ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวเรามันวุ่นวายจนเราต้องคอยมาตั้งคำถามเหล่านี้บ่อยๆค่ะ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเราไปรับน้าสาวแถวหนองแขมเพื่อมานอนที่บ้านเนื่องจากน้าสาวโดนน้าเขยตบตีจนฟกช้ำมากมายตามตัว บ้านเราอยู่ไกลจากบ้านน้าคนละฝั่งกรุงเทพเลยค่ะ พอน้าสาวมานอนที่บ้านแม่เรา ซึ่งก่อนหน้านี้แม่เคยอยู่ต่างจังหวัดแต่เนื่องด้วยเกษียณจึงมีแผนจะมาขายของและอาศัยอยู่กับเรา เราแต่งงานใหม่มีลูกติด 1 คน แฟนเรารักลูกเราใช้ชีวิตกันตามปกติ แฟนเราเองมีเป้าหมายว่าจะลงทุนให้แม่เราขายของเล็กๆน้อยๆจะได้ไม่เบื่อ สาเหตุหลักๆคือแม่อยากมาอยู่เป็นเพื่อนน้องชายเราที่กำลังเรียน ม.6 อยู่
เรื่องเกิดขึ้นเพียงเพราะว่าเราทะเลาะกับน้องเรื่องทีน้องเล่นเกมส์มากเกินไป อยากให้วางมือถือลงและช่วยทำงานบ้านบ้าง พอเราเริ่มบ่นแม่เริ่มเข้าข้างน้อง ด่าว่าเราว่าเราเอาแต่บ่นน้อง น้องหนีขึ้นไปบนห้องนอนเล่นเกมส์ต่อ เราปรี๊ดแตกเพราะน้องที่เคยอยู่ด้วยกันมา 5-6 ปีไม่เคยเป็นพฤติกรรมแบบนี้ ประกอบกับน้องชายชอบกินของไม่เคยเหลือเผื่อคนอื่น กินขนมที่ซื้อมาก็กินจนหมด เราก็สอนน้องไปเป็นรอบที่ร้อย แต่แม่กลับมองว่าเราหวงของกิน
พอเกิดปัญหาขึ้น แม่เราเองด่าเรา และบกอเราว่า "ต่อไปนี้ไม่ต้องมาวุ่นวายเรา (แม่) กับน้องหรอก จะหากินข้าวกันเอง ต่างคนต่างอยู่ และไม่ต้องมาไว้วานอะไรน้องมันอีก" เราถึงกับอึ้งเลยค่ะ เพราะนี่บ้านเรา แต่แม่มาพูดแบบนี้
จนในที่สุดเราเครียดมากเลยโทรปรึกษาน้าสาว (ที่กลับไปคืนดีกับน้าเขยในวันเดียวกันนั้น) น้าเล่าให้ฟังว่า " แม่แกน่ะ นินทาแกเสียๆหายๆให้น้าฟังทั้งคืน ด่าแกว่าแกติดผู้ชาย แม่แกกลัวว่าผัวใหม่แกจะมาหลอกเอาบ้าน เอารถ ผู้ชายมันคางคกขึ้นวอ แม่แกด่าแกให้ฟังว่าแกน่ะสมัยก่อนวิ่งตามแต่ผู้ชาย จนมันมาทำงานได้ดิบได้ดีเงินเดือนเกือบแสนแต่ก้อเลิกกะผัวเก่าเพราะติดผู้ชายคนนี้ (จริงๆคือสามีเก่าเราติดหญิงค่ะ ขี้งกกับลูกกับเมียจนเราทนไม่ไหว) และน้ายังบอกอีกว่า แม่แกน่ะ เกลียดแกมาก ถึงขั้นไม่ยอมให้น้าคุยกะแฟนแกเลยนะ หาว่าพวกแกคุยเก่ง พูดเก่งเดี๋ยวหลงคารมมัน
ตอนแรกเราไม่เชื่อน้าค่ะ เราเลยไปสามัคคีกับน้องชาย เรียกน้องชายมาคุย น้องชายเลยบอกว่า แม่พูดจริง แม่ด่าเราเสียๆหายๆจนหมดไส้หมดพุง เกลียดเราว่าเราเห็นแก่ลูกแก่ผัวมากกว่าน้องชายตัวเอง
เราเลยเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง พ่อเราได้แต่เสียใจ ไม่คิดว่าแม่มาอาศัยอยู่ที่บ้านเรา มาสร้างปัญหาให้ขนาดนี้ พอเราไปถามแม่เราตรงๆ แม่เรากลับบอกว่า "อีเxี้ยน้องสาว....ู ปากพร่อยปากหมา พูดจาเรื่อยเปื่อย" จนน้องเราถึงกับออกปากพูดออกมาว่า "แม่พูดเอง แม่ต้องยอมรับความจริง"
