เนื่องจากเช้าวันนี้น่ะค่ะ เราเจอคุณลุงคนหนึ่ง อยู่ๆ แกก็ตะโกนบ่นออกมาจนได้ยินกันทั้งขบวน ดังจนใส่หูฟังอยู่ก็ยังตกใจว่า
"ช่วยปิด คลิปนี้สักทีเถอะ เปิดวนมันอยู่แค่คลิปเดียวนี่ล่ะ วนไปวนมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว"
ตอนแรกก็คิดว่าใครเปิดคลิปหรือเล่นเกมส์โดยไม่ใส่หูฟังข้างลุงแกเปล่า ไม่มีมารยาทเลย พอลุงพูดไปพูดมา
ก็อ้อ โฆษณาบนรถไฟฟ้านี่เอง ซึ่งเราก็เป็นคนหนึ่งที่แอบเห็นด้วยอยู่ในใจค่ะ
คือว่ามันจะมีโฆษณาหนึ่งในช่วงนี้อ่ะค่ะ ที่แบบเปิดอยู่เจ้าเดียว เปิดจนเวียนหัว วันแรกที่เราเจอเนี่ย เราไม่ได้คิด
อะไร นั่งฟังไปประมาณห้านาทีล่ะ รู้สึกไม่ไหว ทำไมมันมีแต่โฆษณาอันนี้นะ ไม่มีอันอื่นหลุดมาบ้างเลย เริ่มเอียน เงยหน้า
มาก็เพิ่งเห็นผนังมันเป็นรูปโฆษณานั้นเต็มไปหมด เราก็เลยคิดว่า อ้อ ก็ฉันไปนั่งในโบกี้ที่โฆษณาเองนิ เลยลองเดินจากหัว
ขบวนไปท้ายขบวนดู คุณพระ เงินเขาหนามากจริง ๆ ค่ะ มีทุกโบกี้เลย 555+ ถึงกับต้องยอมแพ้ เราเลยหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ค่ะ
หลังจากนั้นโฆษณานี้ก็มิสามารถทำลายประสาทหูเราได้อีกค่ะ แต่ถ้าลืมหูฟังนี่ถึงกับท้อใจเลยค่ะ แต่อย่างว่าค่าโฆษณาบนรถ
ไฟฟ้ามันแพงมากนะคะ เห็นใจเจ้าของสินค้าอยู่นะแต่มันก็ไม่ไหวแฮะ
แต่ก็มีบ้างในอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ได้ยินคนข้าง ๆ พูดว่า
"เมื่อไหร่มันจะหมดสักที" "เสียงดังจัง" "ฟังจนเวียนหัวไปหมดแล้ว"
ซึ่งเอาจริง ๆ เวลาเราไปเซเว่น ปกติสินค้านั้น จะอยู่ใน list ที่หยิบแน่นอนถ้าเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกัน แต่รู้สึกเอียน
เอียนเหลือเกินที่จะเจอมันอีกแล้ว เลยหันไปหยิบอย่างอื่นแทนค่ะ ก็เข้าใจว่าโฆษณา ก็เข้าใจว่าเงินหนาาาา แต่แบบว่าเปิดซ้ำบ่อย ๆ
เปิดอยู่เจ้าเดียวเลย แทนที่ชวนให้รู้สึกอยากซื้อ เริ่มรู้สึกเอียนมากกว่าค่ะ เหมือนมีคลื่นอะไรสะกดจิตวนซ้ำไปมา ทำให้รู้สึกหงุดหงิด
แปลก ๆ ประสาทจะกินเอาค่า
เลยอยากถามทุกท่านว่า โฆษณาบนรถไฟฟ้ามีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าของท่านมากน้อยเพียงใดคะ
เสียงโฆษณาบนรถไฟฟ้าทำให้คุณอยากซื้อตามหรือไม่
"ช่วยปิด คลิปนี้สักทีเถอะ เปิดวนมันอยู่แค่คลิปเดียวนี่ล่ะ วนไปวนมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว"
ตอนแรกก็คิดว่าใครเปิดคลิปหรือเล่นเกมส์โดยไม่ใส่หูฟังข้างลุงแกเปล่า ไม่มีมารยาทเลย พอลุงพูดไปพูดมา
ก็อ้อ โฆษณาบนรถไฟฟ้านี่เอง ซึ่งเราก็เป็นคนหนึ่งที่แอบเห็นด้วยอยู่ในใจค่ะ
คือว่ามันจะมีโฆษณาหนึ่งในช่วงนี้อ่ะค่ะ ที่แบบเปิดอยู่เจ้าเดียว เปิดจนเวียนหัว วันแรกที่เราเจอเนี่ย เราไม่ได้คิด
อะไร นั่งฟังไปประมาณห้านาทีล่ะ รู้สึกไม่ไหว ทำไมมันมีแต่โฆษณาอันนี้นะ ไม่มีอันอื่นหลุดมาบ้างเลย เริ่มเอียน เงยหน้า
มาก็เพิ่งเห็นผนังมันเป็นรูปโฆษณานั้นเต็มไปหมด เราก็เลยคิดว่า อ้อ ก็ฉันไปนั่งในโบกี้ที่โฆษณาเองนิ เลยลองเดินจากหัว
ขบวนไปท้ายขบวนดู คุณพระ เงินเขาหนามากจริง ๆ ค่ะ มีทุกโบกี้เลย 555+ ถึงกับต้องยอมแพ้ เราเลยหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ค่ะ
หลังจากนั้นโฆษณานี้ก็มิสามารถทำลายประสาทหูเราได้อีกค่ะ แต่ถ้าลืมหูฟังนี่ถึงกับท้อใจเลยค่ะ แต่อย่างว่าค่าโฆษณาบนรถ
ไฟฟ้ามันแพงมากนะคะ เห็นใจเจ้าของสินค้าอยู่นะแต่มันก็ไม่ไหวแฮะ
แต่ก็มีบ้างในอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ได้ยินคนข้าง ๆ พูดว่า
"เมื่อไหร่มันจะหมดสักที" "เสียงดังจัง" "ฟังจนเวียนหัวไปหมดแล้ว"
ซึ่งเอาจริง ๆ เวลาเราไปเซเว่น ปกติสินค้านั้น จะอยู่ใน list ที่หยิบแน่นอนถ้าเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกัน แต่รู้สึกเอียน
เอียนเหลือเกินที่จะเจอมันอีกแล้ว เลยหันไปหยิบอย่างอื่นแทนค่ะ ก็เข้าใจว่าโฆษณา ก็เข้าใจว่าเงินหนาาาา แต่แบบว่าเปิดซ้ำบ่อย ๆ
เปิดอยู่เจ้าเดียวเลย แทนที่ชวนให้รู้สึกอยากซื้อ เริ่มรู้สึกเอียนมากกว่าค่ะ เหมือนมีคลื่นอะไรสะกดจิตวนซ้ำไปมา ทำให้รู้สึกหงุดหงิด
แปลก ๆ ประสาทจะกินเอาค่า
เลยอยากถามทุกท่านว่า โฆษณาบนรถไฟฟ้ามีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าของท่านมากน้อยเพียงใดคะ