คนที่เหมาะจะอ่านคือ คนที่ไม่เคยนวดมาก่อน หรือคนเพิ่งเคยนวด สำหรับมือเก่าข้ามได้เลยค่ะ
ออกตัวก่อนว่าเป็นคนขี้เมื่อย ชอบการนวด และเข้าร้านนวดเป็นประจำสม่ำเสมอมากว่า 10 ปีแล้ว
นวดแพงสุดคือครั้งละเกือบสองหมื่น นวดถูกสุด 100 บาท เราอาจจะไม่ใช่กูรูเพราะไม่เคยเรียนนวด
แต่ค่อนข้างรู้ว่าร้านนวดที่ดีเป็นยังไง ลูกค้าต้องการการบริการแบบไหน และหมอนวดสำคัญขนาดไหนต่อร้านนวดนะคะ
เราขอเขียนในมุมมองของเรา ที่เป็นคนชอบนวดปานกลาง ไม่หนักมาก และไม่เชื่อว่าการนวดที่ดีต้องเจ็บต้องระบมค่ะ
ใครไม่ถูกจริตกดปิดไปได้เลยค่ะ ตามความเห็นส่วนตัวเนาะ
ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูก ถ้าอยากนวดอยากผ่อนคลาย แต่ไม่รู้จะเอาลูกไปไว้ไหนดี
เราเอาลูกเข้าร้านนวดตั้งแต่เขาเล็กๆ ค่ะ ให้นวดไปด้วยกันนี่แหละ นางจะได้ไม่กวน
แค่บอกหมอนวดว่านวดเบาลงให้มากๆ ขนาดขัดตัวนวดอโรม่า ก็ทำไปพร้อมกับลูกนี่แหละ ทุกวันนี้ก็เข้ากับลูกชายตลอดๆ
--------------------------------------
หนุ่มๆ สาวๆ ที่เมื่อยจากการทำงาน จากออฟฟิศซินโดรม หรือเวลามีกิจกรรมใช้งานร่างกายหนัก คงมีสักครั้งที่คิดที่จะลอง "นวด" กันดูบ้าง
แต่มือใหม่ใสปิ๊งอย่างเรา จะเลือกนวดอะไรดีละ แล้วนวดแต่ละอย่างมันช่วยอะไรยังไงบ้าง วันนี้คนบ้านวด จะมาแชร์วิธีการเลือกร้านนวดให้ฟังค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สำหรับเรา การนวดที่ดี คือขณะนวดจะสบาย เพราะนวดโดนจุดเมื่อย หลังนวดจะหายเมื่อยไปเลย
การนวดที่ไม่ดีสำหรับเรา คือขณะนวด เป็นการนวดที่หายใจไม่ทั่วท้อง นวดหนัก นวดเจ็บ หลังนวดจะช้ำ จะเจ็บไปอีกหลายวัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน บางคนชอบหนักก็แล้วแต่เลยค่ะ
--------------------------------------
การนวดมีอะไร
1. นวดเท้า ตรงตัวเลย คือนวดเท้าค่ะ บางร้านจะนวดขึ้นมาถึงบริเวณต้นขาด้วย บางร้านจะนวดถึงแค่ช่วงน่อง
บางร้านต้องนั่งเก้าอี้นวดเท่านั้น แต่บางร้านสามารถนอนนวดได้ เหมือนนวดไทย แต่หมอนวดจะนวดให้เฉพาะเท้ากับขาค่ะ
บางร้านไม่มีครีมหรือน้ำมันเลย บางร้านมีไม้ไว้กด เราบอกเลยว่าเราไม่ชอบ อาจจะมีคนชอบก็ไม่ว่ากัน
บางร้านจะถามก่อนว่าลงครีมหรือน้ำมันได้ไหม สำหรับเราคือได้หมดค่ะ บางร้านพอนวดเสร็จ เขาจะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดให้ด้วย
2. นวดไทย หากมือใหม่เราไม่อยากให้เริ่มด้วยการนวดไทยนะคะ เพราะถ้าเจอร้านที่หมดนวดมือหนัก คุณจะเข็ดการนวดไปเลย
นวดไทยเท่าที่เคยนวดมา ถ้าเป็นร้านราคาย่อมเยาจะนวดหนักหน่อย คือลงศอก ซึ่งเราไม่โอเคเราว่ามันเจ็บและช้ำค่ะ
หมอบางคนนวดจะใช้เท้านวดหรือขึ้นไปนวดบนตัว ใครมือใหม่บอกเขาเลยว่าไม่เอาศอก ไม่ต้องใช้เท้า เพราะเจ็บระบมเหมือนกัน
ถ้าจะเอาให้หายเมื่อยต้อง 2 ชั่วโมงค่ะ ชั่วโมงเดียวอารมณ์แบบรีบ แต่ขอนวดหน่อย
นวดไทยที่เราเคยเจอแล้วประทับใจมีอยู่ 2 แนว คือการนวดคลึงโดยใช้มือบวกกับรีดเส้นเป็นบางจุด นวดเสร็จสบายมาก
