ฤดูฝนแบบนี้ ไม่ไปน่านได้ไง
ช่วงเดือน กรกฎาถึงตุลา คือฤดูฝน ข้าวเขียว บรรยากาศเขียวๆทั้งจังหวัด ถ้าอยากเจอนาเขียวๆต้องมาเดือน สิงหา กันยา ตุลา
มีตั๋วบุฟเฟ่ต์ของพี่หางแดง ไปกลับแค่ 225 บาท แบบนี้ไม่ไปไหวหรออ กดจองโล้ดดด
เราเดินทางช่วงต้นเดือนกันยา 2563 ซึ่งเป็นฤดูฝนของจังหวัดน่าน เราต้องได้เห็นข้าวสีเขียวเต็มทุ่งนาา
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
ตั๋วเครื่องบินบุฟเฟ่ต์ไปกลับ 225 บาท
ที่พัก ดอยภูคา 300 บาท
ที่พัก ศรีนาม่าน 3,490 บาท
Nan Native (แชมป์มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ซีซั่น2) 1,000 บาท
เช่ารถ Avis 2,041 บาท (ไม่รวมน้ำมัน) น้ำมันประมาณ 500 บาท
ที่เหลือก็ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (อาหาร เครื่องดื่ม ชอปปิ้ง)
Welcome to Nan Nakhon
เดินทางถึง น่านนคร กันแล้วว ก็ออกไปรับรถที่จองไว้ บริษัทรถเช่าที่น่านมีไม่เยอะ ครั้งนี้เราเช่าของ Avis โดยลงจากเครื่องแล้ว ไม่ต้องออกจากสนามบินนะ ทางซ้ายมือก่อนออกจากสนามบิน จะมีเจ้าหน้าที่นั่งรออยู่ เราก็ไปติดต่อเขาเพื่อขอรับรถได้เลย หลังจากได้กุญแจมาเรียบร้อย ก็ไปรับรถที่ลานจอดรถ จะมีพี่พนักงานรอต้อนรับอยู่เช่นกัน การมาน่านครั้งนี้เราไม่เที่ยวในตัวเมืองน่านเลยย เราเน้นไปเก็บแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากกว่า มาดูกันเลยยว่าไปที่ไหนมาบ้างง
Natatha Farm Stay & นาตาทา cafe'
คาเฟ่สุดชิคกลางทุ่งนา มีทั้งคาเฟ่ และโฮมสเตย์ บรรยากาศดีมาก ถ้าไปช่วงฤดูฝนแบบเราละก็ ฟินสุดๆไปเลยย เต็มไปด้วยสีเขียว
สามารถเดินลงไปถ่ายรูปกลางทุ่งนาได้ด้วยน้า ส่วนคาเฟ่หากจะปีนขึ้นไปถ่ายตรงบันได ก็จะยากนิดนึง
ไม่ได้ลำบากอะไรนะ แต่คนจะเยอะ ต่อคิวกันยาวหน่อย แค่นั้นเอง 5555
กาแฟบ้านไทลื้อ
แวะมาดื่มกาแฟกันก่อน ที่อำเภอปัว ร้านกาแฟที่นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าใครจะมาเที่ยวปัว ก็ต้องแวะมา นอกจากจะมีกาแฟแล้ว
ก็ยังมีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ อีกมากมาย ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ออกมาชอปปิ้งเสื้อผ้ากันต่อได้เลยย มีแบบให้เลือกเยอะมาก ราคาไม่แพง
ใครมาเที่ยวแล้ว แต่ชุดไม่พร้อม ก็มาจัดที่นี่ได้เลย ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าดิบ มีหมดจ้าา
วัดภูเก็ต
แลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ของอำเภอปัว นั่นก็คือ วัดภูเก็ต เป็นวัดที่มีจุดชมวิวมุมสูง ถ่ายรูปออกมายังไงก็สวย มีลานจอดรถให้ทั้งข้างบน และข้างล่าง
ซึ่งหากใครต้องการไปถ่ายรูปกับทุ่งนา ก็สามารถจอดรถไว้ข้างล่างได้เลย และไปเก็บภาพข้างบนต่อก็ขับรถขึ้นมาได้เลย ช่วงวันที่เราไป
เราไปจอดจุดข้างบน โดยปกติแล้ว เหมือนจะเดินลงไปได้ แต่ช่วงนั้นเขาปิด ไม่สามารถลงไปข้างล่างเลย
ดังนั้นหากใครจะไปก็ขับรถไปจอดข้างล่างก็สะดวกดี
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ห่างจากสนามบินประมาณ 1.5 ชั่วโมง การเดินทางมายังดอยภูคานั้น ต้องปักมุดให้ถูกด้วยนะ เพราะบางครั้งอากู๋พาไปหลง ต้องปักชื่อเต็มๆเลย
