สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
บอกตามตรงแบบไม่โลกสวยนะคะ
ใครก็ได้ที่เข้ามาแล้วไม่เป็นภาระค่ะ
เพราะสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองโดยทีไม่ต้องง้อใคร
อีกอย่าง ถ้าบอกว่าเรื่องเงินทองไม่ใช่ของจำเป็น เป็นคนขยันก็พอ
มันนิยายไปนิดนึงค่ะ
เพราะสุดท้ายแล้วถ้าฐานะเหลื่อมล้ำกันมากๆ
คนที่จะรู้สึกแย่คือฝ่ายผู้ชายเองค่ะ
สมมุตินะคะ เรามีฐานะการเงินแบบใช้เงินแบบสบายๆ
จะกินจะใช้อะไรไม่ต้องคิดมาก
เพราะมีกำลังและสามารถหาเงินได้
แต่พอมาคบกับผู้ชายสักคน
กลายเป็นว่าเค้าไม่สามารถมาใช้จ่ายเหมือนกับที่เราเคยใช้จ่าย
ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องมาจ่ายให้เรา
เอาแค่เค้ารับจ่ายในส่วนเค้าก็พอ
แต่กลายเป็นว่าเค้าไม่สามารถที่จะมาจ่ายอย่างเราจ่ายได้
อย่างเช่น อยากกินข้าวมื้อละพันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
แต่ฝ่ายชายไม่สามารถจะมากินอะไรแบบนีได้บ่อยๆ
แรกๆตอนคบกันมันก็อาจจะโอเค ที่ลดความต้องการของตัวเองไปตามอีกฝ่าย
แต่อยู่ๆไปสักพัก จะรู้สึกตัวเองได้ว่า ทำไมเราต้องเปลี่ยนตัวเองขนาดนั้น
ทั้งๆที่เราเองก็อยู่คนเดียวได้ สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดค่ะ
อีกเรื่องคือ เรื่องของความคิด หรืออีกอย่างคือเรื่องของการพูดภาษาเดียวกัน
ที่เรารู้สึกว่า มีผลมากกว่าข้อแรกอีกค่ะ
อย่างน้อย สิ่งที่ผู้หญฺงที่ทำงานเก่งมากๆคือ ต้องการคู่คิดค่ะ
เค้าอาจจะต้องตัดสินใจในการทำงานได้ด้วยตัวของเค้าเอง
แต่บางครั้งเค้าเองก็ต้องการคนมาช่วยคิด หรือว่า support สิ่งที่เค้าคิดว่า
สิ่งที่เค้าคิด เค้าทำมันถูก
มันไม่ใช่แค่คำว่า สู้ๆนะ เธอทำได้ หรือว่า เธอต้องผ่านไปได้
แต่มันคือ ต้องมีการมาช่วยฟัง ช่วยวิเคราะห์ ช่วยออกความเห็น
ซึ่งฝั่งผู้ชายเอง ก็ต้องเก่งพอ ที่จะทำให้ผุ้หญฺิงคนนั้นฟังได้
เรื่องนี้ ถ้าฝั่งผู้ชายเอง ไม่สามารถที่จะทำได้
จะยิ่งเป็นปัญหามากกว่าข้อแรกอีกค่ะ
เพราะว่า มันกลายเป็นว่า ถ้าผู้ชายไม่เก่งพอที่จะเป็นคู่คิดได้
สุดท้ายอยู่คนเดียว คิดคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวเหมือนเดิม
สู้ไม่มีดีกว่าค่ะ
ใครก็ได้ที่เข้ามาแล้วไม่เป็นภาระค่ะ
เพราะสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองโดยทีไม่ต้องง้อใคร
อีกอย่าง ถ้าบอกว่าเรื่องเงินทองไม่ใช่ของจำเป็น เป็นคนขยันก็พอ
มันนิยายไปนิดนึงค่ะ
เพราะสุดท้ายแล้วถ้าฐานะเหลื่อมล้ำกันมากๆ
คนที่จะรู้สึกแย่คือฝ่ายผู้ชายเองค่ะ
สมมุตินะคะ เรามีฐานะการเงินแบบใช้เงินแบบสบายๆ
จะกินจะใช้อะไรไม่ต้องคิดมาก
เพราะมีกำลังและสามารถหาเงินได้