กับการนวดที่เน้นการยืดและเหยียดของกล้ามเนื้อ คล้ายการ Stretching หลังเล่นเวทหรือคาดิโอ
การนวดไทยจะมีทั้งแบบประคบและไม่ประคบ การประคบคือ เอาสมุนไพรไทยมาทำเป็นลูกประคบค่ะ
ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีอุ่นให้ร้อน แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีปัญหา เช่น การเป็นรองช้ำ สามารถใช้ลูกประคบมาประคบบริเวณส้นเท้าได้
สำหรับเราค่อนข้างได้ผลดีค่ะ เคยไปนวดที่โรงพยาบาลศิริราชปิยะฯ เขาแนะนำให้ประคบร้อนตอนเป็นรองช้ำ หรือแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นจัดบ่อยๆ ก็ช่วยได้
เป็นอีกศาสตร์ของแพทย์แผนไทยที่เราชอบมากๆ
3. นวดอโรม่า หรือการนวดผ่อนคลายโดยใช้น้ำมันหอมระเหย นวดแบบนี้โป๊หน่อยนะคะ เพราะบางที่เขาให้ถอดหมดเลย
ส่วนใหญ่เราจะเลือกสครับก่อนแล้วตามด้วยอโรม่า สำหรับเราถือเป็นการขัดผิวขัดขี้ไคลแล้วบำรุงผิวไปในตัว
เวลาเลือกนวดแบบนี้ เราจะเตรียมชุดนอนไปเลย เพราะส่วนใหญ่พอสครับเสร็จก็อาบน้ำสระผม นวดอโรม่าต่อ ก็เปลี่ยนชุดนอนกลับบ้านนอนได้เลย
สำหรับเรา นวดอโรม่าเสร็จจะไม่ล้างค่ะ ร้านประจำเขาใช้น้ำมันมะพร้าว บางคนไม่ชอบกลิ่น จริงๆ เราก็ไม่ชอบนะ แต่คุณสัมบัติบำรุงผิวดีมาก
ตอนเช้าตื่นมาผิวนิ่มมากๆ เลย
4. นวดน้ำมันหรือนวดรีดเส้น ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นการนวดแบบเดียวกัน ซึ่งการนวดแบบนี้เราไม่ได้นวดบ่อยค่ะ มันเจ็บ สำหรับเราอะนะ
หรืออาจจะเจอนวดหนักในครั้งแรก เราเลยไม่ได้ลองอีกเลยก็ได้ วิธีนวดคือเขาจะรีดเส้นทีละเส้น ซึ่งใช้น้ำมันทำให้สโตรคการนวดลื่นไหลขึ้น
แต่ที่เราเจอคือรีดทีนึงกดเจ็บมาก คือขาได้หลังได้ แต่พอนวดไหล่และบริเวณคอ เราไม่ไหวจริงๆ เจ็บมากกกกกกกก
5. นวดสวีดิชหรือสปอร์ต บางร้านบอกไม่เหมือนกัน แต่เราลองแล้วรู้สึกคล้ายกันมาก ขอจับรวมนะคะ
จะคล้ายกับอโรม่าค่ะ แต่หนักกว่า ส่วนใหญ่เราเลือกแบบนี้หลังจากวันที่ออกกำลังกายหนักๆ
มันช่วยให้หายปวดกล้ามเนื้อไปได้เยอะอยู่เหมือนกัน
6. นวดหัว หรือนวดศีรษะ หลังๆ เราจะเลือกนวดหัวเวลาไปที่โรงแรมเท่านั้น เพราะเราเคยมีประสบการณ์ปวดหัวไมเกรนอย่างหนัก
หลังจากไปนวดหัวมา จนนอนไม่ได้ทั้งคืน ต้องลุกขึ้นมาอาเจียนแทบทุกชั่วโมง และต้องเข้าไปพบแพทย์ในตอนเช้า
เพราะการนวดที่รุนแรงเกินไปค่ะ ดังนั้นใครจะลองนวดศีรษะ บอกหมอนวดเลยว่าให้เริ่มด้วยแรงที่น้อยๆ ก่อนดีที่สุดนะคะ
7. นวดคอบ่าไหล่ ตรงตัวเลย คือนวดบริเวณคอบ่าไหล่ ซึ่งถ้าไม่เน้นมาก เวลานวดเท้าหมอนวดจะปิดจบด้วยคอบ่าไหล่ค่ะ
อันนี้มีแบบที่นั่งเฉยๆ ก็นวดได้ หรือมีแบบเก้าอี้เฉพาะสำหรับนวดเลย เราชอบแบบเก้าอี้เฉพาะมากกว่า เราว่ามันโดนจุดมากกว่า
หลักๆ ก็ประมาณนี้ ตามร้านทั่วไป การนวดเฉพาะบางที่มันก็จะมี นวดด้วยหินร้อนและเย็น นวดด้วยอัญมณี นวดบนหินหยก นวดโกยมดลูก ฯลฯ
--------------------------------------