ปักว่า " อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" ไปถูกแน่นอนน ก่อนจะพักที่นี่ เราต้องทำการจองให้เรียบร้อยก่อน โดยต้องจองผ่านทางเวปของอุทยาน จากนั้นเราก็เลือกรูปแบบห้องที่ต้องการได้เลย มีทั้งบ้านเกวียน บ้านพักแบบทั้งหลัง หรือต้องการกางเต็นท์เองก็ได้นะ (จองล่วงหน้าไม่เกิน 60 วัน) ครั้งนี้เราเลือกพักแบบบ้านเกวียน (เหมาะสมสำหรับพัก 2 ท่าน) ราคา 300 ต่อหลัง ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แยกชาย/หญิง ส่วนบริเวณที่พัก จะไม่มีอาหารขาย
โดยต้องเตรียมขึ้นไปให้เรียบร้อย หรือซื้อจากร้านค้า บริเวณจุดเชคอินของอุทยานจะปิดประมาณ 17.30 ภายในตัวเกวียน จะมีเพียงแค่ หมอน ผ้าห่ม ยาสระผมแบบเป็นซอง แนะนำให้เตรียมของใช้ต่างๆไปเองดีกว่า
หากตื่นเช้าก็จะมีพระมาบิณฑบาตหน้าที่พักเลย ใครเตรียมของมา ก็สามารถออกมารอพระหน้าห้องพักได้เลย
หรือต้องการไปชมวิวก็สามารถเดินไปชมวิวได้เลย อยู่ใกล้บริเวณลาดจอดรถ อากาศข้างบนเย็นๆ สบายย
บ่อเกลือสินเธาว์
ตื่นเช้ามาเราก็เดินทางสู่บ่อเกลือ ซึ่งระยะทางไม่ไกลเลย จากดอยภูคา เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เหมือนแวะพักระหว่างทาง
ใครที่ไปช่วงนี้อาจจะไม่ได้หินเขาต้มเกลือนะ เพราะเขาหยุดช่วงเข้าพรรษา จะต้มอีกครั้งประมาณเดือนตุลาคม แต่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้เลย
หรือจะซื้อเกลือติดไม้ติดมือกลับไปก็ได้น้าา มาถึงถิ่นเขาแล้วว บริเวณบ่อเกลือก็จะมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม
หมู่บ้านสะปัน
จากบ่อเกลือ เดินทางมายังหมู่บ้านสะปัน ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น แต่ระหว่างทางก็อาจจะต้องระวังหน่อย โค้งค่อนข้างเยอะ
สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของสะปัน ก็จะอยู่ในหมู่บ้านทั้งหมด มีทั้งน้ำตก วัด คาเฟ่ โฮมสเตย์ ภาพข้างล่างนี้ถ่ายจากตัวสะพานในหมู่บ้านสะปัน
บ้านสะปัน Retreat
บ้านพักที่บรรยากาศดีมากก เสียดายเราจองไม่ทัน เลยต้องนอนที่ดอยภูคาแทน แต่ถึงแม้เราจองไม่ทัน พี่เจ้าของเขาก็ใจดี
สามารถให้เข้าไปถ่ายรูปได้ด้วย ในส่วนของตัวบ้านพักยังไม่มีทำเป็นร้านกาแฟ
วัดสะปัน
เป็นจุดชมวิวที่ยอดฮิต มาถึงสะปันแล้วไม่ควรพลาดด ซึ่งตั้งอยู่บนวัดสะปัน ทางขึ้นอาจจะชันหน่อย แต่วิวสวยมากก ก่อนถึงวัด
ก็จะมาร้านคาเฟ่ หยุดเวลา ณ สะปัน สามารถไปดื่มกาแฟพร้อมชมวิวสวยๆ แบบนี้ได้เหมือนกัน
ถนนหมายเลข 3
ทางผ่านระหว่างไปศรีนาม่าน ปักมุดว่า ถนนหมายเลข 3 ได้เลยย แต่คนก็จะค่อนข้างเยอะ ก่อนจะถ่ายต้องคอยระวังดีๆนะ เพราะมีรถสวนตลอด
[CR] น่านไง....บอกแล้วว่าสวยย (รีวิวน่าน ปัว บ่อเกลือ สะปัน 3 วัน 2 คืน)
ช่วงเดือน กรกฎาถึงตุลา คือฤดูฝน ข้าวเขียว บรรยากาศเขียวๆทั้งจังหวัด ถ้าอยากเจอนาเขียวๆต้องมาเดือน สิงหา กันยา ตุลา
เราเดินทางช่วงต้นเดือนกันยา 2563 ซึ่งเป็นฤดูฝนของจังหวัดน่าน เราต้องได้เห็นข้าวสีเขียวเต็มทุ่งนาา
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
ตั๋วเครื่องบินบุฟเฟ่ต์ไปกลับ 225 บาท
ที่พัก ดอยภูคา 300 บาท
ที่พัก ศรีนาม่าน 3,490 บาท
Nan Native (แชมป์มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ซีซั่น2) 1,000 บาท
เช่ารถ Avis 2,041 บาท (ไม่รวมน้ำมัน) น้ำมันประมาณ 500 บาท
ที่เหลือก็ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (อาหาร เครื่องดื่ม ชอปปิ้ง)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้