สวัสดีค่ะก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ช่วงเดือน พฤษภาคม 2563 คุณพ่อมีอาการไออย่างหนักและต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่ว่าบ้านไม่ค่อยมีกำลังในการจ่ายเพื่อรักษาหากเป็นโรคที่รุนแรง จึงใช้สิทธิ์ประกันสังคมที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านบางปะกอก - ราษฏ์บูรณะ เมื่อไปหมอให้ X-ray พบจุดสีขาวเล็กๆที่ปอด คุณหมอได้วินิจฉัยว่า เป็นอาการของวัณโรค ให้ยามาทาน แล้วก็ให้หยุดอยู่บ้านเป็นจำนวน 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ และนัดอีกที 2 สัปดาห์ แต่คุณพ่อจำเป็นที่จะต้องเข้าไปพบแพทย์ ก่อนจะถึงวันนัด ด้วยอาการปวดหน้าอกอย่างหนัก และปวดขามากๆ น้ำหนักเริ่มลดลง มีอาการอาเจียน และรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ คุณหมอจึงให้เอกซ์เรย์อีกครั้ง พบว่ามีจุดขาวๆเพิ่มมาอีก 1 จุดบนปอด แต่ก็ไม่ได้รักษาอะไรเพิ่มเติม และให้ยาตามอาการ
ผ่านมา 1 เดือน อาการทรงตัวไม่ได้ดีขึ้นแล้วก็ไม่ได้ลดลง ทั้งๆที่ทานยาวัณโรคตามเวลาเป๊ะๆ ไม่เคยขาดไม่เคยเกิน จนกระทั่งจะครบเดือนที่ 2 คุณพ่อมีอาการไข้ขึ้น ไอเป็นเลือดอย่างรุนแรง อาเจียน จึงไปพบหมออีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้คุณหมอสั่ง X-ray, CT scan และวางยาเพื่อส่องกล้อง โดยทั้งหมดนี้ทำตอนที่คุณหมอให้คุณพ่อแอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 อาทิตย์ (เสียเวลางานอีกแล้วซึ่งก่อนหน้านี้คุณพ่อก็หยุดมาเป็นเวลา 1 เดือนแล้วใช้ทั้ง ลาป่วย ลากิจจนครบแล้ว) อาการไม่ดีขึ้นเลย แล้วก็ยังพบว่ามีก้อนเนื้อเพิ่มขึ้นมาที่ปอดอีกขนาดประมาณ 5 cm หมอพูดกับพ่อว่าไม่แน่ใจ ต้องเริ่มรักษาโดยการให้ CT scan อีกครั้ง มันวนลูปแบบนี้ 3 เดือนแล้วหมอยังบอกไม่ได้ว่าคุณพ่อเป็นอะไร ก็รักษาไปตามอาการย้ายโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เราไม่ได้มีเงินเก็บในการรักษามากพอ จนท้ายที่สุดแล้วเข้าเดือนที่ 4 คุณหมอเพิ่งเขียนใบส่งตัวให้ไปโรงพยาบาลรัฐบาลเพื่อส่องกล้องตรวจชิ้นเนื้อจะได้ทราบว่าเป็นอะไรกันแน่ เพราะโรงพยาบาลที่รักษาอยู่มีอุปกรณ์ไม่พอ (รักษาอย่างไรให้อาการหนักขึ้นและไม่มีการปรึกษากับคนไข้ว่าจะมีการส่งตัว)
ใบเสร็จที่ผ่านมาครั้งละหลายบาท และตอนแอดมิดอีก 78,000 กว่าบาท โชคดีที่เป็นประกันสังคมค่ะ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมาตอนนี้คุณพ่อกำลังเริ่มรักษาที่ใหม่อยู่ค่ะ ต้องขอใบส่งตัวทุกครั้งจากโรงพยาบาลต้นสังกัดประกันสังคม บริษัทให้หยุดงานแบบไม่รับเงินเดือนแล้วค่ะ เนื่องจากยังไม่มีใบที่วินิจฉันออกมาว่าคุณพ่อเป็นวัณโรคที่ติดต่อกับผู้อื่นได้ หรือเป็นมะเร็งปอดกันแน่ คนที่บริษัทก็กลัวติดกันค่ะ เข้าใจเลย ตอนนี้คือเครียดมาก เหมือนเสียเวลาเปล่า 3 เดือน ดิฉันกับน้องชายยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ คุณแม่เป็นฟรีแลนซ์ไม่ค่อยมีงานมากเท่าไหร่ และยังมีภาระการผ่อนบ้าน กลายเป็นว่าตอนนี้มืดแปดด้านเลยค่ะ คุณพ่อเหมือนเสาหลักหล่อเลี้ยงเราทุกคนในครอบครัว อีก 2 ปีพ่อเกษียรแล้ว ดิฉันจะจบปีนี้ค่ะ แต่คุณพ่อดันมาป่วยซะก่อน แถมบริษัทยื่นข้อเสนอให้เวลาเดือนกันยา - ตุลา ถ้าไม่หายจะให้เซ็นใบลาออกแล้วค่ะ คุณพ่อเลยยิ่งเครียดหนัก ตอนนี้เลยทำได้แค่รอ แล้วก็ดูเหมือนบริษัทจะอยากให้เซ็นใบลาออกเองอยู่แล้วด้วยค่ะ
เราสามารถใช้สิทธิ์อะไรของประกันสังคมมาอุ้มในภาวะแบบนี้ไว้ชั่วคราวได้บ้างไหมคะ หมดหนทางแล้วจริงๆค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและเข้ามาตอบล่วงหน้านะคะ
โรงพยาบาลประกันสังคมยื้อการรักษาจนคุณพ่อกำลังจะโดนบังคับให้เซ็นใบลาออก เครียดมากควรจะทำอย่างไรดีคะ