นวดที่ไหนดี
1. โรงแรม 4 - 5 ดาว
สำหรับคนที่มีงบประมาณนึง และอยากลองนวดครั้งแรก โดยไม่ให้เกิดอาการเฟล หรือเข็ดจนไม่กล้านวดครั้งที่สองอีก
เราจะแนะนำให้ไปนวดในโรงแรม 4 - 5 ดาวค่ะ การนวดในโรงแรมข้อดีเลยคือ ความสะอาดและความเป็นส่วนตัว
พนักงานมีมารยาทและบริการที่ดี การนวดมีมาตรฐาน การนวดที่แนะนำ คือ นวดเท้า นวดไทย และนวดอโรม่า
บางโรงแรมจะมีสปาอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย ราคากลางๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 ขึ้นอยู่กับการนวดและเวลาที่ใช้
โรงแรมที่เราประทับใจคือ แลนมาร์ค โนโวเทล และฮิลตันค่ะ ถ้ามีโอกาสและมีเงินก็จะแวะไป
2. โรงพยาบาล
อย่างศิริราชปิยะมหาการุณ หรือเกษมราษฏร์ จะมีนวดค่ะ แต่ต้องนัดก่อน
ของศิริราชเป็นแก้อาการ จะผ่านการประเมินจากหมอก่อน น่าจะเป็นแผนกอายุรเวชถ้าจำไม่ผิดนะคะ
แล้วจากนั้นหมอนวดเดาว่าเป็นเด็กจบใหม่หรือกำลังจะจบค่ะ ครั้งแรกเราไปด้วยอาการไหล่ติด ยกแขนไม่ขึ้น
น้องหมอนวดนวดดีมาก หายไปเยอะ แต่พอครั้งสอง กะจะไปซ้ำให้หายสนิท ก็เจออีกคน นวดไม่ได้โดนเลย
ขึ้นอยู่กับดวงเหมือนกันค่ะ เกษมราษฎร์ไม่ได้ไปนานแล้ว น่าจะเป็นสาขาประชาชื่น จำได้ว่าก็โอเคนะคะ
จริงๆ ที่อื่นก็อาจจะมี ถ้าให้ชัวร์คือโทรไปเช็คก่อนค่ะ
3. ร้านนวดแบบไม่มีสาขา
ส่วนใหญ่ที่โอเคสำหรับเราคือนวดและสปา คือส่วนใหญ่จะสะอาดและเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งค่ะ
แต่ข้อเสียคือบางทีไม่ได้อยู่ใกล้ และร้านไม่มีสาขาอีก พอเป็นร้านบางทีต้องเสี่ยงดวงค่ะ เจอหมอนวดดีก็ดีไป
เจอห่วยนี่เราบอกให้หยุดแล้วจ่ายเงินออกจากร้านเลยนะคะ มันเสียอารมณ์ คือเคยเจอนวดแล้วอารมณ์เหมือนเอาครีมมาทาให้
ความสบายไม่มี ความเมื่อยไม่หาย เสียเวลาค่ะ กาหัวไว้เลยว่าจะไม่เข้าอีกแน่นอน ราคาจะอยู่ที่ 800-2500
ร้านที่แนะนำ คือร้านที่อยู่ในศูนย์ราชการตรงฟู้ดคอร์ทค่ะ นวดดีมาก
ใครอยู่แถวบางแวก ราชพฤกษ์แนะนำ 2 ร้าน Zenvana นวดดีมากกกกก
อีกร้านเป็นร้านนวดและสถานที่จัดงานแต่งงาน the wing ค่ะ ใครมานวดที่นี่ อย่างอื่นดีหมด ยกเว้นนวดเท้านะ
4. ร้านนวดที่มีสาขาและมีชื่อเสียง
สำหรับร้านที่มีสาขา สิ่งที่วางใจได้คือความสะอาดและความเป็นระเบียบของห้องนวด บางร้านเราสามารถรีเควสห้องส่วนตัวได้
บางที่ฟรี บางที่เพิ่มเงิน บางที่ต้องเป็นเมมเบอร์ค่ะ แต่ข้อดีคือไม่ต้องฟังเสียงคนอื่น เราสามารถหลับไปได้เลย กรนได้สบาย
ข้อเสียคือบางทีเจอหมอนวดฝีมือไม่เท่ากันก็แอบเฟลไปเหมือนกันค่ะ ร้านที่เราชอบจะเป็นเครือ Let's relax เจอเฟลไม่บ่อย
แต่เจอบ้างค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 800-2500 นวดเสร็จมีข้าวเหนียวมะม่วงให้กินค่ะ เลิฟสุดตรงนี้
สำหรับเชนเดียวกันแต่ราคาลดลงมาหน่อยอย่างบ้านสวนมาสสาจ อันนี้เจอเฟลเยอะ
หมอนวดฝีมือไม่โอเคก็ประปราย แต่ที่รับไม่ได้คือมาชวนคุยแถมเผาร้านให้เราฟังอีก คืออะไรอ่า ข้อดีคือเขามีให้ประเมินหมอนวดค่ะ
