ทริปนี้เราก็ยังคงอยู่กันที่ “
กระบี่” สวรรค์แห่งท้องทะเลของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก หลังจากที่ทริปที่แล้วเราได้พาทุกคนไปอันซีน 4 เกาะแสนสวยของกระบี่กันตามกระทู้นี้แล้ว
https://ppantip.com/topic/40189565 มาถึงทริปนี้เราจะพาทุกคนไปท่องเที่ยวแบบ One Day Trip กับหมู่เกาะยอดฮิต Bucket list ของใครหลายๆคนในขณะนี้ นั่นก็คือ “
หมู่เกาะพีพี” ไม่ว่าจะเป็นพีพีเล พีพีดอนและหาดอื่นๆ ไปสัมผัสทะเลที่สวยราวกับมรกตโด่งดังไกลไปทั่วโลก! ทริปนี้เรากำเงินพันนิดๆและออกเดินทางกับทัวร์ชั้นนำของจ.กระบี่ “Krabi Travel Guide by Sea eagle tour” พร้อมแล้วก็กระโดดขึ้นเรือไปเที่ยวด้วยกันเลย
.
.
.
ดูสีน้ำสิสวยเกินจะบรรยาย
เราเริ่มต้นทริปนี้จากหาดนพรัตน์ธาราตอน 8.30 เพื่อเช็คอินกับทางซีอีเกิล
เช็คอินเสร็จเราก็ได้สายรัดข้อมือมาแบบนี้
ตรวจวัดอุณหภูมิ ฉบับ new normal กับเจ้าหน้าที่อุทยานกันเรียบร้อย เราก็พร้อมลุยกระโดดขึ้นเรือออกไปสำรวจหมู่เกาะพีพีกันได้เลย ทริปนี้เราออกเดินทางกับเจ้าเรือ 3333 เรือลำใหญ่ 3 เครื่องยนต์ที่ทางซีอีเกิลจัดให้
ใครที่สนใจเดินทางกับทางซีอีเกิลแต่พักที่หาดไร่เลย์ ทางทัวร์ก็แวะรับที่ไร่เลย์ให้นะ บริการทุกระดับประทับใจฝุดๆ
จุดจอดแรกที่เราจะไปหลังจากนั่งเจ้า speed boat ออกมาประมาณ 45 นาที นั่นก็คือ “ปิเล๊ะ ลากูน (Pileh Lagoon)”
สำหรับปิเล๊ะลากูนตอนนี้ คงเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายๆคนที่อยากจะมาเยือน เขาว่ากันว่าปิเล๊ะลากูนตอนนี้สวยเหมือนตอน 30 ปีที่แล้ว จะจริงหรือไม่เราเองก็ไม่รู้เพราะเกิดไม่ทัน555 แต่ตอนที่เราไปที่นี่ก็คือสวยมาก สวยจนเราอึ้งเลย
มุมฮิตล่ะมุมนี้ที่ใครไปใครมา ปิเล๊ะลากูนก็ต้องกระโดดขึ้นหัวเรือไปถ่ายรูปกัน
ชอบความล่องเรือผ่านประตูด้านหลังเข้ามาสู่ลากูนแห่งนี้
เสน่ห์ของปิเล๊ะลากูนสำหรับเราคือ แสงและเงาที่ตกลงมาสะท้อนกับน้ำทะเลในลากูนแห่งนี้ มันช่างสวยงามซะเหลือเกิน
เห็นสีน้ำทะเลแล้วอดใจไม่ไหวต้องกระโดดลงน้ำซะแล้ว
ออกจากปิเล๊ะลากูน สู่จุดหมายต่อไปของเรา
จุดดำน้ำ Snorkeling “ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave)”
ดูสีน้ำสิ
ปัจจุบันถ้ำไวกิ้ง ได้สัมปทานรังนก ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นไปในถ้ำ
ชมวิวถ่ายรูปกันจนหนำใจ ได้เวลากระโดดน้ำลงไปสำรวจโลกใต้ท้องทะเลกันแล้ว
ไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำไม่ต้องห่วงถ้ามากับซีอีเกิล เขามีบริการถ่ายภาพใต้น้ำให้
และนี่คือ เราและพี่ไกด์ซารี่กับบังยาว จนท.ของซีอีเกิลที่ตามถ่ายรูปให้ทั้งบนบกและใต้น้ำ ตอนนั้นเป็นตอนที่ทุกคนขึ้นเรือกันหมดแล้ว พี่ไกด์ซารี่อยากให้เราได้รูปสวยๆแต่พี่ไกด์ซารี่บอกว่า “น้องบ่าวพี่ดำน้ำได้ไม่นาน เดี๋ยวพี่ขึ้นไปตามบังยาวลงมาดำถ่ายให้ เพราะบังยาวดำน้ำได้นานกว่าพี่” แล้วนี่ก็คือที่มาของรูปถ่ายใบนี้ของเรา 3 คน เป็นอีกหนึ่งความประทับใจสำหรับการบริการของทัวร์นี้
