เกิดสงสัยว่าใบสูติบัตร ระบุวันเดือนปีเกิดไม่ตรงกับความเป้นจริง เพราะเป็นใบแทน คนที่ไปทำใบแทนก็คงจะเป็นพ่อแม่ที่ไปทำ
เลยคิดว่า ถามไปก็คงบอกว่าเกิดตามวันในสูติบัตรนั่นแหละ.....แต่นี่ไม่ใช่คำถาม
คำถามคือ
ถ้าวันนึง มีแนวคิดจากคนๆหนึ่ง บอกว่า จริงๆแล้ว ดวงดาวในระบบสุริยะไม่ได้หมุนรอบดวงอาทิตย์อย่างที่เคยเชื่อกัน
แต่จริงๆแล้ว หมุนรอบโลก และโลกนี้ เป็นตัวขับเคลื่อนให้ สรรพสิ่งในจักรวาล หมุนรอบโลกเราต่างหาก
จะมีใครสนใจฟังแนวคิดนี้บ้างไหมครับ
แต่ขอออกตัวนิดนึงนะครับ สิ่งนี้เป็นเพียงความเห็นในจินตนาการ แต่ผ่านการคิดมาอย่างดีแล้วว่า มีความเป็นไปได้ในความเป็นจริง
แต่ยังไม่ได้ผ่านการคำนวณอะไรเป็นตัวเลขที่แน่นอน แต่มีแนวคิดซึ่ง ประกอบด้วยหลักเหตุและผลพิจารณามาในระดับหนึ่งแล้ว
เริ่มด้วยคำถามนะครับ
คำถามที่ 1. เคยนั่งอยู่ในรถยนต์จอดติดไฟแดง ขณะที่ข้างๆมีรถเมล์จอดขนาบอยู่ แล้วตอนรถเมลล์ออกตัวเคลื่อนไปข้างหน้า
แต่คนในรถกลับรู้สึกว่า รถที่เรานั่งและตัวเรา กำลังถอยไปข้างหลังทั้งๆที่ยังอยู่ที่เดิม เคยมั๊ยครับ?
ตอบ........................
หลังจากตอบคำถามข้อแรกเรียบร้อยแล้ว
อาจจะมีคนตอบว่าเคย หรือไม่เคย แต่สำหรับคนที่ตอบว่าเคยนะครับ ความรู้สึกนั้น เทียบกับความเป็นจริง สิ่งที่เราสัมผัส เห็นด้วยตา
พร้อมกับความรู้สึก สรุปแล้วเชื่อได้จริงหรือไม่ เพราะอาการแบบในคำถามข้อ 1 นั้น ความเป็นจริงคือ รถเมลล์กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า
ไม่ใช่ตัวเราและรถที่เรานั่งอยู่ถอยไปข้างหลัง
คำถามข้อที่ 2 นะครับ ยกตัวอย่าง สมมุติว่า เอาส้ม 3 ลูกขนาดไม่เท่ากัน วางบนไม้บรรทัด ระยะห่างแต่ละลูกไม่เท่ากัน
ทีนี้สมมุติว่า ลูกที่อยู่ริมสุดด้านหนึ่งเป็นดวงอาทิตย์ แล้วเอาตรงนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วหมุนไม้บรรทัดไปเป็นวงกลม
ระยะห่างของส้มแต่ละลูกคือ ยังเท่าเดิมไม่เปลี่ยน ถูกต้องมั๊ยครับ ทีนี้ลองจินตนาการต่อดู ว่า ถ้าให้ส้มผลที่วางอยู่ตรงกลาง
เป็นศูนย์กลาง แล้วอีกสองลูก หมุนรอบผลกลางบนแนวระนาบบนไม้บรรทัด จะเห็นได้ว่าถ้าเปลี่ยนจุดศูนย์กลางการหมุนแบบนี้
ระยะหางที่วางเอาไว้ระหว่างส้มแต่ละผล ยังเท่าเดิม หรือเปลี่ยนไปครับ?
ตอบ..........
