พอดีเมื่อคืน 3 ทุมโดยประมาณ ณ ซอยอารีที่ยังมีคนเดินเรื่อยๆแม้จะเป็นค่ำหลังฝนเท ร้านรวงเก็บไปมากแล้วก็ตาม ในขณะที่กำลังเดินๆหาของกินไปเรื่อยๆกำลังจะเข้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งก็ยังไม่มีไอเดียว่าจะซื้ออะไร จริงๆผมเดินฆ่าเวลารอวินมอเตอร์ไซค์ครับจึงเดินมองอะไรไปเรื่อย
มีสาวนางหนึ่งเดินเข้าร้านสะดวกซื้อก่อนผม แบบตามกันมา 10 ม. จากด้านหลัง หนีบผมแบบหางไก่ ถือกระเป๋าผ้าใส่ของใบเล็ก กางเกงเล รองเท้าแตะ เสื้อยืดสบายๆแขนนาว
ซึ่งก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรครับ
จนเข้าไป ผมก็เดินวนๆว่า เอาอะไรดีว้าาา ไปสะดุดตาที่นมครับ ไม่ใช่นมบนชั้นวางนะครับ คือ สตรีนางนั้น ใส่เสื้อยืดติดกระดุมคลุมเสื้อกล้าม แต่ไม่กลัดกระดุม คงลงมาจากคอนโด จึงคลุมลงมา แต่เธอยืนอ่านฉลากของอยู่ที่ตู้แช่อาหารสำเร็จรูก ด้วยแสงสว่าง และความจดจ่อ ที่ทำให้เสื้อที่คลุมเปิดกว้างออกเห็นเสื้อกล้ามสีเทาตัวใน สีเทาคือสีที่เห็นแสงเงา ไฮไลท์ง่ายที่สุดครับ สายตาจึงถูกดึงไปที่จึดสนใจ ใกล้หัวใจของเธอ บนยอดอกข้างซ้าย
"อกข้างขวาไม่เป็นไร แต่อกซ้ายมันสะเทือน" เพลงเก่าของวงดนตรีร็อคที่น้องเค้าคงอยู่อนุบาลตอนออกมา จึงไม่รู้ว่า การมายืนแอ่นอกหยิบของรับแสงให้เด่นตรงนี้ ช่างกระชากสายตาคนยิ่งนัก
ผมละจากมากับความคิดในใจว่า ..."เธอช่างมั่น" แต่ก็นั่นล่ะครับ ความหิวยามสามทุ่ม คงพาเธอลงมา จนไม่ได้แต่งตัวให้เรียบร้อย และไม่คิดว่าใครจะมองมากเพราะมืดค่ำแล้ว การเกินมา 200 ม. ในซอยพลุกพล่านคงไม่มีอันตราย
ในขณะที่ผมนั่งเลือกน้ำอัดลมขวดใหญ่ในตู้แช่ ว่าจะเอาสีอะไรอยู่อย่างใจเย็น
"ขอโทษนะคะ" เธอนั่นเอง มายืนข้างหลังผมทำท่าจะก้มลงมาหยิบน้ำเช่นกัน ผมรีบขอโทษเธอแล้วกระเถิบถอยออกมาให้เธอหยิบได้สะดวกแต่ยังนั่งอยู่ ทีนี้ความชะแว๊บก็บังเกิดครับ เมื่อเธอก้มลงมา มือข้างนึงจับกระเป๋าผ้า อีกข้างเอาผมทัดหูไว้ แล้วเอื้อมลงมาหยิบน้ำที่ต้องการไป ในเวลา 2 วินาทีนั้นเอง ที่ผมสตั๊นไป เพราะตกใจว่า ทำไมในตู้นี้มีนมอยู่ด้วย แถมเป็นแพ็คคูขวดใหญ่อีกต่างหาก
ปิ๊ง!