ลุยกันต่อที่ “อ่าวมาหยา (Maya Bay)”
ถ้าพูดถึงอ่าวมาหยา หลายๆคนคงรู้จักกันในนามของหาดที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach ที่นำแสดงโดย Leonardo Dicaprio หลังจากที่หนังเรื่องนี้ฉายออกไป ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็หลั่งไหลกันมายังอ่าวแห่งนี้ เพราะฉากในหนังแต่ละฉากที่ถ่ายทำที่นี้ มันสวยซะเกินบรรยาย แต่ตอนนี้อ่าวมาหยาปิดเพื่อพักฟื้นธรรมชาติให้กลับมาฟื้นฟูอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมหลังจากที่หาดแห่งนี้รองรับนักท่องทั้งชาวไทยชาวต่างชาติมาอย่างล้นหลามจนธรรมชาติได้เสื่อมโทรมลงไป เราทำได้เพียงลอยเรืออยู่ด้านหน้าไม่ได้เข้าไปสัมผัสหาดทรายที่เขาว่ากันว่าละเอียดจนเหมืองผงแป้ง
บรรยากาศรอบๆอ่าวมาหยา
ไปต่อกันที่ “อ่าวลิงหรืออ่าวหยงกาเส็ม”
อ่าวนี้เป็นอาณาจักรของลิงแสม บางวันก็เจอลิงเยอะแต่บางวันก็อาจจะไม่เจอเลย ตอนที่เราไปเจออยู่ตัวเดียวเอง
สีน้ำทะเลรอบๆอ่าวลิงสวยไม่แพ้ที่อื่นๆเลย
ใครเหมาเรือมาก็สามารถจอดดำน้ำดูปะการังบริเวณอ่าวลิงได้
ท่องเที่ยวกันมาครึ่งวัน ได้เวลาแวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ทางซีอีเกิลจัดให้ที่ “หาดต้นไทรแห่งเกาะพีพีดอน”
ปกติแล้วหาดต้นไทรแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เพราะเป็นชายหาดที่ทุกคนที่มาเยือนพีพีดอนจะต้องมาลงเรือกันที่นี่ แต่เจ้าโควิดก็เล่นงานที่นี่ซะอ่วมทำให้ร้านค้าต่างๆปิดตัวลงไปเยอะมากๆ บรรยากาศของหาดแห่งนี้กลายเป็นชายหาดที่เงียบสงบ ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นอนอาบแดดกันเหมือนเมื่อก่อน บรรยากาศแตกต่างจากเก่าไปอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยสำหรับที่นี่ก็คือความสวยงามของธรรมชาติ ที่ยังคงสวยงามเหมือนเดิม
เดินไปจนสุดหาดเพื่อรับประทานอาหารบุฟเฟต์ที่ทางซีอีเกิลจัดเตรียมไว้ให้
ทานอาหารเสร็จก็ออกมาหาร้านกาแฟบรรยากาศดีๆนั่งชิลกันสักหน่อย
ที่พีพีดอนแห่งนี้ ทรายขาวละเอียดน้ำใสไม่แพ้ที่อื่นๆเลย
ขึ้นเรือโบกมือลาพีพีดอนไปสู่จุดหมายสุดท้ายของวันนี้ “เกาะไม้ไผ่ (Bamboo Island)”
เห็นความขาวละเอียดของทรายมาแต่ไกล
เกาะไม้ไผ่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในหมู่เกาะพีพี ที่ได้รับการขนานนามนี้คงเป็นเพราะความละเอียดของเม็ดทรายที่ตัดกับสีน้ำฟ้าๆเขียวๆรอบเกาะแห่งนี้
พอลงจากเรือ เท้าสัมผัสทรายปุ๊ป โอ้โหทรายนุ่มจริงสมคำร่ำลือ
เป็นเกาะที่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
[CR] +++ Unseen Krabi "Phi Phi Islands" +++
.
.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้