:: แงซายอายุกี่ปีกันแน่ ::

ที่ผมสงสัยเรื่องนี้ เพราะขุดเอาเพชรพระอุมามาอ่านอีกรอบ แล้วสะดุดตรงที่ รพินทร์เคยเล่าให้คณะนายจ้างฟังว่า เขาได้ยินเรื่องราวของขุนเชาพระศิวะ-ขุมเพชรพระอุมา มาจากหนานไพร ซึ่งแลกเปลี่ยนเรื่องเล่ากันระหว่างนั่งห้างดักยิงเสือ และเรื่องที่รพินทร์เล่าให้หนานไพรฟังก็คือเรื่อง พิษสงของระเบิดจากเครื่องบินที่เคยเห็นสมัยเด็กๆ ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง

ต่อมา ตอนที่แงซายเข้ามาสมัครเป็นคนรับใช้ คณะนายจ้างได้รุมสัมภาษณ์ ซึ่งแงซายแจ้งไปว่า เคยเป็นทหาร เรียนการรบที่กองบัญชาการสัมพันธมิตรที่จุงกิง (ฉงชิ่ง) และร่วมกับกองทหารอังกฤษ โดดร่มยึดพม่า ในสงครามโลกครั้งที่สอง

จะเห็นได้ว่า ในขณะที่รพินทร์เป็นเด็ก แงซายเป็นหนุ่มพอที่จะเป็นทหารระดับนายทหารแล้ว

ดังนั้น แงซาย ต้องมีอายุมากกว่ารพินทร์ 

ไทม์ไลน์ของรพินทร์นี่ค่อนข้างสอดคล้องกับคนอื่น (เทียบกับ พ.อ.คีธ กับเชิดวุธ ที่เคยไปรบในสงครามเวียดนาม) แต่ของแงซายนี่โดดจากคนอื่นมาก

ตรงนี้ ผู้ประพันธ์ ตั้งใจ หรือว่าเป็นช่องโหว่ของเรื่องครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เคยมีการสัมภาษณ์คุณพนมเทียนว่า แงซายอายุเท่าไหร่ ท่านก็บอกว่าประมาณ 32 ส่วนระพินทร์ราวๆ33แก่กว่าแงซายแค่ปีสองปี
สงครามโลกครั้งที่สองจบในปีพ.ศ.2488เดือนกันยายนเดือน9 ปี2488แงซายอายุ18ปีโดดร่มยึดพม่า
ระพินทร์ตอนสงครามโลกจบนั้นอายุ19-20 ถ้าระพินทร์จะบอกว่าตอนเห็นเขาทิ้งระเบิดนั้นยังเป็นเด็กก็คงได้ เพราะทิ้งระเบิดใส่เมืองไทยอยู่2-3ปี ตอนนั้นระพินทร์คงอยู่ในช่วงอายุ16-20 ถือว่ายังเป็นเด็กอยู่

ช่วงแงซายเป็นทหารมี2ช่วงนะครับ ท่านจ.ข.ก.ท. อาจจะจำมาว่าเป็นช่วงเดียวกันเลยทำให้สับสน

ช่วงแรกของการเป็นทหาร อายุ15-18ปีแงซายรบให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร์ ได้ไปฝึกที่จีนแล้วมาโดดร่มเพื่อยึดพม่า
(ญี่ปุ่นยึดพม่าได้แล้วโดยเดินทางผ่านจากไทยไปเข้ายึด) แงซายไปโดดร่มยึดพม่าอีกทีให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร

ช่วงที่สองแงซายเป็นทหารกองโจรกระเหรี่ยงช่วงที่เป็นร้อยโทได้เจอระพินทร์นี้แงซายอายุ25+แล้วครับ
ตอนแงซายอายุ25จะติดยศร้อยโทก็ไม่แปลกละครับเพราะเรียนสูงมีความรู้แถมพูดได้หลายภาษา
หลังจากนั้นไม่นานระพินทร์ก็ลาออกจากราชการมาสร้างหนองน้ำแห้งได้ราวๆ7-8ปีตามที่บุญคำเล่า
ผ่านไป7-8ปี มาเจอกันอีกครั้ง แงซายก็ราวๆ32 ระพินทร์ราวๆ33 โป๊ะเชะ ลงตัวเลย
สรุป แงซาย32ระพินทร์33 สองคนนี้อายุห่างกันไม่มากแค่ปีสองปีครับ

