ภูเข้ จังหวัดน่าน กับความสูง 2079 เมตร (รวมเดินทาง 5 วัน 4 คืน)
ทริปนี้เริ่มออกเดินทางในช่วงหน้าฝนซึ่งจะทำให้ได้บรรยากาศการเดินเขาที่สนุกสุดมันส์ รวมทั้งไม่ร้อนด้วยเพราะฝนตกไปเรื่อย 555 เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างโอเคกับธรรมชาติที่ได้พบ ในทริปนี้รายละเอียดอาจไม่เยอะมาก จะเน้นไปที่รูปสะมากกว่านะ

การเดินทางใช้ระยะเวลทั้งหมด 5 วัน 4 คืน ถ้าขึ้นภูเข้อย่างเดียวรวมน้ำตกก็ 3 วัน 2 คืน ไม่รวมวันเดินทางนะ (รถยนต์ส่วนตัว)
วันแรก กทม -> อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
วันที่สอง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา -> บ.สะไล -> ต่อรถโฟวิล -> จุดเริ่มเดิน -> แคมป์ 1
วันที่ สาม แคมป์ 1 -> ยอดภูเข้ หลักเขตแดนไทย-ลาว -> แคมป์ 1 -> แคมป์ 2
วันที่ สี่ แคมป์ 2 -> น้ำตกรางจาล -> กลับไปที่จุดเริ่มเดิน -> อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน
วันที่ ห้า อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน -> กทม.

จุดหมายในทริปนี้ก็จะมีดังนี้
- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
- ภูเข้
- น้ำตกรางจาล
- อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ
- ช่วงหน้าฝน ฝนอาจจะตกเกือบทุกวัน ต้องเตรียมอุปกรณ์กันฝนไว้ กระเป๋า เต็นท์ รวมทั้ง เปลและฟลายชีทกองกลางด้วย
- เผื่อข้าวให้พี่ลูกหาบและคนนำทางด้วย
- ถ้าเดินช้าต้องทำเวลานิดนึง แต่วันแรกเดินไม่ไกลมาก
- ฝนตกหรือชื้นๆ สำหรับคนกลัวทาก แนะนำเอาอุปกรณ์ป้องกันไปด้วยนะ เกือบตลอดทางถ้าเข้าป่า
- ช่วยกันรักษาธรรมชาติด้วยนะ เอาไรไปเอากลับมาทิ้งข้างล่างด้วย
- ไฟฉาย, เสื้อผ้ากันหนาว
คงประมาณนี่แหละมั้ง ฮ่าๆ

ค่าใช้จ่าย (ไม่ลงรายละเอียดมากนะ)
2700 บาท/คน ไปทั้งหมด 7 คน
ติดตามวิดีโอได้ที่ :

#ภูเข้ #น่าน #ไปเองก็ได้

การเดินทาง (ละเอียด)
วันแรก กทม -> อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
โดยวันแรกการขับรถค่อนข้างไกลเราจึงรีบขับมาพักที่นี่ก่อน เพื่อเตรียมตัวไปจุดนัดพบในช่วงเช้าได้ทันเวลา แต่ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาก็มีความสวยงาม เหมือนไม่ใช่แค่จุดที่เรามาพักนอนเฉยๆ จริงๆ มีหลายจุดเลยข้างในแต่เราไม่ได้แวะไหนเลย
(วันแรกจริงๆเราเดินทางตอนกลางคืนจาก กทม -> นครสวรรค์ก่อน ผมเลยนับเป็นวันที่ 0 นะ 555)

วันที่สอง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา -> บ.สะไล -> ต่อรถโฟวิล -> จุดเริ่มเดิน -> แคมป์ 1
จากอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเราก็ขับรถต่อไปอีกประมาณ 1-2 ชม ก็ถึงจุดนัดพบ บ.สะไล และนั่งโฟวิลไปต่อที่ บ.ห้วยลึก เพื่อเตรียมตัวเดินไปที่แคมป์ 1 โดยเริ่มเดินประมาณ เที่ยง ไปถึงก้น่าจะ 5 โมงเย็นกว่าๆ

วันที่ สาม แคมป์ 1 -> ยอดภูเข้ หลักเขตแดนไทย-ลาว -> แคมป์ 1 -> แคมป์ 2
วันนี้เดินค่อนข้างเยอะเพราะตื่นเช้ามาก็ทำอาหารและรีบกลับของให้เรียบร้อยและเดินขึ้นยอดตัวเปล่า จากนั้นก็กลับมาที่แคมป์และเดินต่อไปที่แคมป์ 2 โดยใช้เวลาทั้งวัน ถึงแคมป์ 2 ก็เกือบๆ 6โมงเย็นแล้ว ผมไม่ได้วัดระยะทางนะ เลยบอกเป็นเวลาเอา

วันที่ สี่ แคมป์ 2 -> น้ำตกรางจาล -> กลับไปที่จุดเริ่มเดิน -> อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน
วันนี้เหมือนเดินกลับเพราะทางเดินไปน้ำตกก็เป็นทางเดียวกับทางกลับ ซึ่งระยะทางไม่ไกลมาก และเสร้จแล้ว เราก็ไปที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านต่อเพื่อพักก่อนที่จะเดินทางกลัเข้ากทม.

วันที่ ห้า อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน -> กทม.
ไม่ไหวแล้วว กลับๆ 55
งบการเดินทางประมาณ 2700/คน ทั้งหมด 7 คน โดยใช้รถประมาณ 2 คันนะ ถ้าไปกันเยอะอาจะจะถูกกว่านี้ ทั้งหมดนี้ รวมค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่านำทางและค่าลูกหาบแล้วนะ


หมอกยามเย็นที่เรามาถึงที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

บรรยากาศลานกางเต็นท์ ที่ลานดูเดือน

จุดชมวิวใกล้ๆจุดพัก บ้านเกวียนในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา



จุดนัดพบที่รอรถโฟวิลมารับไปจุดเริ่มเดิน

ระยะโดยประมาณ 4-5 กิโลเมตร โดยทางค่อนข้างสนุกเลยทีเดียว 55

ทางโน้นนนน ไม่ใช่!! ชี้ผิดทาง 555

บรรยากาศโดยรอบระหว่างรอที่จุดเริ่มเดิน

ครบแล้ว GOGOGO ครั้งนี้เราขึ้นพร้อมกัน 2 กลุ่มแต่พอถึงข้างบนก็แยกกันอีกที


จริงๆรูปนี้ก็ใกล้ถึงแคมป์1 ละแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย จึงตัดไปวันที่ 2 เลยนะ

เริ่มต้นทางในวันที่ 2

ยอดภูเข้ 2079 เมตร กับหลักเขตแดนไทย-ลาว

ทางกลับระหว่างเดินทางแคมป์ 2 ที่อยู่ใกล้แคมป์เลย ดอกลำโพงสวยมาก ยาวตลอดลำธารเลย เหมือนอยู่ในหนังแฟนตาซี 55

แคมป์ 2


น้ำตกรางจาล ในช่วงหน้าฝนที่มีน้ำปริมาณมาก ดูจากละอองน้ำในภาพได้เลย ยืนแปปเดียวเปียกแน่นอน 555 เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 50-70 เมตร โดยตอนเมื่อไปถึงสดชื้นมากคงเพราะความอลังของมันด้วย

วิวที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน


แล้วหลังจากนี้ผมจะไปเขาไหน ติดตามได้ที่ ไปเองก็ได้
ขอบคุณครับ