จากความล้มเหลวด้านรายได้ของ TENET ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนเปิดตัวนั้นทางสื่อ Hollywood คาดหมายว่าจะทำรายได้ 4 วัน (ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาบวกกับรอบพรีวิว 3 วัน) รวมประมาณ 30 ล้านเหรียญ แต่ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 20.2 ล้านเหรียญเท่านั้น แสดงให้ว่าปัญหาต่างๆที่ชาวอเมริกันเผชิญกันอยู่ในตอนนี้หนักหนากว่าที่คิด ทั้งจำนวนโรงหนังที่หายไปราว 40% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Los Angeles และ New York สองเมืองที่ทำรายได้หนังรวมกันกว่า 15% ของรายได้ทั้งประเทศยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดโรงหนังได้ในเร็ววันนี้ จำนวนที่นั่งที่โดนจำกัดลงเหลือสูงสุดเพียง 50% และที่สำคัญที่สุดคือความกังวลของผู้ชมจำนวนมากที่ยังไม่อยากไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ในช่วงเวลานี้ ทั้งหมดประกอบกันทำให้รายได้ในบ้านของ TENET ไม่เป็นไปอย่างที่ Warner Bros. คาดหวัง
ตอนนี้จึงเริ่มมีกระแสข่าวว่า Warner Bros. อาจตัดสินใจเลื่อน Wonder Woman 1984 หนังเต็งอีกเรื่องหนึ่งของตนออกไปจากกำหนดการล่าสุดคือ 2 ตุลาคม 2020 ซึ่งจะเป็นเมื่อไหร่นั้นยังไม่มีกำหนดการแน่ชัด เนื่องจาก WW84 เป็นหนังความหวังสูงสุดของบริษัทในปีนี้และ Wonder Woman ภาคแรกนั้นทำรายได้ในบ้านไป 412 ล้านเหรียญคิดเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้รวมทั้งหมด หากปล่อยให้เข้าฉายในตลาดที่ยังไม่พร้อมในตอนนี้อาจส่งผลให้รายได้ลดต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมากเกินไป ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า WW84 จะถูกเลื่อนโปรแกรมเบื้องต้นเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน (วันขอบคุณพระเจ้า) หรือเดือนธันวาคม (คริสต์มาส) ในปีนี้ก่อน
และหาก Wonder Woman 1984 เลื่อนโปรแกรมฉายจริงก็จะส่งผลต่อหนัง 2 เรื่องของ WB เองโดยตรงคือ
1. TENET เมื่อไม่มี WW84 มาต่อท้ายในอีก 1 เดือนให้หลังก็เท่ากับว่า TENET มีเวลาฉายโดยไม่มีหนังฟอร์มใหญ่มาต่อท้ายได้ต่อเนื่องยาวนานมากขึ้นไปอีก อย่างน้อยๆก็อีก 2 เดือนจนกว่า Black Widow จะเข้าฉายในช่วงปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน เท่ากับว่า TENET จะมีเวลาฉายเก็บเงินไปเรื่อยๆหากสถานการณ์ในสหรัฐดีขึ้น โรงหนังเปิดทำการมากขึ้น ความจุเพิ่มขึ้น LA และ NY เปิดโรงหนังได้ TENET ก็จะทำรายได้ตีนปลายเพิ่มมากขึ้นด้วย
2. Dune หาก WW84 เลื่อนไปช่วงวันขอบคุณพระเจ้าหรือคริสต์มาสจริงภาพยนตร์ของ WB เองที่จะโดนผลกระทบเต็มๆก็คือ Dune เพราะเดิม Dune มีกำหนดฉายวันที่ 18 ธันวาคมซึ่งกระชั้นชิดกับช่วงวันขอบคุณพระเจ้ามากเกินไป หรืออาจโดนแทนที่ในวันที่ 18 ธันวาคมด้วย WW84 ไปเลยก็ได้ ซึ่งจากตัวอย่างล่าสุดของ Dune ที่เพิ่งจะออนไลน์ไปช่วงกลางดึกที่ผ่านมาก็ยิ่งสนับสนุนสมมติฐานนี้เพราะไม่มีการระบุวันที่ฉายในหนังตัวอย่างแต่อย่างใด มีเพียงข้อความว่า
"ในโรงภาพยนตร์" แค่นั้น
Wonder Woman 1984 อาจเลื่อนโปรแกรมฉายอีกรอบ กระทบชิ่ง Dune เลื่อนไปปีหน้า
ตอนนี้จึงเริ่มมีกระแสข่าวว่า Warner Bros. อาจตัดสินใจเลื่อน Wonder Woman 1984 หนังเต็งอีกเรื่องหนึ่งของตนออกไปจากกำหนดการล่าสุดคือ 2 ตุลาคม 2020 ซึ่งจะเป็นเมื่อไหร่นั้นยังไม่มีกำหนดการแน่ชัด เนื่องจาก WW84 เป็นหนังความหวังสูงสุดของบริษัทในปีนี้และ Wonder Woman ภาคแรกนั้นทำรายได้ในบ้านไป 412 ล้านเหรียญคิดเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้รวมทั้งหมด หากปล่อยให้เข้าฉายในตลาดที่ยังไม่พร้อมในตอนนี้อาจส่งผลให้รายได้ลดต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมากเกินไป ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า WW84 จะถูกเลื่อนโปรแกรมเบื้องต้นเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน (วันขอบคุณพระเจ้า) หรือเดือนธันวาคม (คริสต์มาส) ในปีนี้ก่อน
และหาก Wonder Woman 1984 เลื่อนโปรแกรมฉายจริงก็จะส่งผลต่อหนัง 2 เรื่องของ WB เองโดยตรงคือ
1. TENET เมื่อไม่มี WW84 มาต่อท้ายในอีก 1 เดือนให้หลังก็เท่ากับว่า TENET มีเวลาฉายโดยไม่มีหนังฟอร์มใหญ่มาต่อท้ายได้ต่อเนื่องยาวนานมากขึ้นไปอีก อย่างน้อยๆก็อีก 2 เดือนจนกว่า Black Widow จะเข้าฉายในช่วงปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน เท่ากับว่า TENET จะมีเวลาฉายเก็บเงินไปเรื่อยๆหากสถานการณ์ในสหรัฐดีขึ้น โรงหนังเปิดทำการมากขึ้น ความจุเพิ่มขึ้น LA และ NY เปิดโรงหนังได้ TENET ก็จะทำรายได้ตีนปลายเพิ่มมากขึ้นด้วย
2. Dune หาก WW84 เลื่อนไปช่วงวันขอบคุณพระเจ้าหรือคริสต์มาสจริงภาพยนตร์ของ WB เองที่จะโดนผลกระทบเต็มๆก็คือ Dune เพราะเดิม Dune มีกำหนดฉายวันที่ 18 ธันวาคมซึ่งกระชั้นชิดกับช่วงวันขอบคุณพระเจ้ามากเกินไป หรืออาจโดนแทนที่ในวันที่ 18 ธันวาคมด้วย WW84 ไปเลยก็ได้ ซึ่งจากตัวอย่างล่าสุดของ Dune ที่เพิ่งจะออนไลน์ไปช่วงกลางดึกที่ผ่านมาก็ยิ่งสนับสนุนสมมติฐานนี้เพราะไม่มีการระบุวันที่ฉายในหนังตัวอย่างแต่อย่างใด มีเพียงข้อความว่า "ในโรงภาพยนตร์" แค่นั้น