จากกระแสข่าวของ “ลิโอเนล เมสซี่” ที่ต้องการยกเลิกสัญญาเพื่อย้ายทีม และมีข่าวแว่วๆมาว่าตอนนี้ บาร์เซโลน่า กำลังจับมือกับ ลาลีกา เพื่อแสดงท่าทีกดดันเมสซี่ไม่ให้ยกเลิกสัญญาได้ตามที่ระบุในสัญญา ซึ่งในสายตาแฟนบอลบางส่วนร่วมถึงตัวผมเองรู้สึกว่า เมสซี่ กำลังถูกรุมรังแกโดยผู้คนที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น วันนี้เราจึงจะมาหาคำตอบว่า ทำไมเมสซี่ถึงสำคัญกับบาร์ซ่าและลาลีกาลีกขนาดนั้น รวมถึงหาเหตุผลว่า “ทำไมเมสซี่สมควรได้ย้ายทีมตามที่เขาต้องการ”
ก่อนจะเข้าเรื่องกัน เราต้องพูดถึงสัญญาส่วนตัวของเมสซี่กับทีมเจ้าบุญทุ่มกันก่อนว่า การเซ็นสัญญาฉบับนี้เกิดขึ้นในปี 2017 และกำลังจะหมดลงในปี 2021 ซึ่งสัญญาฉบับดังกล่าวระบุค่าฉีกสัญญาไว้ที่ 700 ล้านยูโร แปลว่า มีทางเดียวคือกำเงิน 700 ยูโรมาจ่ายให้เจ้าบุญทุ่มเท่านั้น จึงจะได้นักเตะต่างดาวรายนี้ไปเสริมทีม
แต่ทว่าในสัญญามีเงื่อนไขพิเศษที่ว่า “ในทุกเดือนมิถุนายนของทุกปี เมสซี่สามารถขอยกเลิกสัญญาและย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวได้” ซึ่งทุกท่านคงทราบกันดีว่าช่วงเดือนมิถุนายนคือช่วงปิดฤดูกาล แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้มันมีปัญหาคลุมเครือก็คือ เดือนมิถุนายนในสัญญาดังกล่าวหมายถึง ช่วงปิดฤดูกาล หรือ หมายถึงภายในเดือนมิถุนายนจริงๆ เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาฟุตบอลได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันและทำให้ช่วงปิดฤดูกาลต้องเลื่อนออกไปด้วย ดังนั้น หากสัญญาดังกล่าวมีไว้ให้เมสซี่ตัดสินใจหลังจบฤดูกาลตามสถานการณ์ปกติเท่ากับว่า เมสซี่หมดสิทธิ์ใช้เงื่อนไขพิเศษนั้นไปแล้ว อย่างนั้นหรือ ??? เรื่องนี้เรายังต้องรอให้ทั้งสองฝ่ายเขาเคลียร์กันซะก่อน เราจึงจะได้รู้กัน
ถ้าเราถามถึงความสำคัญในตัวเมสซี่กับทีมเจ้าบุญทุ่มต้องบอกเลยว่า เมสซี่ มีมูลค่าในตัวเองมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นลิขสิทธิ์ด้านภาพลักษณ์ หรือจะเป็นฝีเท้าของเขาที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก การันตีได้จากการเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับรางวัล ballon d'or 6 สมัย ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลในขณะนี้ ฉะนั้นไม่ต้องถามว่าเมสซี่สำคัญกับทีมเจ้าบุญทุ่มขนาดไหน ต้องบอกว่า มาก!!! แบบกอไก่เป็นล้านตัวเลยครับ
และหากถามถึงประโยชน์ที่ลาลีกาได้รับจากตัวเมสซี่ นั่นก็คือ “เป็นแม่เหล็กดึงความสนใจ” จากแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งส่วนมากจะให้ความสนใจกับ 5 ลีกดังในยุโรป และ 1 ใน 5 ลีกดังกล่าวก็คือ “ลาลีกา สเปน” ซึ่งลีกฟุตบอลทุกลีกจะได้ผลประโยชน์จากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ทำให้ทุกลีกต้องมีสิ่งดึงดูดเพื่อให้แฟนบอลทั่วโลกสนใจรับชมลีกของตน ไม่ว่าจะเป็นชื่อชั้นของทีมดังๆ หรือ “นักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์” ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าตั้งแต่ CR7 ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ก็มีเมสซี่นี่แหละครับที่เป็นตัวชูโรงหลักใน ลาลีกา ลีก
