลยไม่ปฏิเสธ และ การตัดสินใจรับเขามาอยู่ด้วยกัน มันก็ค่อย ๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเรา คืนแรกที่น้องแมวมาอยู่ในบ้าน เราทำอะไรไม่ถูก น้องออกจะกลัว ๆ เอาแต่แอบใต้โต๊ะ ใต้ตู้ และร้องเมี๊ยว ๆ ๆ ทั้งคืน เหมือนว่าน้องร้องหาแม่ เราก็ทำอะไรไม่ถูก
มารู้ตัวอีกทีน้องก็ร้องเมี๊ยวปลุกเราตอนหกโมงเช้า เป็นอะไรที่งัวเงียมาก เพราะปกติเราจะตื่น 7 โมง เลยต้องไปทำอาหารให้น้อง พอน้องกินเสร็จเราจะกลับไปหลับต่อ ปรากฎว่าหลับไม่ได้เพราะน้องเดินตามมายืนที่ข้างเตียง แล้วมองหน้าเราพร้อมกับทำเสียงเมี๊ยวที่ลำคอ เสมือนเป็นการบอกว่า ตื่นมาเล่นกับหนูหน่อย หนูเหงา หนูหิว
เราใจอ่อนเลยพาน้องไปที่ถาดอาหาร แล้วเดินกลับมาที่เตียง แต่น้องก็เดินตามทำแบบนี้อยู่ 3 - 4 ครั้ง จนสุดท้ายต้องไปนั่งเฝ้าน้องทานอาหารรสปลาทูน่า พอทานเสร็จเหมือนน้องปรับตัวได้ก็เริ่มเดินมาใกล้ ๆ จากนั่งข้าง ๆ ก็ค่อยเขยิบมาทีละนิดจนสุดท้ายก็มานั่งบนตักก็เลยตั้งชื่อให้น้องว่า โทโระ (Toro ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าทูน่า)
เราตั้งชื่อว่า Toro เพราะเคยเห็นอาหารแมวชื่อ Toro แล้วคิดว่ามีคำว่า Ro เหมือน เรา บวกกับ พ่อของเราที่ชื่อ Hiroshi ตอนตั้งชื่อเราเลยตั้งใจว่าจะขอให้มีคำว่า Ro อยู่ในชื่อน้อง ทุกเช้าเจ้าโทโระจะมาปลุกเราตอน 6 โมง แรก ๆ เรายังปรับตัวไม่ได้ ไม่ชิน รู้สึกเหนื่อยเหมือนนอนไม่พอ
จนคิดอยากจะนำน้องกลับไปให้เพื่อน หรือ หาคนอื่นรับเลี้ยงแทน และ ที่สำคัญโรซ่าเลิกงานดึก ต้องออกไปข้างนอกอยู่บ่อย ๆ ก็เป็นห่วงน้อง
จนกระทั่งครั้งนึง โรซ่าต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัดหลายวัน ทีนี้เรารู้สึกเครียดมาก เพราะเป็นห่วงโทโระเลยหาโรงแรมน้องแมวในกรุงเทพ มีพนักงานคอยดูแลให้อาหาร เล่นกับน้องทุกวัน
แต่เราก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี เลยซื้อ Option เสริม คือติดกล้องวงจรปิดในห้องนอนของโทโระ เราจะได้สามารถดูเขาผ่านโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา และ ขอให้ทางโรงแรมส่งรูปอัพเดทมาให้ดูทุกวัน ซึ่งระหว่างที่ทำงานใจก็เป็นห่วงโทโระมาก พอมารู้ว่าเขาไม่ค่อยทานอาหารยิ่งเครียดไปอีก จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านก็รีบไปรับเจ้าโทโระ
พอเจอกันครั้งแรกในรอบหลายวันสิ่งที่เจ้าโทโระทำก็คือ เอื้อมขาหน้าสั้น ๆ ทั้งสองข้างมาเกาะที่เราแล้วทำเสียงอ้อน ๆ ส่งสายตาที่ต่อให้คนใจแข็งแค่ไหนก็เกินต้านทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากเจ้าแมวซนตัวนี้ มันเมี้ยวนานมากกกก อารมณ์บ่นว่าเธอหายไปนานเลยนะ
แต่จริง ๆ แล้วเหมือนเขากับเราต่างดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง พอกลับมาอยู่บ้านเรารู้สึกว่าเขาพยายามปรับตัวเองเพื่ออยู่กับเราและในขณะเดียวกันเราก็เปลี่ยนตัวเองเพื่ออยู่กับเขาโดยที่ไม่รู้ตัว จากนั้นความคิดที่จะนำเจ้าโทโระกลับไปคืนฟาร์มแมว เพราะความกังวลเรื่องเวลาก็ไม่มีอีกแล้ว
โรซ่าเลยปรับเปลี่ยนเวลาของตัวเองเพื่อจะได้อยู่กับเจ้าแมวขี้อ้อน หน้ากลมที่ชื่อ โทโระ เนี่ย
