กระทู้นี้จะมาขอรีวิวเกี่ยวกับประสบการณ์เที่ยวคนเดียว ลุยเดี่ยวยาวๆของผมนะครับ
สืบเนื่องจากพึ่งตกงานมาหมาดๆ ไม่ได้เกี่ยวกับโควิดใดๆ ลาออกมาเองเลย ชีวิตมันเศร้า
เอาล่ะ เหี่ยวเฉามานาน ออกไปปลดปล่อย ตามหาธรรมชาติที่โหยหาดีกว่า
แผนเที่ยวคร่าวๆนะครับ
วันที่ 1: เครื่องบินดินเมือง-น่าน, เที่ยวในตัวเมืองน่าน --> วัดต่างๆ ,ออกจากตัวเมืองมาหน่อย --> วัดพระธาตุแช่แห้งและวัดพระธาติเขาน้อย
วันที่ 2: อำเภอปัว --> กาแฟบ้านไทลื้อ, วังศิลาแลง, น้ำตกศิลาเพชร, น้ำตกตาดหลวง(ปิด), วัดพระธาตุเบ็งสกัด
วันที่ 3: อำเภอปัว --> วัดภูเก็ต, Cocoa Valley resort
ถนนหมายเลข 1256 --> อุทธยานแห่งชาติดอยภูคา จุดชมวิว 1715
อำเภอปัว --> บ่อเกลือโบราณทั้ง 2 แห่ง, โรงพยาบาลปัว (ไม่มีอะไร ไปดูเฉยๆ)
หมู่บ้านสะปัน --> น้ำตกสะปัน, สะพานร่วมใจสามัคคี, เข้าพักที่มองว้า ยายทาตาสม
วันที่ 4: วัดสะปัน + ชมวิว, น้ำตกสะปันอีกรอบ, ดื่มกาแฟที่อุ่นไอมาง
ถนนหมายเลข 1081 --> ถนนรูปเลข 3
ถนนหมายเลข 1170 --> วัดบ้านก๋ง (ศรีมงคล)
ถนนหมายเลข 101 --> หอศิลป์ริมน่าน
อำเภอเมือง --> ตลาดกลางคืนบริเวณวัดภูมินทร์ และสะพานศรีบุญเรือง
วันที่ 5: หอสมุดชุมชน, ของหวานป้านิ่ม, Workboxes cafe, Swensen’s น่าน, น่าน - ดอนเมือง
เส้นทางที่ผมไปทั้งหมดในทริปนี้ครับ
วันที่ 1
ตื่นเช้ามากๆๆ เพราะความตื่นเต้น จะได้ออกไปเที่ยวในรอบหลายเดือน
ครั้งนี้เดินทางไปกับสายการบินหางแดง ด้วยตั๋วบุฟเฟ่ต์
สนามบินก็พอมีคนบ้าง แต่ก็ไม่ได้คึกคัก เหมือนดั่งวันวาน
อันนี้เป็นน้องที่จะพาเราไปน่านกัน
ภายในเครื่องก็คนไม่เยอะ นั่งชิลๆดูวิวไปเพลินๆ แปปเดียวก็มาถึงน่านแล้ว
บ๊ายๆ กรุงเทพ มองจากข้างบน สวยไม่ใช่เล่นๆเลยน้า
ผมไปน่านช่วงที่ตอนนั้นมีข่าวน้ำท่วม ตอนแรกๆก็หวั่นๆ แต่พอไปจริงๆแล้ว แห้งสนิทเลย ตามข่าวคือจะท่วมตอนล่าง
อันนี้ก็เห็นน้ำท่วมพอดี เลยเก็บภาพไว้ครับ
ผืนป่าอันเขียวชอุ่ม
ถึงแล้วว สนามบินเล็กๆ น่ารัก ตื่นเต้นมาก ถ่ายไปทุกจุด อิอิ
ออกจากสนามบินมา จะมีรถรับจ้างสามารถเรียกไปส่งที่ตัวเมืองได้เลย ยิ่งหลายคนก็หารถูกลง ของผมจ่ายไป 40 บาทครับ
มาถึงปุปก็ไม่รอช้า เดินเที่ยวรอบๆเมือง ตัวเมืองน่านไม่ได้ใหญ่มาก สถานที่สวยๆ สำคัญๆก็จะอยู่ใกล้ๆกัน
มาที่แรก วัดยอดฮิต ที่อยู่ของภาพวาดกระซิบรัก บันลือโลก ว่าแล้วก็เข้าไปสักหน่อย ที่วัดภูมินทร์
น้องของเรา บินกลับกรุงเทพแล้ว บ้ายบาย อีก 4 วัน เจอกันใหม่