สายตาหันมาชนกับตาผม เมื่อนั้นเองที่เธอรีบเอามืออีกจ้างที่ทัดผมลงมาปิดอกไว้อย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่เปล่งออกมาจากเธอก่อนที่จะสะบัดตัวผลุ่บไปที่แคชเชียร์ทันที เรียกว่าถ้าผมเธอเปียก รับรองว่าสะบัดน้ำใส่ผมจนชุ่มได้เลย
กำลังเสียดาย เอ้ยย งงๆว่า นี่ข้าน้อยทำอะไรผิดลงไปมั้ยหว่า แล้วก็คว้าขวดน้ำไปจ่ายเงิน ขณะจ่ายเงินเธอก็เล่นโทรศัพท์รออาหารในไมโครเวฟ พอผมจ่ายเสร็จเธอก็ได้อาหารมาจ่ายต่อทันที ผมโกยของและเงินทอนไปจัดระเบียบชีวิต เรียงแบ็งค์ในกระเป๋าให้เรียบร้อยตามนิสัยผู้ชายลำใย ก็พอดีเสร็จเดินผละจากตู้ไอศรีมที่ใช้วางของมาที่ประตูเลื่อน พร้อมกันกับเธออีก มา จ๊ะกันพอดี ผมจึงยกมือให้เธอออกไปก่อน พร้อมๆกันนั้น เธอก็คว้าถุงผ้ามากอด รีบปิดเสื้อคลุมแล้วพุ่งออกไป
ผมเดินออกมาเดินไปทางเดียวกับเธอ ซึ่งผมเป็นคนเดินเร็วครับ เพียงช่วง 5-6 ก้าวก็จะไล่ทันแล้ว แต่ฉากสุดท้ายที่พีคคือ...เธอหันมาอย่างตกใจ แล้วกอดของแน่น เดินจ้ำลีลานักกีฬาเดินทนชิงเหรียญทองโตเกียว 2020 ไปอย่างรวดเร็ว ผมนี่หยุดเดินยืนนิ่งๆ ก่อนที่กล้องจะซูมออกไกลให้เห็นคนเดินผ่านไป ผ่านมา และเสียงรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวร้องเรียกขานออร์เกดอร์ลูกค้าอื้ออึง
จึงสงสัยว่า...ถ้าชีวิตจะตกใจปานนี้ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่เข้าใจชะนีครับ
ปล. รูปพรรณผมคือ ชายไทยผิวเข้มวัย 40 ปีที่มีหัว หนวดเคราแบบน้าหงา คาราวาน ใส่แว่นกรอบหนาขาแว่นขาว สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ผ้ายืดดำแบบรัดข้อเท้า สะพายเป้สองข้าง ห้อยหูฟังบลูทูธโซนี่ที่คอ ใส่นาฬิกาวิ่ง Suunto หรือผมดูน่ากลัว??
เพิ่งเห็นกระทู้โนบรา พอค่ำก็เจอกับตา
มีสาวนางหนึ่งเดินเข้าร้านสะดวกซื้อก่อนผม แบบตามกันมา 10 ม. จากด้านหลัง หนีบผมแบบหางไก่ ถือกระเป๋าผ้าใส่ของใบเล็ก กางเกงเล รองเท้าแตะ เสื้อยืดสบายๆแขนนาว
ซึ่งก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรครับ
จนเข้าไป ผมก็เดินวนๆว่า เอาอะไรดีว้าาา ไปสะดุดตาที่นมครับ ไม่ใช่นมบนชั้นวางนะครับ คือ สตรีนางนั้น ใส่เสื้อยืดติดกระดุมคลุมเสื้อกล้าม แต่ไม่กลัดกระดุม คงลงมาจากคอนโด จึงคลุมลงมา แต่เธอยืนอ่านฉลากของอยู่ที่ตู้แช่อาหารสำเร็จรูก ด้วยแสงสว่าง และความจดจ่อ ที่ทำให้เสื้อที่คลุมเปิดกว้างออกเห็นเสื้อกล้ามสีเทาตัวใน สีเทาคือสีที่เห็นแสงเงา ไฮไลท์ง่ายที่สุดครับ สายตาจึงถูกดึงไปที่จึดสนใจ ใกล้หัวใจของเธอ บนยอดอกข้างซ้าย