จากคำถามสองข้อที่ได้ถามข้างต้น เป็นจุดเริ่มแนวคิด ที่ว่า จริงๆแล้ว สรรพสิ่งในจักรวาลนี้ หมุนรอบโลก พลังแรงดึงดูด และสนามแม่เหล็ก
ที่มหาศาลที่สุด มากพอที่จะกักเก็บ ก๊าซไว้เป็นชั้นบรรยากาศ ที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตได้ทุกวันนี้ เป็นสนามแม่เหล็กและแรงดึงดูดที่มหาศาล
จนมากพอที่จะขับเคลื่อนจักรวาลนี้ให้เคลื่อนที่ได้
ทำไมถึงคิดเช่นนั้น จากคำถามข้อที่สอง ความเป็นไปได้เริ่มก่อตัวขึ้น
คำถามข้อต่อมา ท่านคิดว่าไดโนเสาร์ยุคดึกดำบรรพ์สูญพันธ์ด้วยสาเหตุใด?
ตอบ.................
คำตอบอาจจะหลากหลาย ตามที่ได้อ่านได้ค้นคว้ากันมา ส่วนคำตอบของข้าพเจ้า กลับกลายเป็นคำถาม
ขอตอบคำถามตัวเองด้วยคำถามต่อ
คำถามที่ว่า ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ขนาดนั้น ทำไมรอยเท้าไดโนเสาร์ที่พบเจอ ตามแหล่งที่เคย คิดว่าเป็นแหล่งน้ำ
พื้นเป็นโคลน ดินอ่อน ที่ทำให้เกิดรอยเท้าได้ง่าย ทำไมรอยเท้าที่หลงเหลือให้เราเห็น จึงตื้นไม่ต่างกับรอยเท้าสัตว์ใหญ่
เช่นช้าง ในปัจจุบัน?
ด้วยคำถามนี้ จึงมีประเด็นต่อมา ซึ่งต้องขอแสดงความเห็นเป็นคำถามอีกเหมือนกันที่ว่า
จริงหรือไม่ ที่ยุคไดโนเสาร์ครองโลกนั้น แรงดึงดูดหรือแรงโน้มถ่วงของโลกนั้น ไม่ได้มากขนาดนี้
สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาเป็นสัตว์ทั้งหลายนั้น ไม่ต้องต่อสักับแรงโน้มถ่วงมหาศาลอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ขนาดของร่างกายจึงสามารถขยายใหญ่ได้ถึงขนาดไดโนเสาร์ เปรียบเทียบกับไดโนเสาร์ชนิดที่บินได้ในอดีต
ขนาดร่างกายขนาดนั้น ต้องใช้กำลังมากขนาดไหนเพื่อการยกตัวขึ้นไปบินบนท้องฟ้าได้
หรือ ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะ ไดโนเสาร์นั้น มีแค่ขนาดตัวที่ใหญ่ แต่มวลร่างกายนั้น จริงๆแล้ว ความหนาแน่นน้อยกว่าสิ่งมีชีวิตยุคปัจจุบัน
การสูญพันธ์ของได้โนเสาร์อาจจะมาจากปัจจัยภายนอก เช่น อุกาบาตขนาดใหญ่ชนโลกก็อาจจะใช่ แต่ปัจจัยที่ทำให้ยุคไดโนเสาร์สูญสิ้น
จริงแล้ว ถ้าแรงโน้มถ่างของโลกเพิ่มมากชึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว สุดท้ายอาจจะรับแรงกดดันนี้ไม่ไหว สูญพันธ์ไปเอง เป็นไปได้หรือไม่?