"น้องว่าพี่หล่อมั้ย"
"พี่ก็หน้าตาใช้ได้เหมือนกันนะ"
ไม่ใช่ละ
เดินไปไม่ไกลก็เป็นวัดมิ่งเมือง สวยงามมาก สีขาว อร่ามตา
เดินได้แปปนึงก็หิว เลยแวะร้านข้าวซอยต้นน้ำ จัดข้าวซอยมาแบบฉบับภาคเหนือ
เดินไปต่อ
ซุ่มลีลาวดี มุมมหาชน ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน สวย ร่มรืนมากๆ
ถ้าอยากมีตัวเองอยู่ในรูปก็ต้องใช้กระเป๋าเป้วางรองกล้อง แล้วถ่ายนั่นเอง ไม่ได้ลงรูปตัวเองนะครับ อาย 555
เดินเข้ามาอีกนิดก็เป็นอาคารของพิพิทธภัณฑ์ แต่ว่า วันนี้ปิด อดดูเลย
มาต่อที่อีกวัด อันนี้จำชื่อไม่ได้จริงๆ แต่ข้างในก็สวยไม่แพ้กัน (วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร) ขอบคุณท่านสมาชิกที่แนะนำครับ ^_^
เดินดุ่มๆมาแบบไม่มีแพลน ก็มาถึงสะพานศรีบุญเรือง บรรยากาศชิลๆ กับแดดอันร้อนแรงที่แผดเผา ก็นึกอะไรแปลกๆออก
เปิด google map แล้วก็เห็นชื่อ วัดพระธาตุแช่แห้ง อยู่ไกลๆ ก็เลยตัดสินใจเดินไป
ใช่ "เดินไป" ครับ เหนื่อยใช้ได้ 5555
เจอน้องวัวระหว่างทาง หันมาทักทาย
ชมวิวไปเรื่อยก็เพลินดีไปอีกแบบ ถ้าเบาแดดลงกว่านี้ได้นี่ perfect!
ถึงแล้ว วัดพระธาตุแช่แห้ง เหนื่อยโฮก
ผมเกิดปีจอพอดี ได้มาสักการะพระธาตุของคนปีจอพอดีเลย (เป็นของปีเถอะนะ ของคุณท่านสมาชิกที่แนะนำอีกเช่นกันครับ)
เข้ามาด้านในอาคาร จะมีพระนอน คล้ายๆในวัดโพธิ์เลย
เจย์ดีด้านในของวัด สวยมากๆ แต่พื้นร้อนมากๆเช่นกัน
เที่ยวเสร็จเราก็เดินต่อไปยัง landmark อีกที่นึงของน่าน ก็คือวัดพระธาตุเขาน้อย ที่อยู่อีกฝั่งนึงของเมืองน่าน ซึ่งก็ใช้การเดินไปเช่นกัน วันนี้เบิร์นไปหลายแคลเลยล่ะ
มาถึงก็เจอบันใดอันทอดยาวไปด้านบน ก็เดินไปสิครับ รอไร
ถึงแล้ววว
สวยมากๆๆๆ ยืนดื่มด่ำวิว กับบรรยากาศนานมาก ตรงนี้เราจะเห็นตัวเมืองน่านแทบทั้งเมือง ไปถึงสนามบินเลย ใครมาน่านต้องไม่พลาด (แต่นั่งรถมาดีกว่านะ)
เจ้าดำมานั่งเล่นเป็นเพื่อน ไม่มีเพื่อนมาด้วย ก็มีน้องดำเนี่ยแหละมานั่งเป็นเพื่อน อิอิ
ปิดท้าย คืนนี้มาพักที่ hostel ชื่อ CuteinNan ราคาถูกมากๆ สะอาด คนไม่เยอะด้วย เพราะมาวันธรรมดา
ตอนพักมีพี่ฝรั่งอีกคน เป็น นร.แลกเปลี่ยนที่ กทม.แล้วมาเที่ยว ได้เพื่อนใหม่เลย 5555
วันพรุ่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปเมืองอื่นๆ การเดินทางจริงๆของเราจะเริ่มต้นขึ้นพรุ่งนี้ เดี๋ยวไว้มาเขียนต่อนะครับ วันนี้ไปละ
วันที่ 2
