คุณเคยรู้สึกหดหู่เพราะ ไม่มีเงิน บ้างไหม???

ตามหัวข้อค่ะ คุณเคยรู้สึกหดหู่เพราะ ไม่มีเงิน บ้างมั้ย มันหมดแรง ไร้ซึ่งกำลังใจรึป่าว
เงิน คำเดียว ทำไมมีอิทธิพลต่อชีวิตเราได้ขนาดนี้ ตอนเด็กๆเคยคิดว่าไม่มีเงินก็มีความสุขได้
ทำไมตอนนี้เรากลับไม่รู้สึกแบบนั้น เราหาความสุขไม่ได้เพราะใจกังวลอยู่แต่กับเรื่องเงินๆๆๆและก็เงิน
บ้านก็ต้องส่ง รถก็ต้องผ่อน ค่าใช้จ่ายค่าอยู่ค่ากินเราต้องจัดการยังไงให้รอดวันต่อวัน
 
เคยรู้สึกแบบนี้กันมั้ย มันแย่เลเวลไหน คนรวยจะเข้าใจรึป่าว
แชร์ให้เราฟังบ้างนะคะ ว่าคุณจัดการกับเรื่องนี้ยังไง...
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมยึดหลักว่าอย่าประมาท กันไว้ดีกว่าแก้ ปัจจุบันเลยไม่ค่อยมีปัญหา แต่กรณีคุณที่เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว วิกฤติแล้ว ต้องค่อยๆตั้งสติ พิจารณาต้นตอของปัญหาว่าคืออะไรแล้วแก้ให้ตรงจุด เช่นทำบัญชีรายรับรายจ่ายแล้วดูว่ามันรั่วเสียไปที่ไหน อุดมันซะ แล้วหาทางเพิ่มรายได้ขึ้น พออัตราส่วนเป็นบวกก็ทยอยจ่ายหนี้....
ที่ว่ามานี่เป็นหลักแก้ปัญหาที่แทบจะทุกคนแนะนำแหละครับ พูดง่ายแต่ทำโคตรยาก แต่มันทำได้นะ หลายคนหลุดจากวงจรอุบาทว์หนี้ได้ก็เพราะทำอย่างนี้ คุณต้องใจแข็ง มองสาเหตุให้ออกแล้วกล้าตัดสินใจ หลังๆจะเป็น mind set ของคุณไปเลย เรื่องบริหารจัดการเงินทองเนี่ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ผมนี่เมื่อก่อนอยากซื้ออะไร กินอะไร ใช้เงินได้สบาย ไม่พอใจอะไรหรือเบื่ออะไรก็ทิ้ง พอปี 52 ล้มป่วยเพราะลิ่มเลือดอุดตันในสองซีกซ้ายทำให้พิการครึ่งซีกขวา ต้องออกจากงาน เกษียณตัวเองตอนอายุแค่ 35 ปี จากเงินเดือน 4 หมื่น เหลือ 7,500 บาท ค่าเดินทางเหมาจ่ายเดือนละ 500 บาท โดยผมได้รับจาก สปส. โอนให้จนกว่าผมจะตาย ค่าคนพิการอีก 800 บาท ตอนนี้จะกินจะใช้ซื้อหาอะไรต้องคิดแล้วคิดอีก มองแล้วมองอีกครับ

ผมอาจจะเสียใจแต่มันเป็นอดีตไปแล้วครับ ต้องสู้ต่อไปครับ
ความคิดเห็นที่ 29
พึ่งมาไม่รู้สึก ไม่หดหู่ ไม่วิ่งใส่เงินตอนที่แม่ป่วยหนักนี่แหละค่ะ
ส่วนตัวทำงานมาตั้งแต่อายุ 19 (เรียนปี3) ทำงานคือหัวชนฝาอ่านหนังสือเสร็จ
โดดขึ้นรถทัวร์ไปตจว.ทำงานต่อ วนกันไปกันมาคือทิ้งชีวิตไปเลย
เวลาที่ไม่มีเงิน หรือไม่มีเงินตามที่หวังจะเครียดนอนไม่หลับ ปวดหัว อ้วก
จนมาตอนนี้ที่อายุ 27 แล้วนับตั้งแต่นั้นมาก็ทำงานทุกวัน หยุดจริงๆ นับได้ไม่เกิน 10 วันต่อปี
เพื่อนที่มาพักมาหาที่บ้านแทบไม่มีเวลาได้คุยกัน(บ้านอยู่จังหวัดท่องเที่ยวจะมีเพื่อนแวะมาประจำ)
คือวันไหนที่ไม่ได้เป้า รายจ่ายเยอะหรืออะไรก็ตามจะเครียดแบบปวดหัวปวดตาไปหมด
มีความฝันคือฉันต้องรวย ฉันต้องหาเพิ่ม ฉันต้องสำเร็จ

จนวันนึง(เมื่อ2 เดือนที่แล้ว) แม่ตรวจเจอมะเร็งรอบที่ 2 ระยะ 3 ไป 4 แล้ว
เราทิ้งงานทุกอย่างไปเฝ้าแม่ที่ห้องปลอดเชื้อเป็นเดือน(มีลูกน้องทำงานต่อแต่ยอดเท่าไหนก็เท่านั้น)
ทำทุกอย่างสวดมนต์ยาวในห้องแคบๆ ฟังเสียงเครื่องช่วยหายใจวนไปวนมา
นอนสะดุ้งทุก 20 นาทีมาดูว่าแม่ยังหายใจอยุ่มั้ยทั้งคืน ในหัวคิดแค่นี้จริงๆ
ไม่มีคำว่าเงิน ว่ารวยอีกแล้วในหัว ณ วันนั้น

ขอพรว่า "ถ้าแลกได้ให้แม่กลับมาหายและสดใสอีกครั้ง ให้เราเป็นคนที่จนที่สุดในโลกก็ได้"
เวลาผ่านมา 2 เดือนตอนนี้แม่แทบจะวิ่งได้แล้ว ร้องด่าลูก ด่าหมาได้ ทำกับข้าวกินเองได้
นอนหัวเราะอารมณ์ดีดูยูทูปได้ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจใดๆ ทั้งนั้น อารมณ์ดีกว่าเราอีก 55

และกลับมาที่เรามารื้องานค้างและวิ่งตามลูกค้าใหม่ เชื่อมั้ย งานลดลง เงินลดลง(เกินครึ่ง)
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงนอนไม่หลับ เดินกลับไปกลับมา น้ำตาซึม ปวดหัวไปแล้ว
แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงแม่สดใส ร่าเริง และล่าสุดหมอแจ้งว่าค่ามะเร็งลดลงเยอะมาก อวัยวะทุกอย่างดี
เชื่อมั้ย ไม่รู้สึกอยากได้อยากมีอะไรเลย รู้สึกว่าแค่นี้พอแล้วพอจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่