ส่วน Healthland เจอหมอนวดมาทวงทิปส์คืออะไร ตอนแรกคือคิดว่าน่าจะเป็นที่ตัวหมอนวด ลองเปลี่ยนสาขาก็เจออีก ลองเปลี่ยนจังหวัดก็เจออีก
บายค่ะ คือถ้านวดดีจริงๆ 500 เราก็ทิปส์ได้ แต่ถ้าไม่ก็ไม่ให้นะ ที่น่าเกลียดคือมาพูดใส่เลย ให้เขาต้อนรับทัวร์ต่อไปค่ะ ไม่เห็นใจนะบอกเลย
สำหรับร้านดังแต่ไม่เชนที่จะแนะนำคือ Punpuri นวดดีมาก บรรยากาศดีมาก สินค้าดีมากค่ะ
5. ร้านนวดบ้านๆ
ราคาหลัก 300-1000 อันนี้แล้วแต่ดวงเลยค่ะ ความสะอาดปานกลาง ความเป็นส่วนตัวน้อย แต่ถ้าหมอนวดฝีมือดีก็รับได้นะ
ส่วนใหญ่ที่เจอครึ่งต่อครึ่ง คือดีครึ่ง ไม่ดีอีกครึ่ง เอาเป็นว่าถ้าเพิ่งเริ่มนวด อย่าเสี่ยงค่ะ ไม่คุ้มนะ
ถ้านวดเบาไม่เป็นไร ถ้านวดหนักคือเข็ดเลย แนะนำร้านในเดอะคริสตัลราชพฤกษ์ชั้น 2 ข้างร้านทำผม จำชื่อร้านไม่ได้
นวดไทยดีมาก อโรม่าก็ดี แต่นวดเท้าไม่ประทับใจเลยค่ะ
--------------------------------------
อะ มีอะไรบ้างที่มือใหม่ต้องรู้
1. นวดหนักนวดเบา บอกหมอนวดได้ค่ะ ให้เน้นตรงไหน ขยี้ตรงไหน บอกได้เช่นกัน
2. ถ้านวดๆ ไป เกิดตะคริว ก็ต้องบอกหมอนวดนะคะ หมอนวดจะแก้ให้ค่ะ
3. ถ้าเจอว่าหมอนวดมือแห้งมือแตก ให้รีบเปลี่ยนหมอนวดค่ะ เราเคยเจอนวดอโรม่า เจ็บและแสบมาก
4. ถ้าเจอหมอนวดไว้เล็บให้เปลี่ยนอีกเช่นกัน เคยเจอเจ็บตัวอีกเช่นกัน
5. ไม่นวดหนัก อย่าเพิ่งลองให้หมอนวดขึ้นค่ะ อย่าหาว่าไม่เตือน
หลักๆ ก็ประมาณนี้
สำหรับหมอนวดที่ผ่านมา สิ่งที่เราอยากฝากไว้
1. เราไปนวดคือเพื่อผ่อนคลาย กรุณาอย่าเม้ามอยค่ะ เราจะเดินออกทันทีและไม่จ่ายเงินนะคะ เพราะถือว่าคุณบกพร่องต่อหน้าที่ ไปเม้ากันเวลาพักค่ะ
2. เวลาบอกว่าเจ็บหรือให้นวดเบาลง ให้ทำตามนั้น ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ผู้หญิงพูดคือความหมายตรงกันข้ามค่ะ ถ้าคุณทำเราเจ็บ แล้วเราตกใจ ขามันดีดไปเองนะ
3. ไม่ต้องบอกว่า ถ้าไม่เจ็บก็จะไม่หายหรือไม่ได้ผลค่ะ เรานวดมา 10 ปี น่าจะเกิน 500 ร้านแล้วทั่วไทย ไม่ใช่คนเพิ่งหัดมานวด คุณโกหกค่ะ
4. รักษามือคุณให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอค่ะ อย่าปล่อยให้มือแห้งและแตก เพราะมันคือเครื่องมือทำมาหากินของคุณค่ะ ลูกค้าจะไม่ประทับใจมาก
5. อ่านบรรยากาศให้เป็น ลูกค้าอยากเม้า อยากหลับหรืออยากผ่อนคลาย ไม่ใช่เอะอะเม้าแตก เราไม่บอกให้หยุดพูดก็ดีเท่าไหร่ละ
สำหรับคนนวดมือเก่า
1. ถ้าคุณรู้ตัวว่าทุก 1 นาทีคุณจะโอดโอย พูดมาก เม้ากับหมอนวดมาก รบกวนเปิดห้องส่วนตัวค่ะ ทำตัวน่ารำคาญมาก
2. ไม่คุยโทรศัพท์เสียงดัง และคุยเฉพาะเท่าที่จำเป็นนะคะ หากนวดในห้องรวม มันรบกวนคนอื่นเขา
น่าจะเท่านี้ที่เราอยากจะแชร์ค่ะ ใครมีอะไรแชร์เพิ่มเติมเม้นต่อได้เลยนะคะ
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ ใครมีอะไรสอบถามเม้นไว้ได้เลยนะคะ
แค่คนที่บ้านวด ผ่านร้านนวดและผ่านมือหมอนวดมาเยอะมากกกกกกก