วันนี้ตื่นมากับขาที่เหนื่อยล้าจากการเดินเยอะเมื่อวันก่อน
ตามที่คิดไว้คือวันนี้จะไปเมืองอื่น เลยเช่ามอเตอไซค์ครับ
หาข้อมูลจากกระทู้อื่นๆ เลยได้ที่ร้านโตโน่คาร์เร้นท์ ร้านจะอยู่บริเวณสถานีขนส่ง จว.น่าน
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 250 บาท/วัน แล้วแต่รุ่นด้วย มัดจำไป 1000 บาท
ได้มอไซค์ก็ไม่ต้องใช้ขาอันเมื่อยล้านี้แล้ว
ลุยต่อกันเลย
แผนวันนี้คือจะไปนอนที่อำเภอปัว โดยใช้ถนนหมายเลข 101 ยาวๆไปครับ
มาถึงปัว ก็ไปที่ร้านกาแฟไทลื้อ หาอะไรเย็นๆดื่มให้ชื่นใจก่อน
ด้านในจะเป็นที่นั่งบนเรือนไม้ หันหน้าเข้าทุ่งนาชมวิว สบายสมอง วิวดี
เดินไปข้างๆก็มีร้านข้าวซอยขาย วันนี้ลองจัดน้ำเงี้ยวหน่อย อร่อยใช้ได้ ราคาไม่แพง 40 บาทเอง
มานั่งดื่มกาแฟต่อ พร้อมดูวิว
นั่งสักพักก็ออกไปเดินรอบๆหน่อย
จากนั้นก็ขับต่อไปที่วังศิลาแลง
ที่นี่จะเป็นลักษณะสายน้ำ ไหลผ่านช่องหิน สวยงามมากๆ
ทางเข้าไปจะเห็นนาของชาวบ้านอยู่ดานล่าง
เดินเข้ามาข้างในเงียบ มีเราอยู่คนเดียวจริงๆ 5555
ขับเข้าไปอีกจะเป็นพระธาตุศิลาแลง ตั้งอยู่กลางแมกไม้ (ตรงนี้ไม่ค่อยมีอะไร ไม่ต้องขับเข้ามาก็ได้)
ขับมาเรื่อยๆ มาที่น้ำตกศิลาเพชร มีคนมาเล่นน้ำไม่มาก
ข้างหน้าจะมีร้านอาหารให้บริการ เหมาะกับการมาเล่นน้ำ น้ำเย็น บรรยากาศดี
ส่วนผมไม่ได้เล่นนะ ไม่ได้เอาชุดมา เสียดาย
เที่ยวน่าน 5 วัน 4 คืน คนเดียว (ส.ค. 2020)
สืบเนื่องจากพึ่งตกงานมาหมาดๆ ไม่ได้เกี่ยวกับโควิดใดๆ ลาออกมาเองเลย ชีวิตมันเศร้า
เอาล่ะ เหี่ยวเฉามานาน ออกไปปลดปล่อย ตามหาธรรมชาติที่โหยหาดีกว่า
แผนเที่ยวคร่าวๆนะครับ
วันที่ 1: เครื่องบินดินเมือง-น่าน, เที่ยวในตัวเมืองน่าน --> วัดต่างๆ ,ออกจากตัวเมืองมาหน่อย --> วัดพระธาตุแช่แห้งและวัดพระธาติเขาน้อย
วันที่ 2: อำเภอปัว --> กาแฟบ้านไทลื้อ, วังศิลาแลง, น้ำตกศิลาเพชร, น้ำตกตาดหลวง(ปิด), วัดพระธาตุเบ็งสกัด
วันที่ 3: อำเภอปัว --> วัดภูเก็ต, Cocoa Valley resort
ถนนหมายเลข 1256 --> อุทธยานแห่งชาติดอยภูคา จุดชมวิว 1715
อำเภอปัว --> บ่อเกลือโบราณทั้ง 2 แห่ง, โรงพยาบาลปัว (ไม่มีอะไร ไปดูเฉยๆ)
หมู่บ้านสะปัน --> น้ำตกสะปัน, สะพานร่วมใจสามัคคี, เข้าพักที่มองว้า ยายทาตาสม
วันที่ 4: วัดสะปัน + ชมวิว, น้ำตกสะปันอีกรอบ, ดื่มกาแฟที่อุ่นไอมาง
ถนนหมายเลข 1081 --> ถนนรูปเลข 3
ถนนหมายเลข 1170 --> วัดบ้านก๋ง (ศรีมงคล)
ถนนหมายเลข 101 --> หอศิลป์ริมน่าน