ทุกวันนี้ครอบครัวเรา เราเป็นเสาหลักค่ะ เพราะพ่อและแม่ไม่ได้ทำงานแล้ว น้องชายเลยต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูน้องมาได้ 5-6 ปีแล้ว แต่ไม่คิดว่า แม่จะรักลูกไม่เท่ากัน มองเราอคติขนาดนี้ เราควรคุยกับแม่ยังไงดีคะ
เมื่อแม่ ทำกับเราเหมือนไม่ใช่ลูกในไส้
เรื่องเกิดขึ้นเพียงเพราะว่าเราทะเลาะกับน้องเรื่องทีน้องเล่นเกมส์มากเกินไป อยากให้วางมือถือลงและช่วยทำงานบ้านบ้าง พอเราเริ่มบ่นแม่เริ่มเข้าข้างน้อง ด่าว่าเราว่าเราเอาแต่บ่นน้อง น้องหนีขึ้นไปบนห้องนอนเล่นเกมส์ต่อ เราปรี๊ดแตกเพราะน้องที่เคยอยู่ด้วยกันมา 5-6 ปีไม่เคยเป็นพฤติกรรมแบบนี้ ประกอบกับน้องชายชอบกินของไม่เคยเหลือเผื่อคนอื่น กินขนมที่ซื้อมาก็กินจนหมด เราก็สอนน้องไปเป็นรอบที่ร้อย แต่แม่กลับมองว่าเราหวงของกิน
พอเกิดปัญหาขึ้น แม่เราเองด่าเรา และบกอเราว่า "ต่อไปนี้ไม่ต้องมาวุ่นวายเรา (แม่) กับน้องหรอก จะหากินข้าวกันเอง ต่างคนต่างอยู่ และไม่ต้องมาไว้วานอะไรน้องมันอีก" เราถึงกับอึ้งเลยค่ะ เพราะนี่บ้านเรา แต่แม่มาพูดแบบนี้
จนในที่สุดเราเครียดมากเลยโทรปรึกษาน้าสาว (ที่กลับไปคืนดีกับน้าเขยในวันเดียวกันนั้น) น้าเล่าให้ฟังว่า " แม่แกน่ะ นินทาแกเสียๆหายๆให้น้าฟังทั้งคืน ด่าแกว่าแกติดผู้ชาย แม่แกกลัวว่าผัวใหม่แกจะมาหลอกเอาบ้าน เอารถ ผู้ชายมันคางคกขึ้นวอ แม่แกด่าแกให้ฟังว่าแกน่ะสมัยก่อนวิ่งตามแต่ผู้ชาย จนมันมาทำงานได้ดิบได้ดีเงินเดือนเกือบแสนแต่ก้อเลิกกะผัวเก่าเพราะติดผู้ชายคนนี้ (จริงๆคือสามีเก่าเราติดหญิงค่ะ ขี้งกกับลูกกับเมียจนเราทนไม่ไหว) และน้ายังบอกอีกว่า แม่แกน่ะ เกลียดแกมาก ถึงขั้นไม่ยอมให้น้าคุยกะแฟนแกเลยนะ หาว่าพวกแกคุยเก่ง พูดเก่งเดี๋ยวหลงคารมมัน
ตอนแรกเราไม่เชื่อน้าค่ะ เราเลยไปสามัคคีกับน้องชาย เรียกน้องชายมาคุย น้องชายเลยบอกว่า แม่พูดจริง แม่ด่าเราเสียๆหายๆจนหมดไส้หมดพุง เกลียดเราว่าเราเห็นแก่ลูกแก่ผัวมากกว่าน้องชายตัวเอง
เราเลยเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง พ่อเราได้แต่เสียใจ ไม่คิดว่าแม่มาอาศัยอยู่ที่บ้านเรา มาสร้างปัญหาให้ขนาดนี้ พอเราไปถามแม่เราตรงๆ แม่เรากลับบอกว่า "อีเxี้ยน้องสาว....ู ปากพร่อยปากหมา พูดจาเรื่อยเปื่อย" จนน้องเราถึงกับออกปากพูดออกมาว่า "แม่พูดเอง แม่ต้องยอมรับความจริง"
ทุกวันนี้ครอบครัวเรา เราเป็นเสาหลักค่ะ เพราะพ่อและแม่ไม่ได้ทำงานแล้ว น้องชายเลยต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูน้องมาได้ 5-6 ปีแล้ว แต่ไม่คิดว่า แม่จะรักลูกไม่เท่ากัน มองเราอคติขนาดนี้ เราควรคุยกับแม่ยังไงดีคะ