ทำไมต้องบูลลี่กันด้วยเรื่องสำเนียง ตั้งแต่ผมมาเรียนประมาณ1ปีกว่าที่กรุงเทพผมมีปัญหาเรื่องการออกเสียงมากเลยเพราะเคยโดนล้อโดนบูลลี่เรื่องเสียงมาเยอะเวลาพูดก็จะต้องดัดทุกคำพูด ต้องคิดคำทุกครั้งก่อนพูดว่าคำไหนเหน่อคำไหนไม่ควรพูด การนำเสนอที่ต้องพูดไมค์ออกงานผมจากเมื่อก่อนเป็นหัวหน้าหลักในการนำพูดแต่ตอนนี้ต้องมาให้เพื่อนนำเสนอแทนและหลีกเลี่ยงการพูดนำเสนอ ต้องหลีกเลี่ยงทุกงาน
วันนึงนั่งอยู่หลังห้อง แล้วมีเพื่อนคนนึงออกไปนำเสนอและเขาพูดเหน่อมาก หลังจากนั้นผมก็ได้ยินแถวข้างๆกันล้อเลียนเสียงกับเพื่อนๆเฮฮา( อยากลุกไปตบมากเลย ) บางทีพวกผมก็ไม่ได้อยากพูดเหน่อหลอกนะแค่มันเปลี่ยนยาก ตอนนี้ผมก็พูดเหน่อน้อยลงนะแต่ก็ยังเหน่ออยู่ดี
สรุป สิ่งที่ผมได้คือ
1.ฟังคนอื่นรู้ว่าเหน่อไหม ปกติอยู่ตจว.คิดว่าพวกเราพูดปกติ พอมาอยู่กทม.เลยรู้ว่าคนตจว.เขาพูดเหน่อแค่ไหนและฟังออก
2.การออกเสียงที่เพี้ยนและไม่กล้าใส่เสียง ขนาดกลับไปตจว.ยังไม่กล้าพูดปกติกับคนที่รู้จักเลยเพราะคิดว่าเขาจะมองว่าเราเหน่อ
3.การกล้าแสดงออกดร็อปอย่างเห็นได้ชัด
บางทีที่คุณๆล้อเล่นสำเนียงเหน่อแล้วเขายิ้มๆไม่ว่าอะไร แต่ข้างใน
เสียใจนะครับ ท้อจัดๆเลยที่ตัวเองต้องมาพูดเหน่อ
ใครที่ผ่านมาอ่านก็ขออย่าไปล้อคนที่เขาพูดเหน่อเลยครับ ส่วนใครที่เคยล้อก็เลิกเถอะ บางทีมันเป็นปัญหาของเขาคนนั้นๆมากเลยนะครับ เป็นแกะดำในหมู่คน
สงสัยกับการบูลลี่คนพูดเหน่อ ??
วันนึงนั่งอยู่หลังห้อง แล้วมีเพื่อนคนนึงออกไปนำเสนอและเขาพูดเหน่อมาก หลังจากนั้นผมก็ได้ยินแถวข้างๆกันล้อเลียนเสียงกับเพื่อนๆเฮฮา( อยากลุกไปตบมากเลย ) บางทีพวกผมก็ไม่ได้อยากพูดเหน่อหลอกนะแค่มันเปลี่ยนยาก ตอนนี้ผมก็พูดเหน่อน้อยลงนะแต่ก็ยังเหน่ออยู่ดี
สรุป สิ่งที่ผมได้คือ
1.ฟังคนอื่นรู้ว่าเหน่อไหม ปกติอยู่ตจว.คิดว่าพวกเราพูดปกติ พอมาอยู่กทม.เลยรู้ว่าคนตจว.เขาพูดเหน่อแค่ไหนและฟังออก
2.การออกเสียงที่เพี้ยนและไม่กล้าใส่เสียง ขนาดกลับไปตจว.ยังไม่กล้าพูดปกติกับคนที่รู้จักเลยเพราะคิดว่าเขาจะมองว่าเราเหน่อ
3.การกล้าแสดงออกดร็อปอย่างเห็นได้ชัด
บางทีที่คุณๆล้อเล่นสำเนียงเหน่อแล้วเขายิ้มๆไม่ว่าอะไร แต่ข้างในเสียใจนะครับ ท้อจัดๆเลยที่ตัวเองต้องมาพูดเหน่อ
ใครที่ผ่านมาอ่านก็ขออย่าไปล้อคนที่เขาพูดเหน่อเลยครับ ส่วนใครที่เคยล้อก็เลิกเถอะ บางทีมันเป็นปัญหาของเขาคนนั้นๆมากเลยนะครับ เป็นแกะดำในหมู่คน