แต่พอมาคบกับผู้ชายสักคน
กลายเป็นว่าเค้าไม่สามารถมาใช้จ่ายเหมือนกับที่เราเคยใช้จ่าย
ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องมาจ่ายให้เรา
เอาแค่เค้ารับจ่ายในส่วนเค้าก็พอ
แต่กลายเป็นว่าเค้าไม่สามารถที่จะมาจ่ายอย่างเราจ่ายได้
อย่างเช่น อยากกินข้าวมื้อละพันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
แต่ฝ่ายชายไม่สามารถจะมากินอะไรแบบนีได้บ่อยๆ
แรกๆตอนคบกันมันก็อาจจะโอเค ที่ลดความต้องการของตัวเองไปตามอีกฝ่าย
แต่อยู่ๆไปสักพัก จะรู้สึกตัวเองได้ว่า ทำไมเราต้องเปลี่ยนตัวเองขนาดนั้น
ทั้งๆที่เราเองก็อยู่คนเดียวได้ สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดค่ะ
อีกเรื่องคือ เรื่องของความคิด หรืออีกอย่างคือเรื่องของการพูดภาษาเดียวกัน
ที่เรารู้สึกว่า มีผลมากกว่าข้อแรกอีกค่ะ
อย่างน้อย สิ่งที่ผู้หญฺงที่ทำงานเก่งมากๆคือ ต้องการคู่คิดค่ะ
เค้าอาจจะต้องตัดสินใจในการทำงานได้ด้วยตัวของเค้าเอง
แต่บางครั้งเค้าเองก็ต้องการคนมาช่วยคิด หรือว่า support สิ่งที่เค้าคิดว่า
สิ่งที่เค้าคิด เค้าทำมันถูก
มันไม่ใช่แค่คำว่า สู้ๆนะ เธอทำได้ หรือว่า เธอต้องผ่านไปได้
แต่มันคือ ต้องมีการมาช่วยฟัง ช่วยวิเคราะห์ ช่วยออกความเห็น
ซึ่งฝั่งผู้ชายเอง ก็ต้องเก่งพอ ที่จะทำให้ผุ้หญฺิงคนนั้นฟังได้
เรื่องนี้ ถ้าฝั่งผู้ชายเอง ไม่สามารถที่จะทำได้
จะยิ่งเป็นปัญหามากกว่าข้อแรกอีกค่ะ
เพราะว่า มันกลายเป็นว่า ถ้าผู้ชายไม่เก่งพอที่จะเป็นคู่คิดได้
สุดท้ายอยู่คนเดียว คิดคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวเหมือนเดิม
สู้ไม่มีดีกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ผู้หญิงที่ทำงานหนัก หาเงินเก่ง มีความสามารถหลายด้าน สู้ชีวิต ต้องการคู่ชีวิตแบบไหนครับ
คือตอนนี้ผมคุยอยู่กับผู้หญิงคนนึงอยู่ เค้าทำงานอยู่ในตำแหน่งที่สูงระดับหนึ่ง มีลูกน้องในสังกัด ทำงานเก่ง มุ่งมั่น ขยัน กตัญญู แต่โดนแฟนเก่าทิ้งไปมีผู้หญิงคนใหม่ และเค้าก็เปิดใจคุยกับคนใหม่ แต่ก็เจอแต่คนมาๆหายๆบ้าง มาเพื่อหวังเงินบ้าง เค้าจึงยังไม่ได้เลือกคบใคร และตอนนี้ก็โสดอยู่ ผมจึงมีโอกาศได้ทำความรู้จัก ตัวผมนั้นไม่ได้มีฐานะอะไร ที่บ้านยากจน โตมากับปู่กับย่า พ่อกับแม่แยกทางกัน ออกมาสู้ชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก อดมื้อกินมื้อบ้าง แต่ก็ไม่เคยขอเงินใครใช้อีกเลย จนตอนนี้ส่งตัวเองเรียนจนจบ ได้งานทำที่มั่นคง แต่ก็ยังดูแลปู่กับย่าตลอด ความฝันคืออยากตามหาแม่ เพื่อคลายปมในใจ จนอายุ30ถึงจะหาแม่เจอ และได้คลายปมในใจ และได้มีโอกาศดูแลแม่ ตอนนี้ผมหนักใจมาก ว่าผมคู่ควรกับเขาหรือไม่