ไม่แค่สร้างเม็ดเงินจากการขายลิขสิทธิ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการสร้างเศรษฐกิจในประเทศสเปนด้วย “ลีโอเนล เมสซี่” คือหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้แฟนบอลทั่วโลกต้องการบินไปสเปนเพื่อไปเจอกับตัวเป็นๆ ของเขา แฟนบอลทั่วโลกต่างอยากไปดูลีลารเล่นของเมสซี่ด้วยตาตัวเอง แบบติดขอบสนามมิใช่ผ่านจอโทรทัศน์ ฉะนั้น ที่พัก, สถานบริการ, ร้านอาหารต่างๆ ก็คึกคักไปด้วย หากเมสซี่ต้องย้ายออกจากบาร์เซโลน่า และสเปนจริงๆ ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดคงจะได้รับผลกระทบแน่นอนไม่มากก็น้อย
ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับ “เหตุผลที่เมสซี่สมควรได้ย้ายทีมอย่างที่ต้องการ” นั้นน่าจะมาจาก ประการแรก“เมสซี่ทำเพื่อทีมมาเยอะแล้ว” คำพูดนี้ผมไม่ได้ต้องการทำให้ดูเหมือนเมสซี่ต้องการทวงบุญคุณอะไรจากทีมเจ้าบุญทุ่มนะครับ เพียงแต่จะบอกว่าสิ่งที่เมสซี่ทำให้กับทีมมานับทศวรรษเขาทำมันด้วยหัวใจที่รักบาร์เซโลน่า ซึ่งก่อนหน้านี้เขาคิดจะย้ายทีมหลายครั้งแต่ก็เปลี่ยนใจกลับมารับใช้ทีมแบบเต็มร้อย และพร้อมที่จะกวาดความสำเร็จเข้าสู่ทีม ทุกครั้งที่เขาถูกถามถึงทีมบาร์เซโลน่า เขามักจะพูดเสมอว่า “ที่นี่เป็นบ้านของผม ผมรักทีมนี้” ฉะนั้นเขาควรได้รับการให้เกียรติจากทีมเจ้าบุญทุ่มมากกว่านี้ ถึงแม้ในสัญญาจะระบุเวลาที่ชัดเจนว่าเมสซี่สามารถขอยกเลิกสัญญาได้ในเดือนมิถุนายน แต่ทุกท่านก็ทราบดีว่าทำไมเมสซี่ไม่ใช้เงื่อนไขในเวลาดังกล่าว ไม่ใช่เพราะเมสซี่ต้องการอยู่ช่วยทีมจนจบซีซั่นอย่างนั้นหรือ!!!
ประการที่สอง “คนอื่นไม่เห็นจะมีปัญหา” มีการเปิดเผยว่าเมสซี่ไม่ใช่คนแรกที่ได้เงื่อนไขพิเศษในข้างต้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักเตะระดับตำนานของทีมอย่าง ซาบี เฮอร์นานเดซ, คาเรส ปูโยล, อันเดรียส อินเนสต้า ต่างก็เคยได้รับเงื่อนไขนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น เข้าใจว่าเงื่อนไขลักษณะนี้เป็นการให้เกียรติแก่นักฟุตบอลที่เป็นระดับไอคอนของทีม เพื่อให้นักเตะเหล่านี้ได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง เจ้าบุญทุ่มจะไม่ขายคุณ หากคุณไม่ต้องการให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น เมื่อตัดภาพมาปัจจุบัน ดูไม่เป็นอย่างนั้นเลยกับสิ่งที่ทีมทำกับเมสซี่
ชายคนนี้สร้างแต่คุณงามความดีให้กับองค์กร นำความสำเร็จเข้าสู่ทีม นำผลประโยชน์มากมายเข้ามาให้ทีม หากวันหนึ่งตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่เขาอยู่แล้วสบายใจ เราก็ควรเคารพการตัดสินใจของกันและกันไม่ใช่หรือ? ควรปฏิบัติกับเขาอย่างมีมิตรไมตรีไม่ใช่หรือ? หรือพวกคุณมองเมสซี่เป็นเพียงลูกจ้าง เป็นแค่เครื่องมือในการหาผลประโยชน์ ?? ท้ายที่สุดเราก็ได้แต่หวังว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดี แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าถามว่าผมเอาใจช่วยใครมากกว่ากัน ต้องบอกว่า“ทีมเมสซี่” แน่นอน
ปล.หากใครชอบบทความแบบนี้อย่าลืมกดแพล่บ หรือกดแนะนำกระทู้เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ
.