คู่มือเลือกร้าน "นวด" จากคน บ้าการนวดทุกศาสตร์ นวดไทย นวดอโรม่า นวด ฯลฯ
ออกตัวก่อนว่าเป็นคนขี้เมื่อย ชอบการนวด และเข้าร้านนวดเป็นประจำสม่ำเสมอมากว่า 10 ปีแล้ว
นวดแพงสุดคือครั้งละเกือบสองหมื่น นวดถูกสุด 100 บาท เราอาจจะไม่ใช่กูรูเพราะไม่เคยเรียนนวด
แต่ค่อนข้างรู้ว่าร้านนวดที่ดีเป็นยังไง ลูกค้าต้องการการบริการแบบไหน และหมอนวดสำคัญขนาดไหนต่อร้านนวดนะคะ
เราขอเขียนในมุมมองของเรา ที่เป็นคนชอบนวดปานกลาง ไม่หนักมาก และไม่เชื่อว่าการนวดที่ดีต้องเจ็บต้องระบมค่ะ
ใครไม่ถูกจริตกดปิดไปได้เลยค่ะ ตามความเห็นส่วนตัวเนาะ
ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูก ถ้าอยากนวดอยากผ่อนคลาย แต่ไม่รู้จะเอาลูกไปไว้ไหนดี
เราเอาลูกเข้าร้านนวดตั้งแต่เขาเล็กๆ ค่ะ ให้นวดไปด้วยกันนี่แหละ นางจะได้ไม่กวน
แค่บอกหมอนวดว่านวดเบาลงให้มากๆ ขนาดขัดตัวนวดอโรม่า ก็ทำไปพร้อมกับลูกนี่แหละ ทุกวันนี้ก็เข้ากับลูกชายตลอดๆ
--------------------------------------
หนุ่มๆ สาวๆ ที่เมื่อยจากการทำงาน จากออฟฟิศซินโดรม หรือเวลามีกิจกรรมใช้งานร่างกายหนัก คงมีสักครั้งที่คิดที่จะลอง "นวด" กันดูบ้าง
แต่มือใหม่ใสปิ๊งอย่างเรา จะเลือกนวดอะไรดีละ แล้วนวดแต่ละอย่างมันช่วยอะไรยังไงบ้าง วันนี้คนบ้านวด จะมาแชร์วิธีการเลือกร้านนวดให้ฟังค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สำหรับเรา การนวดที่ดี คือขณะนวดจะสบาย เพราะนวดโดนจุดเมื่อย หลังนวดจะหายเมื่อยไปเลย
การนวดที่ไม่ดีสำหรับเรา คือขณะนวด เป็นการนวดที่หายใจไม่ทั่วท้อง นวดหนัก นวดเจ็บ หลังนวดจะช้ำ จะเจ็บไปอีกหลายวัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน บางคนชอบหนักก็แล้วแต่เลยค่ะ
--------------------------------------
การนวดมีอะไร
1. นวดเท้า ตรงตัวเลย คือนวดเท้าค่ะ บางร้านจะนวดขึ้นมาถึงบริเวณต้นขาด้วย บางร้านจะนวดถึงแค่ช่วงน่อง
บางร้านต้องนั่งเก้าอี้นวดเท่านั้น แต่บางร้านสามารถนอนนวดได้ เหมือนนวดไทย แต่หมอนวดจะนวดให้เฉพาะเท้ากับขาค่ะ
บางร้านไม่มีครีมหรือน้ำมันเลย บางร้านมีไม้ไว้กด เราบอกเลยว่าเราไม่ชอบ อาจจะมีคนชอบก็ไม่ว่ากัน
บางร้านจะถามก่อนว่าลงครีมหรือน้ำมันได้ไหม สำหรับเราคือได้หมดค่ะ บางร้านพอนวดเสร็จ เขาจะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดให้ด้วย
2. นวดไทย หากมือใหม่เราไม่อยากให้เริ่มด้วยการนวดไทยนะคะ เพราะถ้าเจอร้านที่หมดนวดมือหนัก คุณจะเข็ดการนวดไปเลย
นวดไทยเท่าที่เคยนวดมา ถ้าเป็นร้านราคาย่อมเยาจะนวดหนักหน่อย คือลงศอก ซึ่งเราไม่โอเคเราว่ามันเจ็บและช้ำค่ะ
หมอบางคนนวดจะใช้เท้านวดหรือขึ้นไปนวดบนตัว ใครมือใหม่บอกเขาเลยว่าไม่เอาศอก ไม่ต้องใช้เท้า เพราะเจ็บระบมเหมือนกัน
ถ้าจะเอาให้หายเมื่อยต้อง 2 ชั่วโมงค่ะ ชั่วโมงเดียวอารมณ์แบบรีบ แต่ขอนวดหน่อย
นวดไทยที่เราเคยเจอแล้วประทับใจมีอยู่ 2 แนว คือการนวดคลึงโดยใช้มือบวกกับรีดเส้นเป็นบางจุด นวดเสร็จสบายมาก