อันที่จริงแล้วแนวคิดที่ว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลกนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นรอบๆตัว และได้รับรู้ด้วยความรู้สึกก็ดี
ข่าวที่ออกก็ดี ความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นทางธรณีวิทยาบนโลกก็ดี มีเรื่องอะไรบ้าง
1.พายุรุนแรงที่เกิดชึ้นทุกวันนี้ นับวันจะมีความถี่ในการเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
2.ปัญหาเรื่องน้ำแข็งขั้วโลกที่เริ่มละลาย ที่เชือกันว่าเป็นเพราะโลกร้อน เกิดภาวะเรือนกระจก
3.ปัญหาเรื่องพายุ สุริยะที่ กระจายมาจากดวงอาทิตย์ แผ่รังสีอันตรายทะลุผ่านชั้นบรรยากาศโลกเข้ามาทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตได้
4.ไปนั่งมองดูดวงจันทร์แล้วมีความรู้สึกว่า ดวงจันทร์ทำไมเคลื่อนเร็วอย่างประหลาด
ไว้มาต่อนะครับ ถ้ามีคนสนใจ
สงสัยว่าตัวเองเกิดวันไหน คิดว่าสูติบัตร ที่ระบุไว้ ไม่ใช่วันจริงทำไงถึงจะรู้ครับ
เลยคิดว่า ถามไปก็คงบอกว่าเกิดตามวันในสูติบัตรนั่นแหละ.....แต่นี่ไม่ใช่คำถาม
คำถามคือ
ถ้าวันนึง มีแนวคิดจากคนๆหนึ่ง บอกว่า จริงๆแล้ว ดวงดาวในระบบสุริยะไม่ได้หมุนรอบดวงอาทิตย์อย่างที่เคยเชื่อกัน
แต่จริงๆแล้ว หมุนรอบโลก และโลกนี้ เป็นตัวขับเคลื่อนให้ สรรพสิ่งในจักรวาล หมุนรอบโลกเราต่างหาก
จะมีใครสนใจฟังแนวคิดนี้บ้างไหมครับ
แต่ขอออกตัวนิดนึงนะครับ สิ่งนี้เป็นเพียงความเห็นในจินตนาการ แต่ผ่านการคิดมาอย่างดีแล้วว่า มีความเป็นไปได้ในความเป็นจริง
แต่ยังไม่ได้ผ่านการคำนวณอะไรเป็นตัวเลขที่แน่นอน แต่มีแนวคิดซึ่ง ประกอบด้วยหลักเหตุและผลพิจารณามาในระดับหนึ่งแล้ว
เริ่มด้วยคำถามนะครับ
คำถามที่ 1. เคยนั่งอยู่ในรถยนต์จอดติดไฟแดง ขณะที่ข้างๆมีรถเมล์จอดขนาบอยู่ แล้วตอนรถเมลล์ออกตัวเคลื่อนไปข้างหน้า
แต่คนในรถกลับรู้สึกว่า รถที่เรานั่งและตัวเรา กำลังถอยไปข้างหลังทั้งๆที่ยังอยู่ที่เดิม เคยมั๊ยครับ?
ตอบ........................
หลังจากตอบคำถามข้อแรกเรียบร้อยแล้ว
อาจจะมีคนตอบว่าเคย หรือไม่เคย แต่สำหรับคนที่ตอบว่าเคยนะครับ ความรู้สึกนั้น เทียบกับความเป็นจริง สิ่งที่เราสัมผัส เห็นด้วยตา
พร้อมกับความรู้สึก สรุปแล้วเชื่อได้จริงหรือไม่ เพราะอาการแบบในคำถามข้อ 1 นั้น ความเป็นจริงคือ รถเมลล์กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า
ไม่ใช่ตัวเราและรถที่เรานั่งอยู่ถอยไปข้างหลัง
คำถามข้อที่ 2 นะครับ ยกตัวอย่าง สมมุติว่า เอาส้ม 3 ลูกขนาดไม่เท่ากัน วางบนไม้บรรทัด ระยะห่างแต่ละลูกไม่เท่ากัน
ทีนี้สมมุติว่า ลูกที่อยู่ริมสุดด้านหนึ่งเป็นดวงอาทิตย์ แล้วเอาตรงนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วหมุนไม้บรรทัดไปเป็นวงกลม
ระยะห่างของส้มแต่ละลูกคือ ยังเท่าเดิมไม่เปลี่ยน ถูกต้องมั๊ยครับ ทีนี้ลองจินตนาการต่อดู ว่า ถ้าให้ส้มผลที่วางอยู่ตรงกลาง
เป็นศูนย์กลาง แล้วอีกสองลูก หมุนรอบผลกลางบนแนวระนาบบนไม้บรรทัด จะเห็นได้ว่าถ้าเปลี่ยนจุดศูนย์กลางการหมุนแบบนี้
ระยะหางที่วางเอาไว้ระหว่างส้มแต่ละผล ยังเท่าเดิม หรือเปลี่ยนไปครับ?
ตอบ..........