.
.
เขียนโดย FootballWorm
ทำไมเมสซี่สมควรได้ย้ายทีม!!!
ก่อนจะเข้าเรื่องกัน เราต้องพูดถึงสัญญาส่วนตัวของเมสซี่กับทีมเจ้าบุญทุ่มกันก่อนว่า การเซ็นสัญญาฉบับนี้เกิดขึ้นในปี 2017 และกำลังจะหมดลงในปี 2021 ซึ่งสัญญาฉบับดังกล่าวระบุค่าฉีกสัญญาไว้ที่ 700 ล้านยูโร แปลว่า มีทางเดียวคือกำเงิน 700 ยูโรมาจ่ายให้เจ้าบุญทุ่มเท่านั้น จึงจะได้นักเตะต่างดาวรายนี้ไปเสริมทีม
แต่ทว่าในสัญญามีเงื่อนไขพิเศษที่ว่า “ในทุกเดือนมิถุนายนของทุกปี เมสซี่สามารถขอยกเลิกสัญญาและย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวได้” ซึ่งทุกท่านคงทราบกันดีว่าช่วงเดือนมิถุนายนคือช่วงปิดฤดูกาล แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้มันมีปัญหาคลุมเครือก็คือ เดือนมิถุนายนในสัญญาดังกล่าวหมายถึง ช่วงปิดฤดูกาล หรือ หมายถึงภายในเดือนมิถุนายนจริงๆ เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาฟุตบอลได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันและทำให้ช่วงปิดฤดูกาลต้องเลื่อนออกไปด้วย ดังนั้น หากสัญญาดังกล่าวมีไว้ให้เมสซี่ตัดสินใจหลังจบฤดูกาลตามสถานการณ์ปกติเท่ากับว่า เมสซี่หมดสิทธิ์ใช้เงื่อนไขพิเศษนั้นไปแล้ว อย่างนั้นหรือ ??? เรื่องนี้เรายังต้องรอให้ทั้งสองฝ่ายเขาเคลียร์กันซะก่อน เราจึงจะได้รู้กัน
ถ้าเราถามถึงความสำคัญในตัวเมสซี่กับทีมเจ้าบุญทุ่มต้องบอกเลยว่า เมสซี่ มีมูลค่าในตัวเองมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นลิขสิทธิ์ด้านภาพลักษณ์ หรือจะเป็นฝีเท้าของเขาที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก การันตีได้จากการเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับรางวัล ballon d'or 6 สมัย ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลในขณะนี้ ฉะนั้นไม่ต้องถามว่าเมสซี่สำคัญกับทีมเจ้าบุญทุ่มขนาดไหน ต้องบอกว่า มาก!!! แบบกอไก่เป็นล้านตัวเลยครับ
และหากถามถึงประโยชน์ที่ลาลีกาได้รับจากตัวเมสซี่ นั่นก็คือ “เป็นแม่เหล็กดึงความสนใจ” จากแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งส่วนมากจะให้ความสนใจกับ 5 ลีกดังในยุโรป และ 1 ใน 5 ลีกดังกล่าวก็คือ “ลาลีกา สเปน” ซึ่งลีกฟุตบอลทุกลีกจะได้ผลประโยชน์จากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ทำให้ทุกลีกต้องมีสิ่งดึงดูดเพื่อให้แฟนบอลทั่วโลกสนใจรับชมลีกของตน ไม่ว่าจะเป็นชื่อชั้นของทีมดังๆ หรือ “นักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์” ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าตั้งแต่ CR7 ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ก็มีเมสซี่นี่แหละครับที่เป็นตัวชูโรงหลักใน ลาลีกา ลีก