กับการนวดที่เน้นการยืดและเหยียดของกล้ามเนื้อ คล้ายการ Stretching หลังเล่นเวทหรือคาดิโอ
การนวดไทยจะมีทั้งแบบประคบและไม่ประคบ การประคบคือ เอาสมุนไพรไทยมาทำเป็นลูกประคบค่ะ
ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีอุ่นให้ร้อน แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีปัญหา เช่น การเป็นรองช้ำ สามารถใช้ลูกประคบมาประคบบริเวณส้นเท้าได้
สำหรับเราค่อนข้างได้ผลดีค่ะ เคยไปนวดที่โรงพยาบาลศิริราชปิยะฯ เขาแนะนำให้ประคบร้อนตอนเป็นรองช้ำ หรือแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นจัดบ่อยๆ ก็ช่วยได้
เป็นอีกศาสตร์ของแพทย์แผนไทยที่เราชอบมากๆ
3. นวดอโรม่า หรือการนวดผ่อนคลายโดยใช้น้ำมันหอมระเหย นวดแบบนี้โป๊หน่อยนะคะ เพราะบางที่เขาให้ถอดหมดเลย
ส่วนใหญ่เราจะเลือกสครับก่อนแล้วตามด้วยอโรม่า สำหรับเราถือเป็นการขัดผิวขัดขี้ไคลแล้วบำรุงผิวไปในตัว
เวลาเลือกนวดแบบนี้ เราจะเตรียมชุดนอนไปเลย เพราะส่วนใหญ่พอสครับเสร็จก็อาบน้ำสระผม นวดอโรม่าต่อ ก็เปลี่ยนชุดนอนกลับบ้านนอนได้เลย
สำหรับเรา นวดอโรม่าเสร็จจะไม่ล้างค่ะ ร้านประจำเขาใช้น้ำมันมะพร้าว บางคนไม่ชอบกลิ่น จริงๆ เราก็ไม่ชอบนะ แต่คุณสัมบัติบำรุงผิวดีมาก
ตอนเช้าตื่นมาผิวนิ่มมากๆ เลย
4. นวดน้ำมันหรือนวดรีดเส้น ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นการนวดแบบเดียวกัน ซึ่งการนวดแบบนี้เราไม่ได้นวดบ่อยค่ะ มันเจ็บ สำหรับเราอะนะ
หรืออาจจะเจอนวดหนักในครั้งแรก เราเลยไม่ได้ลองอีกเลยก็ได้ วิธีนวดคือเขาจะรีดเส้นทีละเส้น ซึ่งใช้น้ำมันทำให้สโตรคการนวดลื่นไหลขึ้น
แต่ที่เราเจอคือรีดทีนึงกดเจ็บมาก คือขาได้หลังได้ แต่พอนวดไหล่และบริเวณคอ เราไม่ไหวจริงๆ เจ็บมากกกกกกกก
5. นวดสวีดิชหรือสปอร์ต บางร้านบอกไม่เหมือนกัน แต่เราลองแล้วรู้สึกคล้ายกันมาก ขอจับรวมนะคะ
จะคล้ายกับอโรม่าค่ะ แต่หนักกว่า ส่วนใหญ่เราเลือกแบบนี้หลังจากวันที่ออกกำลังกายหนักๆ
มันช่วยให้หายปวดกล้ามเนื้อไปได้เยอะอยู่เหมือนกัน
6. นวดหัว หรือนวดศีรษะ หลังๆ เราจะเลือกนวดหัวเวลาไปที่โรงแรมเท่านั้น เพราะเราเคยมีประสบการณ์ปวดหัวไมเกรนอย่างหนัก
หลังจากไปนวดหัวมา จนนอนไม่ได้ทั้งคืน ต้องลุกขึ้นมาอาเจียนแทบทุกชั่วโมง และต้องเข้าไปพบแพทย์ในตอนเช้า
เพราะการนวดที่รุนแรงเกินไปค่ะ ดังนั้นใครจะลองนวดศีรษะ บอกหมอนวดเลยว่าให้เริ่มด้วยแรงที่น้อยๆ ก่อนดีที่สุดนะคะ
7. นวดคอบ่าไหล่ ตรงตัวเลย คือนวดบริเวณคอบ่าไหล่ ซึ่งถ้าไม่เน้นมาก เวลานวดเท้าหมอนวดจะปิดจบด้วยคอบ่าไหล่ค่ะ
อันนี้มีแบบที่นั่งเฉยๆ ก็นวดได้ หรือมีแบบเก้าอี้เฉพาะสำหรับนวดเลย เราชอบแบบเก้าอี้เฉพาะมากกว่า เราว่ามันโดนจุดมากกว่า
หลักๆ ก็ประมาณนี้ ตามร้านทั่วไป การนวดเฉพาะบางที่มันก็จะมี นวดด้วยหินร้อนและเย็น นวดด้วยอัญมณี นวดบนหินหยก นวดโกยมดลูก ฯลฯ
--------------------------------------