อำเภอเมือง --> ตลาดกลางคืนบริเวณวัดภูมินทร์ และสะพานศรีบุญเรือง
วันที่ 5: หอสมุดชุมชน, ของหวานป้านิ่ม, Workboxes cafe, Swensen’s น่าน, น่าน - ดอนเมือง
เส้นทางที่ผมไปทั้งหมดในทริปนี้ครับ
วันที่ 1
ตื่นเช้ามากๆๆ เพราะความตื่นเต้น จะได้ออกไปเที่ยวในรอบหลายเดือน
ครั้งนี้เดินทางไปกับสายการบินหางแดง ด้วยตั๋วบุฟเฟ่ต์
สนามบินก็พอมีคนบ้าง แต่ก็ไม่ได้คึกคัก เหมือนดั่งวันวาน
อันนี้เป็นน้องที่จะพาเราไปน่านกัน
ภายในเครื่องก็คนไม่เยอะ นั่งชิลๆดูวิวไปเพลินๆ แปปเดียวก็มาถึงน่านแล้ว
บ๊ายๆ กรุงเทพ มองจากข้างบน สวยไม่ใช่เล่นๆเลยน้า
ผมไปน่านช่วงที่ตอนนั้นมีข่าวน้ำท่วม ตอนแรกๆก็หวั่นๆ แต่พอไปจริงๆแล้ว แห้งสนิทเลย ตามข่าวคือจะท่วมตอนล่าง
อันนี้ก็เห็นน้ำท่วมพอดี เลยเก็บภาพไว้ครับ
ผืนป่าอันเขียวชอุ่ม
ถึงแล้วว สนามบินเล็กๆ น่ารัก ตื่นเต้นมาก ถ่ายไปทุกจุด อิอิ
ออกจากสนามบินมา จะมีรถรับจ้างสามารถเรียกไปส่งที่ตัวเมืองได้เลย ยิ่งหลายคนก็หารถูกลง ของผมจ่ายไป 40 บาทครับ
มาถึงปุปก็ไม่รอช้า เดินเที่ยวรอบๆเมือง ตัวเมืองน่านไม่ได้ใหญ่มาก สถานที่สวยๆ สำคัญๆก็จะอยู่ใกล้ๆกัน
มาที่แรก วัดยอดฮิต ที่อยู่ของภาพวาดกระซิบรัก บันลือโลก ว่าแล้วก็เข้าไปสักหน่อย ที่วัดภูมินทร์
น้องของเรา บินกลับกรุงเทพแล้ว บ้ายบาย อีก 4 วัน เจอกันใหม่
"น้องว่าพี่หล่อมั้ย"
"พี่ก็หน้าตาใช้ได้เหมือนกันนะ"
ไม่ใช่ละ
เดินไปไม่ไกลก็เป็นวัดมิ่งเมือง สวยงามมาก สีขาว อร่ามตา
เดินได้แปปนึงก็หิว เลยแวะร้านข้าวซอยต้นน้ำ จัดข้าวซอยมาแบบฉบับภาคเหนือ
เดินไปต่อ
ซุ่มลีลาวดี มุมมหาชน ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน สวย ร่มรืนมากๆ
ถ้าอยากมีตัวเองอยู่ในรูปก็ต้องใช้กระเป๋าเป้วางรองกล้อง แล้วถ่ายนั่นเอง ไม่ได้ลงรูปตัวเองนะครับ อาย 555
เดินเข้ามาอีกนิดก็เป็นอาคารของพิพิทธภัณฑ์ แต่ว่า วันนี้ปิด อดดูเลย
มาต่อที่อีกวัด อันนี้จำชื่อไม่ได้จริงๆ แต่ข้างในก็สวยไม่แพ้กัน (วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร) ขอบคุณท่านสมาชิกที่แนะนำครับ ^_^
เดินดุ่มๆมาแบบไม่มีแพลน ก็มาถึงสะพานศรีบุญเรือง บรรยากาศชิลๆ กับแดดอันร้อนแรงที่แผดเผา ก็นึกอะไรแปลกๆออก
เปิด google map แล้วก็เห็นชื่อ วัดพระธาตุแช่แห้ง อยู่ไกลๆ ก็เลยตัดสินใจเดินไป
ใช่ "เดินไป" ครับ เหนื่อยใช้ได้ 5555
เจอน้องวัวระหว่างทาง หันมาทักทาย
ชมวิวไปเรื่อยก็เพลินดีไปอีกแบบ ถ้าเบาแดดลงกว่านี้ได้นี่ perfect!