ไม่แค่สร้างเม็ดเงินจากการขายลิขสิทธิ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการสร้างเศรษฐกิจในประเทศสเปนด้วย “ลีโอเนล เมสซี่” คือหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้แฟนบอลทั่วโลกต้องการบินไปสเปนเพื่อไปเจอกับตัวเป็นๆ ของเขา แฟนบอลทั่วโลกต่างอยากไปดูลีลารเล่นของเมสซี่ด้วยตาตัวเอง แบบติดขอบสนามมิใช่ผ่านจอโทรทัศน์ ฉะนั้น ที่พัก, สถานบริการ, ร้านอาหารต่างๆ ก็คึกคักไปด้วย หากเมสซี่ต้องย้ายออกจากบาร์เซโลน่า และสเปนจริงๆ ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดคงจะได้รับผลกระทบแน่นอนไม่มากก็น้อย
ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับ “เหตุผลที่เมสซี่สมควรได้ย้ายทีมอย่างที่ต้องการ” นั้นน่าจะมาจาก ประการแรก“เมสซี่ทำเพื่อทีมมาเยอะแล้ว” คำพูดนี้ผมไม่ได้ต้องการทำให้ดูเหมือนเมสซี่ต้องการทวงบุญคุณอะไรจากทีมเจ้าบุญทุ่มนะครับ เพียงแต่จะบอกว่าสิ่งที่เมสซี่ทำให้กับทีมมานับทศวรรษเขาทำมันด้วยหัวใจที่รักบาร์เซโลน่า ซึ่งก่อนหน้านี้เขาคิดจะย้ายทีมหลายครั้งแต่ก็เปลี่ยนใจกลับมารับใช้ทีมแบบเต็มร้อย และพร้อมที่จะกวาดความสำเร็จเข้าสู่ทีม ทุกครั้งที่เขาถูกถามถึงทีมบาร์เซโลน่า เขามักจะพูดเสมอว่า “ที่นี่เป็นบ้านของผม ผมรักทีมนี้” ฉะนั้นเขาควรได้รับการให้เกียรติจากทีมเจ้าบุญทุ่มมากกว่านี้ ถึงแม้ในสัญญาจะระบุเวลาที่ชัดเจนว่าเมสซี่สามารถขอยกเลิกสัญญาได้ในเดือนมิถุนายน แต่ทุกท่านก็ทราบดีว่าทำไมเมสซี่ไม่ใช้เงื่อนไขในเวลาดังกล่าว ไม่ใช่เพราะเมสซี่ต้องการอยู่ช่วยทีมจนจบซีซั่นอย่างนั้นหรือ!!!
ประการที่สอง “คนอื่นไม่เห็นจะมีปัญหา” มีการเปิดเผยว่าเมสซี่ไม่ใช่คนแรกที่ได้เงื่อนไขพิเศษในข้างต้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักเตะระดับตำนานของทีมอย่าง ซาบี เฮอร์นานเดซ, คาเรส ปูโยล, อันเดรียส อินเนสต้า ต่างก็เคยได้รับเงื่อนไขนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น เข้าใจว่าเงื่อนไขลักษณะนี้เป็นการให้เกียรติแก่นักฟุตบอลที่เป็นระดับไอคอนของทีม เพื่อให้นักเตะเหล่านี้ได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง เจ้าบุญทุ่มจะไม่ขายคุณ หากคุณไม่ต้องการให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น เมื่อตัดภาพมาปัจจุบัน ดูไม่เป็นอย่างนั้นเลยกับสิ่งที่ทีมทำกับเมสซี่
ชายคนนี้สร้างแต่คุณงามความดีให้กับองค์กร นำความสำเร็จเข้าสู่ทีม นำผลประโยชน์มากมายเข้ามาให้ทีม หากวันหนึ่งตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่เขาอยู่แล้วสบายใจ เราก็ควรเคารพการตัดสินใจของกันและกันไม่ใช่หรือ? ควรปฏิบัติกับเขาอย่างมีมิตรไมตรีไม่ใช่หรือ? หรือพวกคุณมองเมสซี่เป็นเพียงลูกจ้าง เป็นแค่เครื่องมือในการหาผลประโยชน์ ?? ท้ายที่สุดเราก็ได้แต่หวังว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดี แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าถามว่าผมเอาใจช่วยใครมากกว่ากัน ต้องบอกว่า“ทีมเมสซี่” แน่นอน
ปล.หากใครชอบบทความแบบนี้อย่าลืมกดแพล่บ หรือกดแนะนำกระทู้เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ
.
.
.
เขียนโดย FootballWorm