นวดที่ไหนดี
1. โรงแรม 4 - 5 ดาว
สำหรับคนที่มีงบประมาณนึง และอยากลองนวดครั้งแรก โดยไม่ให้เกิดอาการเฟล หรือเข็ดจนไม่กล้านวดครั้งที่สองอีก
เราจะแนะนำให้ไปนวดในโรงแรม 4 - 5 ดาวค่ะ การนวดในโรงแรมข้อดีเลยคือ ความสะอาดและความเป็นส่วนตัว
พนักงานมีมารยาทและบริการที่ดี การนวดมีมาตรฐาน การนวดที่แนะนำ คือ นวดเท้า นวดไทย และนวดอโรม่า
บางโรงแรมจะมีสปาอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย ราคากลางๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 ขึ้นอยู่กับการนวดและเวลาที่ใช้
โรงแรมที่เราประทับใจคือ แลนมาร์ค โนโวเทล และฮิลตันค่ะ ถ้ามีโอกาสและมีเงินก็จะแวะไป
2. โรงพยาบาล
อย่างศิริราชปิยะมหาการุณ หรือเกษมราษฏร์ จะมีนวดค่ะ แต่ต้องนัดก่อน
ของศิริราชเป็นแก้อาการ จะผ่านการประเมินจากหมอก่อน น่าจะเป็นแผนกอายุรเวชถ้าจำไม่ผิดนะคะ
แล้วจากนั้นหมอนวดเดาว่าเป็นเด็กจบใหม่หรือกำลังจะจบค่ะ ครั้งแรกเราไปด้วยอาการไหล่ติด ยกแขนไม่ขึ้น
น้องหมอนวดนวดดีมาก หายไปเยอะ แต่พอครั้งสอง กะจะไปซ้ำให้หายสนิท ก็เจออีกคน นวดไม่ได้โดนเลย
ขึ้นอยู่กับดวงเหมือนกันค่ะ เกษมราษฎร์ไม่ได้ไปนานแล้ว น่าจะเป็นสาขาประชาชื่น จำได้ว่าก็โอเคนะคะ
จริงๆ ที่อื่นก็อาจจะมี ถ้าให้ชัวร์คือโทรไปเช็คก่อนค่ะ
3. ร้านนวดแบบไม่มีสาขา
ส่วนใหญ่ที่โอเคสำหรับเราคือนวดและสปา คือส่วนใหญ่จะสะอาดและเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งค่ะ
แต่ข้อเสียคือบางทีไม่ได้อยู่ใกล้ และร้านไม่มีสาขาอีก พอเป็นร้านบางทีต้องเสี่ยงดวงค่ะ เจอหมอนวดดีก็ดีไป
เจอห่วยนี่เราบอกให้หยุดแล้วจ่ายเงินออกจากร้านเลยนะคะ มันเสียอารมณ์ คือเคยเจอนวดแล้วอารมณ์เหมือนเอาครีมมาทาให้
ความสบายไม่มี ความเมื่อยไม่หาย เสียเวลาค่ะ กาหัวไว้เลยว่าจะไม่เข้าอีกแน่นอน ราคาจะอยู่ที่ 800-2500
ร้านที่แนะนำ คือร้านที่อยู่ในศูนย์ราชการตรงฟู้ดคอร์ทค่ะ นวดดีมาก
ใครอยู่แถวบางแวก ราชพฤกษ์แนะนำ 2 ร้าน Zenvana นวดดีมากกกกก
อีกร้านเป็นร้านนวดและสถานที่จัดงานแต่งงาน the wing ค่ะ ใครมานวดที่นี่ อย่างอื่นดีหมด ยกเว้นนวดเท้านะ
4. ร้านนวดที่มีสาขาและมีชื่อเสียง
สำหรับร้านที่มีสาขา สิ่งที่วางใจได้คือความสะอาดและความเป็นระเบียบของห้องนวด บางร้านเราสามารถรีเควสห้องส่วนตัวได้
บางที่ฟรี บางที่เพิ่มเงิน บางที่ต้องเป็นเมมเบอร์ค่ะ แต่ข้อดีคือไม่ต้องฟังเสียงคนอื่น เราสามารถหลับไปได้เลย กรนได้สบาย
ข้อเสียคือบางทีเจอหมอนวดฝีมือไม่เท่ากันก็แอบเฟลไปเหมือนกันค่ะ ร้านที่เราชอบจะเป็นเครือ Let's relax เจอเฟลไม่บ่อย
แต่เจอบ้างค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 800-2500 นวดเสร็จมีข้าวเหนียวมะม่วงให้กินค่ะ เลิฟสุดตรงนี้
สำหรับเชนเดียวกันแต่ราคาลดลงมาหน่อยอย่างบ้านสวนมาสสาจ อันนี้เจอเฟลเยอะ
หมอนวดฝีมือไม่โอเคก็ประปราย แต่ที่รับไม่ได้คือมาชวนคุยแถมเผาร้านให้เราฟังอีก คืออะไรอ่า ข้อดีคือเขามีให้ประเมินหมอนวดค่ะ