จนตอนนี้ก็ทำให้เข้าใจความหมายของคำว่า 'ทาสแมว' ไปแล้วค่ะ มีเสียงสอง เสียงสิบ มีภาษาประหลาดๆ บี๊บี๋ บู่บู่ มามี๊ กู่กู๋ อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด แต่ก็น่ารักดีนะคะ โทโระเปลี่ยนชีวิตเราหลายอย่างมาก ๆ ทั้งเรื่องเวลา ความรับผิดชอบ และสิ่งสำคัญที่เราคิดว่าคนเลี้ยงน้องหมาน้องแมวมีเหมือนกันหมดเลยก็คือ ความอ่อนโยน ซึ่งความอ่อนโยนไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะกับสัตว์เลี้ยงของเรา แต่มันยังรวมถึงหมาแมวไร้บ้านด้วย จนต้องพกอาหารเม็ดติดรถเลยทีเดียว
เวลาผ่านไปหลายเดือนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับโทโระทำให้เราพบอีกว่า 'ความรัก' ของคนกับแมวมันแตกต่างจากมนุษย์ เพราะความรักที่มีให้สัตว์เลี้ยงคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไขหรือหวังผลตอบแทน แค่กลับบ้านมาเจอหน้าเขา หรือเห็นเขาทานอาหาร เขี่ยบอลไปมา และมานั่งข้างเราเวลาเหนื่อย หรือให้เราบ่นเขาเล่นในบ้าน ก็มีความสุขอย่างมากแล้ว
และนี่ก็คือการ Move On ของโรซ่าจากคนไม่ชอบแมวก็เปลี่ยนเป็นทาสแมวโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเพื่อน ๆ ชอบลองมาแบ่งปันประสบการณ์รักแรกพบกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองกันนะคะ 😃
และที่สำคัญเจ้าเหมียวของเพื่อน ๆ ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเองบ้างค่ะ ลองมาเม้นบอกกันนะคะ ^^
ถ้าเพื่อน ๆ ชอบสามารถติดตามเจ้าเหมียวโทโระได้ที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/rosabichannel/posts/121298223042000?__tn__=K-R
จากคนรักหมาสู่การเปิดใจเป็นทาสแมว เพราะโลกทั้งใบให้(เจ้า)นายคนเดียว
เป็นเรื่องราวระหว่างโรซ่ากับแมวที่ชื่อว่า " โทโระ " เริ่มเรื่องเลยนะคะ
โทโระเป็นแมวตัวผู้ พันธุ์ British Shorthair ย้ายมาอยู่กับเราตอนน้อง อายุได้ 4 เดือน กำลังเป็นน้องแมวตาแป๋วน่ารักน่าฟัด
แต่บอกตามตรงเลยว่าตอนแรกไม่อยากรับ เพราะเราไม่พร้อมในเรื่องของเวลา และพื้นเพเราเคยเลี้ยงน้องหมามาก่อน ประกอบกับน้องยังไม่หย่านมแม่
แต่เมื่อเพื่อนมอบให้ด้วยความหวังดีเราก็เลยไม่ปฏิเสธ และ การตัดสินใจรับเขามาอยู่ด้วยกัน มันก็ค่อย ๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเรา คืนแรกที่น้องแมวมาอยู่ในบ้าน เราทำอะไรไม่ถูก น้องออกจะกลัว ๆ เอาแต่แอบใต้โต๊ะ ใต้ตู้ และร้องเมี๊ยว ๆ ๆ ทั้งคืน เหมือนว่าน้องร้องหาแม่ เราก็ทำอะไรไม่ถูก
มารู้ตัวอีกทีน้องก็ร้องเมี๊ยวปลุกเราตอนหกโมงเช้า เป็นอะไรที่งัวเงียมาก เพราะปกติเราจะตื่น 7 โมง เลยต้องไปทำอาหารให้น้อง พอน้องกินเสร็จเราจะกลับไปหลับต่อ ปรากฎว่าหลับไม่ได้เพราะน้องเดินตามมายืนที่ข้างเตียง แล้วมองหน้าเราพร้อมกับทำเสียงเมี๊ยวที่ลำคอ เสมือนเป็นการบอกว่า ตื่นมาเล่นกับหนูหน่อย หนูเหงา หนูหิว
เราใจอ่อนเลยพาน้องไปที่ถาดอาหาร แล้วเดินกลับมาที่เตียง แต่น้องก็เดินตามทำแบบนี้อยู่ 3 - 4 ครั้ง จนสุดท้ายต้องไปนั่งเฝ้าน้องทานอาหารรสปลาทูน่า พอทานเสร็จเหมือนน้องปรับตัวได้ก็เริ่มเดินมาใกล้ ๆ จากนั่งข้าง ๆ ก็ค่อยเขยิบมาทีละนิดจนสุดท้ายก็มานั่งบนตักก็เลยตั้งชื่อให้น้องว่า โทโระ (Toro ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าทูน่า)
เราตั้งชื่อว่า Toro เพราะเคยเห็นอาหารแมวชื่อ Toro แล้วคิดว่ามีคำว่า Ro เหมือน เรา บวกกับ พ่อของเราที่ชื่อ Hiroshi ตอนตั้งชื่อเราเลยตั้งใจว่าจะขอให้มีคำว่า Ro อยู่ในชื่อน้อง ทุกเช้าเจ้าโทโระจะมาปลุกเราตอน 6 โมง แรก ๆ เรายังปรับตัวไม่ได้ ไม่ชิน รู้สึกเหนื่อยเหมือนนอนไม่พอ