จากคำถามสองข้อที่ได้ถามข้างต้น เป็นจุดเริ่มแนวคิด ที่ว่า จริงๆแล้ว สรรพสิ่งในจักรวาลนี้ หมุนรอบโลก พลังแรงดึงดูด และสนามแม่เหล็ก
ที่มหาศาลที่สุด มากพอที่จะกักเก็บ ก๊าซไว้เป็นชั้นบรรยากาศ ที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตได้ทุกวันนี้ เป็นสนามแม่เหล็กและแรงดึงดูดที่มหาศาล
จนมากพอที่จะขับเคลื่อนจักรวาลนี้ให้เคลื่อนที่ได้
ทำไมถึงคิดเช่นนั้น จากคำถามข้อที่สอง ความเป็นไปได้เริ่มก่อตัวขึ้น
คำถามข้อต่อมา ท่านคิดว่าไดโนเสาร์ยุคดึกดำบรรพ์สูญพันธ์ด้วยสาเหตุใด?
ตอบ.................
คำตอบอาจจะหลากหลาย ตามที่ได้อ่านได้ค้นคว้ากันมา ส่วนคำตอบของข้าพเจ้า กลับกลายเป็นคำถาม
ขอตอบคำถามตัวเองด้วยคำถามต่อ
คำถามที่ว่า ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ขนาดนั้น ทำไมรอยเท้าไดโนเสาร์ที่พบเจอ ตามแหล่งที่เคย คิดว่าเป็นแหล่งน้ำ
พื้นเป็นโคลน ดินอ่อน ที่ทำให้เกิดรอยเท้าได้ง่าย ทำไมรอยเท้าที่หลงเหลือให้เราเห็น จึงตื้นไม่ต่างกับรอยเท้าสัตว์ใหญ่
เช่นช้าง ในปัจจุบัน?
ด้วยคำถามนี้ จึงมีประเด็นต่อมา ซึ่งต้องขอแสดงความเห็นเป็นคำถามอีกเหมือนกันที่ว่า
จริงหรือไม่ ที่ยุคไดโนเสาร์ครองโลกนั้น แรงดึงดูดหรือแรงโน้มถ่วงของโลกนั้น ไม่ได้มากขนาดนี้
สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาเป็นสัตว์ทั้งหลายนั้น ไม่ต้องต่อสักับแรงโน้มถ่วงมหาศาลอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ขนาดของร่างกายจึงสามารถขยายใหญ่ได้ถึงขนาดไดโนเสาร์ เปรียบเทียบกับไดโนเสาร์ชนิดที่บินได้ในอดีต
ขนาดร่างกายขนาดนั้น ต้องใช้กำลังมากขนาดไหนเพื่อการยกตัวขึ้นไปบินบนท้องฟ้าได้
หรือ ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะ ไดโนเสาร์นั้น มีแค่ขนาดตัวที่ใหญ่ แต่มวลร่างกายนั้น จริงๆแล้ว ความหนาแน่นน้อยกว่าสิ่งมีชีวิตยุคปัจจุบัน
การสูญพันธ์ของได้โนเสาร์อาจจะมาจากปัจจัยภายนอก เช่น อุกาบาตขนาดใหญ่ชนโลกก็อาจจะใช่ แต่ปัจจัยที่ทำให้ยุคไดโนเสาร์สูญสิ้น
จริงแล้ว ถ้าแรงโน้มถ่างของโลกเพิ่มมากชึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว สุดท้ายอาจจะรับแรงกดดันนี้ไม่ไหว สูญพันธ์ไปเอง เป็นไปได้หรือไม่?
อันที่จริงแล้วแนวคิดที่ว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลกนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นรอบๆตัว และได้รับรู้ด้วยความรู้สึกก็ดี
ข่าวที่ออกก็ดี ความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นทางธรณีวิทยาบนโลกก็ดี มีเรื่องอะไรบ้าง
1.พายุรุนแรงที่เกิดชึ้นทุกวันนี้ นับวันจะมีความถี่ในการเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
2.ปัญหาเรื่องน้ำแข็งขั้วโลกที่เริ่มละลาย ที่เชือกันว่าเป็นเพราะโลกร้อน เกิดภาวะเรือนกระจก
3.ปัญหาเรื่องพายุ สุริยะที่ กระจายมาจากดวงอาทิตย์ แผ่รังสีอันตรายทะลุผ่านชั้นบรรยากาศโลกเข้ามาทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตได้
4.ไปนั่งมองดูดวงจันทร์แล้วมีความรู้สึกว่า ดวงจันทร์ทำไมเคลื่อนเร็วอย่างประหลาด
ไว้มาต่อนะครับ ถ้ามีคนสนใจ