ส่วน Healthland เจอหมอนวดมาทวงทิปส์คืออะไร ตอนแรกคือคิดว่าน่าจะเป็นที่ตัวหมอนวด ลองเปลี่ยนสาขาก็เจออีก ลองเปลี่ยนจังหวัดก็เจออีก
บายค่ะ คือถ้านวดดีจริงๆ 500 เราก็ทิปส์ได้ แต่ถ้าไม่ก็ไม่ให้นะ ที่น่าเกลียดคือมาพูดใส่เลย ให้เขาต้อนรับทัวร์ต่อไปค่ะ ไม่เห็นใจนะบอกเลย
สำหรับร้านดังแต่ไม่เชนที่จะแนะนำคือ Punpuri นวดดีมาก บรรยากาศดีมาก สินค้าดีมากค่ะ
5. ร้านนวดบ้านๆ
ราคาหลัก 300-1000 อันนี้แล้วแต่ดวงเลยค่ะ ความสะอาดปานกลาง ความเป็นส่วนตัวน้อย แต่ถ้าหมอนวดฝีมือดีก็รับได้นะ
ส่วนใหญ่ที่เจอครึ่งต่อครึ่ง คือดีครึ่ง ไม่ดีอีกครึ่ง เอาเป็นว่าถ้าเพิ่งเริ่มนวด อย่าเสี่ยงค่ะ ไม่คุ้มนะ
ถ้านวดเบาไม่เป็นไร ถ้านวดหนักคือเข็ดเลย แนะนำร้านในเดอะคริสตัลราชพฤกษ์ชั้น 2 ข้างร้านทำผม จำชื่อร้านไม่ได้
นวดไทยดีมาก อโรม่าก็ดี แต่นวดเท้าไม่ประทับใจเลยค่ะ
--------------------------------------
อะ มีอะไรบ้างที่มือใหม่ต้องรู้
1. นวดหนักนวดเบา บอกหมอนวดได้ค่ะ ให้เน้นตรงไหน ขยี้ตรงไหน บอกได้เช่นกัน
2. ถ้านวดๆ ไป เกิดตะคริว ก็ต้องบอกหมอนวดนะคะ หมอนวดจะแก้ให้ค่ะ
3. ถ้าเจอว่าหมอนวดมือแห้งมือแตก ให้รีบเปลี่ยนหมอนวดค่ะ เราเคยเจอนวดอโรม่า เจ็บและแสบมาก
4. ถ้าเจอหมอนวดไว้เล็บให้เปลี่ยนอีกเช่นกัน เคยเจอเจ็บตัวอีกเช่นกัน
5. ไม่นวดหนัก อย่าเพิ่งลองให้หมอนวดขึ้นค่ะ อย่าหาว่าไม่เตือน
หลักๆ ก็ประมาณนี้
สำหรับหมอนวดที่ผ่านมา สิ่งที่เราอยากฝากไว้
1. เราไปนวดคือเพื่อผ่อนคลาย กรุณาอย่าเม้ามอยค่ะ เราจะเดินออกทันทีและไม่จ่ายเงินนะคะ เพราะถือว่าคุณบกพร่องต่อหน้าที่ ไปเม้ากันเวลาพักค่ะ
2. เวลาบอกว่าเจ็บหรือให้นวดเบาลง ให้ทำตามนั้น ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ผู้หญิงพูดคือความหมายตรงกันข้ามค่ะ ถ้าคุณทำเราเจ็บ แล้วเราตกใจ ขามันดีดไปเองนะ
3. ไม่ต้องบอกว่า ถ้าไม่เจ็บก็จะไม่หายหรือไม่ได้ผลค่ะ เรานวดมา 10 ปี น่าจะเกิน 500 ร้านแล้วทั่วไทย ไม่ใช่คนเพิ่งหัดมานวด คุณโกหกค่ะ
4. รักษามือคุณให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอค่ะ อย่าปล่อยให้มือแห้งและแตก เพราะมันคือเครื่องมือทำมาหากินของคุณค่ะ ลูกค้าจะไม่ประทับใจมาก
5. อ่านบรรยากาศให้เป็น ลูกค้าอยากเม้า อยากหลับหรืออยากผ่อนคลาย ไม่ใช่เอะอะเม้าแตก เราไม่บอกให้หยุดพูดก็ดีเท่าไหร่ละ
สำหรับคนนวดมือเก่า
1. ถ้าคุณรู้ตัวว่าทุก 1 นาทีคุณจะโอดโอย พูดมาก เม้ากับหมอนวดมาก รบกวนเปิดห้องส่วนตัวค่ะ ทำตัวน่ารำคาญมาก
2. ไม่คุยโทรศัพท์เสียงดัง และคุยเฉพาะเท่าที่จำเป็นนะคะ หากนวดในห้องรวม มันรบกวนคนอื่นเขา
น่าจะเท่านี้ที่เราอยากจะแชร์ค่ะ ใครมีอะไรแชร์เพิ่มเติมเม้นต่อได้เลยนะคะ
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ ใครมีอะไรสอบถามเม้นไว้ได้เลยนะคะ
แค่คนที่บ้านวด ผ่านร้านนวดและผ่านมือหมอนวดมาเยอะมากกกกกกก