จนคิดอยากจะนำน้องกลับไปให้เพื่อน หรือ หาคนอื่นรับเลี้ยงแทน และ ที่สำคัญโรซ่าเลิกงานดึก ต้องออกไปข้างนอกอยู่บ่อย ๆ ก็เป็นห่วงน้อง
จนกระทั่งครั้งนึง โรซ่าต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัดหลายวัน ทีนี้เรารู้สึกเครียดมาก เพราะเป็นห่วงโทโระเลยหาโรงแรมน้องแมวในกรุงเทพ มีพนักงานคอยดูแลให้อาหาร เล่นกับน้องทุกวัน
แต่เราก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี เลยซื้อ Option เสริม คือติดกล้องวงจรปิดในห้องนอนของโทโระ เราจะได้สามารถดูเขาผ่านโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา และ ขอให้ทางโรงแรมส่งรูปอัพเดทมาให้ดูทุกวัน ซึ่งระหว่างที่ทำงานใจก็เป็นห่วงโทโระมาก พอมารู้ว่าเขาไม่ค่อยทานอาหารยิ่งเครียดไปอีก จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านก็รีบไปรับเจ้าโทโระ
พอเจอกันครั้งแรกในรอบหลายวันสิ่งที่เจ้าโทโระทำก็คือ เอื้อมขาหน้าสั้น ๆ ทั้งสองข้างมาเกาะที่เราแล้วทำเสียงอ้อน ๆ ส่งสายตาที่ต่อให้คนใจแข็งแค่ไหนก็เกินต้านทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากเจ้าแมวซนตัวนี้ มันเมี้ยวนานมากกกก อารมณ์บ่นว่าเธอหายไปนานเลยนะ
แต่จริง ๆ แล้วเหมือนเขากับเราต่างดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง พอกลับมาอยู่บ้านเรารู้สึกว่าเขาพยายามปรับตัวเองเพื่ออยู่กับเราและในขณะเดียวกันเราก็เปลี่ยนตัวเองเพื่ออยู่กับเขาโดยที่ไม่รู้ตัว จากนั้นความคิดที่จะนำเจ้าโทโระกลับไปคืนฟาร์มแมว เพราะความกังวลเรื่องเวลาก็ไม่มีอีกแล้ว
โรซ่าเลยปรับเปลี่ยนเวลาของตัวเองเพื่อจะได้อยู่กับเจ้าแมวขี้อ้อน หน้ากลมที่ชื่อ โทโระ เนี่ย
จนตอนนี้ก็ทำให้เข้าใจความหมายของคำว่า 'ทาสแมว' ไปแล้วค่ะ มีเสียงสอง เสียงสิบ มีภาษาประหลาดๆ บี๊บี๋ บู่บู่ มามี๊ กู่กู๋ อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด แต่ก็น่ารักดีนะคะ โทโระเปลี่ยนชีวิตเราหลายอย่างมาก ๆ ทั้งเรื่องเวลา ความรับผิดชอบ และสิ่งสำคัญที่เราคิดว่าคนเลี้ยงน้องหมาน้องแมวมีเหมือนกันหมดเลยก็คือ ความอ่อนโยน ซึ่งความอ่อนโยนไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะกับสัตว์เลี้ยงของเรา แต่มันยังรวมถึงหมาแมวไร้บ้านด้วย จนต้องพกอาหารเม็ดติดรถเลยทีเดียว
เวลาผ่านไปหลายเดือนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับโทโระทำให้เราพบอีกว่า 'ความรัก' ของคนกับแมวมันแตกต่างจากมนุษย์ เพราะความรักที่มีให้สัตว์เลี้ยงคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไขหรือหวังผลตอบแทน แค่กลับบ้านมาเจอหน้าเขา หรือเห็นเขาทานอาหาร เขี่ยบอลไปมา และมานั่งข้างเราเวลาเหนื่อย หรือให้เราบ่นเขาเล่นในบ้าน ก็มีความสุขอย่างมากแล้ว
และนี่ก็คือการ Move On ของโรซ่าจากคนไม่ชอบแมวก็เปลี่ยนเป็นทาสแมวโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเพื่อน ๆ ชอบลองมาแบ่งปันประสบการณ์รักแรกพบกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองกันนะคะ 😃
และที่สำคัญเจ้าเหมียวของเพื่อน ๆ ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเองบ้างค่ะ ลองมาเม้นบอกกันนะคะ ^^
ถ้าเพื่อน ๆ ชอบสามารถติดตามเจ้าเหมียวโทโระได้ที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/rosabichannel/posts/121298223042000?__tn__=K-R