ถึงแล้ว วัดพระธาตุแช่แห้ง เหนื่อยโฮก
ผมเกิดปีจอพอดี ได้มาสักการะพระธาตุของคนปีจอพอดีเลย (เป็นของปีเถอะนะ ของคุณท่านสมาชิกที่แนะนำอีกเช่นกันครับ)
เข้ามาด้านในอาคาร จะมีพระนอน คล้ายๆในวัดโพธิ์เลย
เจย์ดีด้านในของวัด สวยมากๆ แต่พื้นร้อนมากๆเช่นกัน
เที่ยวเสร็จเราก็เดินต่อไปยัง landmark อีกที่นึงของน่าน ก็คือวัดพระธาตุเขาน้อย ที่อยู่อีกฝั่งนึงของเมืองน่าน ซึ่งก็ใช้การเดินไปเช่นกัน วันนี้เบิร์นไปหลายแคลเลยล่ะ
มาถึงก็เจอบันใดอันทอดยาวไปด้านบน ก็เดินไปสิครับ รอไร
ถึงแล้ววว
สวยมากๆๆๆ ยืนดื่มด่ำวิว กับบรรยากาศนานมาก ตรงนี้เราจะเห็นตัวเมืองน่านแทบทั้งเมือง ไปถึงสนามบินเลย ใครมาน่านต้องไม่พลาด (แต่นั่งรถมาดีกว่านะ)
เจ้าดำมานั่งเล่นเป็นเพื่อน ไม่มีเพื่อนมาด้วย ก็มีน้องดำเนี่ยแหละมานั่งเป็นเพื่อน อิอิ
ปิดท้าย คืนนี้มาพักที่ hostel ชื่อ CuteinNan ราคาถูกมากๆ สะอาด คนไม่เยอะด้วย เพราะมาวันธรรมดา
ตอนพักมีพี่ฝรั่งอีกคน เป็น นร.แลกเปลี่ยนที่ กทม.แล้วมาเที่ยว ได้เพื่อนใหม่เลย 5555
วันพรุ่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปเมืองอื่นๆ การเดินทางจริงๆของเราจะเริ่มต้นขึ้นพรุ่งนี้ เดี๋ยวไว้มาเขียนต่อนะครับ วันนี้ไปละ
วันที่ 2
วันนี้ตื่นมากับขาที่เหนื่อยล้าจากการเดินเยอะเมื่อวันก่อน
ตามที่คิดไว้คือวันนี้จะไปเมืองอื่น เลยเช่ามอเตอไซค์ครับ
หาข้อมูลจากกระทู้อื่นๆ เลยได้ที่ร้านโตโน่คาร์เร้นท์ ร้านจะอยู่บริเวณสถานีขนส่ง จว.น่าน
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 250 บาท/วัน แล้วแต่รุ่นด้วย มัดจำไป 1000 บาท
ได้มอไซค์ก็ไม่ต้องใช้ขาอันเมื่อยล้านี้แล้ว
ลุยต่อกันเลย
แผนวันนี้คือจะไปนอนที่อำเภอปัว โดยใช้ถนนหมายเลข 101 ยาวๆไปครับ
มาถึงปัว ก็ไปที่ร้านกาแฟไทลื้อ หาอะไรเย็นๆดื่มให้ชื่นใจก่อน
ด้านในจะเป็นที่นั่งบนเรือนไม้ หันหน้าเข้าทุ่งนาชมวิว สบายสมอง วิวดี
เดินไปข้างๆก็มีร้านข้าวซอยขาย วันนี้ลองจัดน้ำเงี้ยวหน่อย อร่อยใช้ได้ ราคาไม่แพง 40 บาทเอง
มานั่งดื่มกาแฟต่อ พร้อมดูวิว
นั่งสักพักก็ออกไปเดินรอบๆหน่อย
จากนั้นก็ขับต่อไปที่วังศิลาแลง
ที่นี่จะเป็นลักษณะสายน้ำ ไหลผ่านช่องหิน สวยงามมากๆ
ทางเข้าไปจะเห็นนาของชาวบ้านอยู่ดานล่าง
เดินเข้ามาข้างในเงียบ มีเราอยู่คนเดียวจริงๆ 5555
ขับเข้าไปอีกจะเป็นพระธาตุศิลาแลง ตั้งอยู่กลางแมกไม้ (ตรงนี้ไม่ค่อยมีอะไร ไม่ต้องขับเข้ามาก็ได้)
ขับมาเรื่อยๆ มาที่น้ำตกศิลาเพชร มีคนมาเล่นน้ำไม่มาก
ข้างหน้าจะมีร้านอาหารให้บริการ เหมาะกับการมาเล่นน้ำ น้ำเย็น บรรยากาศดี
ส่วนผมไม่ได้เล่นนะ ไม่ได้เอาชุดมา เสียดาย