"อกข้างขวาไม่เป็นไร แต่อกซ้ายมันสะเทือน" เพลงเก่าของวงดนตรีร็อคที่น้องเค้าคงอยู่อนุบาลตอนออกมา จึงไม่รู้ว่า การมายืนแอ่นอกหยิบของรับแสงให้เด่นตรงนี้ ช่างกระชากสายตาคนยิ่งนัก
ผมละจากมากับความคิดในใจว่า ..."เธอช่างมั่น" แต่ก็นั่นล่ะครับ ความหิวยามสามทุ่ม คงพาเธอลงมา จนไม่ได้แต่งตัวให้เรียบร้อย และไม่คิดว่าใครจะมองมากเพราะมืดค่ำแล้ว การเกินมา 200 ม. ในซอยพลุกพล่านคงไม่มีอันตราย
ในขณะที่ผมนั่งเลือกน้ำอัดลมขวดใหญ่ในตู้แช่ ว่าจะเอาสีอะไรอยู่อย่างใจเย็น
"ขอโทษนะคะ" เธอนั่นเอง มายืนข้างหลังผมทำท่าจะก้มลงมาหยิบน้ำเช่นกัน ผมรีบขอโทษเธอแล้วกระเถิบถอยออกมาให้เธอหยิบได้สะดวกแต่ยังนั่งอยู่ ทีนี้ความชะแว๊บก็บังเกิดครับ เมื่อเธอก้มลงมา มือข้างนึงจับกระเป๋าผ้า อีกข้างเอาผมทัดหูไว้ แล้วเอื้อมลงมาหยิบน้ำที่ต้องการไป ในเวลา 2 วินาทีนั้นเอง ที่ผมสตั๊นไป เพราะตกใจว่า ทำไมในตู้นี้มีนมอยู่ด้วย แถมเป็นแพ็คคูขวดใหญ่อีกต่างหาก
ปิ๊ง!
สายตาหันมาชนกับตาผม เมื่อนั้นเองที่เธอรีบเอามืออีกจ้างที่ทัดผมลงมาปิดอกไว้อย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่เปล่งออกมาจากเธอก่อนที่จะสะบัดตัวผลุ่บไปที่แคชเชียร์ทันที เรียกว่าถ้าผมเธอเปียก รับรองว่าสะบัดน้ำใส่ผมจนชุ่มได้เลย
กำลังเสียดาย เอ้ยย งงๆว่า นี่ข้าน้อยทำอะไรผิดลงไปมั้ยหว่า แล้วก็คว้าขวดน้ำไปจ่ายเงิน ขณะจ่ายเงินเธอก็เล่นโทรศัพท์รออาหารในไมโครเวฟ พอผมจ่ายเสร็จเธอก็ได้อาหารมาจ่ายต่อทันที ผมโกยของและเงินทอนไปจัดระเบียบชีวิต เรียงแบ็งค์ในกระเป๋าให้เรียบร้อยตามนิสัยผู้ชายลำใย ก็พอดีเสร็จเดินผละจากตู้ไอศรีมที่ใช้วางของมาที่ประตูเลื่อน พร้อมกันกับเธออีก มา จ๊ะกันพอดี ผมจึงยกมือให้เธอออกไปก่อน พร้อมๆกันนั้น เธอก็คว้าถุงผ้ามากอด รีบปิดเสื้อคลุมแล้วพุ่งออกไป
ผมเดินออกมาเดินไปทางเดียวกับเธอ ซึ่งผมเป็นคนเดินเร็วครับ เพียงช่วง 5-6 ก้าวก็จะไล่ทันแล้ว แต่ฉากสุดท้ายที่พีคคือ...เธอหันมาอย่างตกใจ แล้วกอดของแน่น เดินจ้ำลีลานักกีฬาเดินทนชิงเหรียญทองโตเกียว 2020 ไปอย่างรวดเร็ว ผมนี่หยุดเดินยืนนิ่งๆ ก่อนที่กล้องจะซูมออกไกลให้เห็นคนเดินผ่านไป ผ่านมา และเสียงรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวร้องเรียกขานออร์เกดอร์ลูกค้าอื้ออึง
จึงสงสัยว่า...ถ้าชีวิตจะตกใจปานนี้ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่เข้าใจชะนีครับ
ปล. รูปพรรณผมคือ ชายไทยผิวเข้มวัย 40 ปีที่มีหัว หนวดเคราแบบน้าหงา คาราวาน ใส่แว่นกรอบหนาขาแว่นขาว สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ผ้ายืดดำแบบรัดข้อเท้า สะพายเป้สองข้าง ห้อยหูฟังบลูทูธโซนี่ที่คอ ใส่นาฬิกาวิ่ง Suunto หรือผมดูน่ากลัว??