ส่วนดารินจะเรียกแงซายว่าน้องชายนั้นคงเป็นเพราะแงซายหน้าเด็กแล้วก็อายุห่างจากดารินไม่มาก รุ่นใกล้เคียงกัน แถมดารินเป็นคุณหญิงด้วยคงไม่ยอมเรียกลูกหาบรุ่นใกล้ๆกันว่าพี่ อ่านช่วงแรกๆคงเข้าใจกันนะครับว่าคุณหญิงหยิ่งแค่ไหน ขนาดชัยยันต์อายุมากกว่าดาริน6ปีดารินยังเห็นเป็นเพื่อนเล่นเลย เชษฐาอายุมากกว่าไซยันต์ปีเดียวแต่ดารินเคารพเหมือนพ่อ เอาเป็นว่าอยู่ที่การเรียกหาครับ ไม่ได้เรียกหากันตามอายุหรือความอาวุโส แต่เรียกหากันตามความนับถือที่มีให้กัน

ข้างล่างนี้เป็นข้อมูลแงซายจากคุณ สลัดดำ สรุปไว้

๒๔๗๐ ลืมตาดูโลก

๒๔๗๑-๒๔๗๔ (๑-๔) ใช้ชีวิตอยู่ในมรกตนครอย่างปกติสุข

๒๔๗๕ (๕) รหัสยะ สิงหรา และพวกก่อกบฎ เกษราเทวีทรงพาจักราชหนีศัตรูเล็ดลอดออกมาสู่โลกภายนอก ซึ่งได้พบกับหนานอิน และพระธุงดงค์

๒๔๗๕-๒๔๗๘ (๕-๘) ติดตามพระธุดงค์ไปทุกหนทุกแห่ง เมื่ออายุได้ ๘ ปีก็ฝากไว้กับหลวงตา (ศิษย์ท่าน) ที่วัดในเมืองมัณฑะเลย์

๒๔๗๘-๒๔๘๒ (๘-๑๒) เช้าเรียนหนังสือในชั้นต้น ฝึกเพลงดาบเพลงทวนกับหลวงตาช่วงบ่าย

๒๔๘๒-๒๔๘๕ (๑๒-๑๕) เรียนชั้นกลางในเมืองแรงกูน

*ผมให้เวลาแงซายฝึกดาบนานๆ หน่อย เพื่อสมกับความเก่งกาจซึ่งทุกท่านคงประจักษ์ดีอยู่แล้ว

๒๔๘๕-๒๔๘๗ (๑๕-๑๗) เข้าฝึกการรบแบบกองโจรที่จุงกิง ประเทศจีน

๒๔๘๘ (๑๘) โดดร่มร่วมกับกองทัพอังกฤษ เข้ายึดพม่า

๒๕๘๙-๒๕๙๓ (๑๙-๒๓) สอบชิงทุน จนได้เข้าศึกษาต่อที่ประเทศอินเดีย มหาวิทยาลัยบอมเบย์ คณะอักษรศาสตร์ ใช้เวลาปิดเทอมมาล่าสัตว์ เรียนรู้วิชาจากโยคี ที่เทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล

๒๔๙๓-๒๔๙๕ (๒๓-๒๕) เป็นอาจารย์สอนวรรณคดี ในมหาวิทยาลัยแรงกูน จนถึงกลางปี ๒๔๙๕

๒๔๙๕-๒๔๙๗ (๒๕-๒๗) ในขณะที่กำลังจะต่อโทที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ในปีการศึกษา ๒๔๙๕ ก็ถูกหลวงตาเรียกตัวกลับ ให้มาเป็นทหารกองโจรกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นอยู่ ๒ ปีเศษ ก็หนีทัพ (น่าจะบุกขยี้ค่ายหมีดำของผู้กองรพินทร์ในปี ๒๔๙๗ นั่นเอง)

๒๔๙๘ (๒๘) เป็นกรรมกรเหมืองแร่อยู่เกือบปี จากนั้นจึงออกมาใช้ชีวิตอิสระ พเนจรไปตามป่าเขาลำเนาไพร

๒๔๙๙ (๒๙) พาหนานอินไปถอนฟัน

๒๔๙๙-๒๕๐๑ (๒๙-๓๑) พเนจรไปเรื่อยๆ จนได้เรื่อง ไปเจอกับกับสางเขียว เกือบไม่รอด และเจอไอ้แหว่งล้อมที่พักขณะรับจ้างคณะหนึ่งพาเที่ยวแถบห้วยเสือร้อง หวุดหวิดจะถูกเหยียบตาย สันนิษฐานว่าอาจเจอะโขมดดงในช่วงนี้ ไม่ยืนยัน และในปี ๒๕๐๑ นี้เอง ก็ได้พยายามติดตามหนานอิน กับชด ประชากร เพื่อร่วมทางบุกเทือกเขาพระศิวะ แต่ไม่สำเร็จ

๒๕๐๒ (๓๒) เข้ามาสมัครเป็นลูกหาบ-คนใช้ ของคณะเดินทางเชษฐา เพื่อกลับไปสู่ถิ่นกำเนิด

อ้างอิงจาก
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2007/03/A5243568/A5243568.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่