เวลาเที่ยวอยุธยาแต่ละครั้ง ไปไหว้หลวงพ่อมงคลบพิตรแล้วผมมักจะเข้าไปบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อด้วยเดินเข้าไปในเขตทางพระราชวังโบราณตรงประตูข้างสระแก้วเนื่องด้วยเป็นคนสนใจประวัติศาสตร์อยุธยา แต่ไม่ว่าไปกี่ครั้ง ก็จะมีแต่พวกผมที่เดินเข้าไป
ขนาดเป็นวันหยุดยาวนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศตรงบริเวณเจดีย์ 3 กษัตริย์ รวมทั้งวัดพระศรีสรรเพชญ์จะเยอะมาก แต่แทบไม่มีคนเดินเข้าไปชมเขตพระราชวังหลวงโบราณเลย เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้าใจ ทั้งที่ที่ตรงนี้เป็นที่มีความสำคัญมากเพราะเคยเป็นศูนย์กลางกาปกครอง ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของไทยที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน
ตอนละครบุพเพสันนิวาสบูมๆ เกศสุรางค์ก็ไม่ได้มาเรียนนอกสถานที่ที่พระราชวังหลวงเลย ทำให้คนไม่แห่มาถ่ายรูปตามรอยดังเช่นที่อื่นๆ
แต่ส่วนตัวก็เข้าใจได้ว่าพระที่นั่งต่างๆเหลือแต่ส่วนฐานแล้ว ซ้ำยังไม่มีบอกรายละเอียดข้อมูลให้เท่าไหร่ แถมบริเวณตรงนั้นก็กว้างมาก คนคงไม่อยากเดินตากแดดนานๆ
ทีนี้เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ดูสารคดีภาคภาษาอังกฤษเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อยุธยาของทีวีสิงคโปร์ข้างล่าง ซึ่งทางทีมงานศึกษาข้อมูลและนำเสนอได้ดีทีเดียว
และมีฉากหนึ่งที่ผู้ดำเนินรายการไปที่หมู่บ้านญี่ปุ่นโดยทางศูนย์หมู่บ้านญี่ปุ่นได้ให้แว่นตา VR พิธีกรมาด้วย เพื่อนำไปส่องที่ท่าน้ำ และได้เห็นภาพเสมือนจริงของวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่อยุธยาในยุคนั้น
ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมืองใหญ่ๆในต่างประเทศก็ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว เช่น โรม นักท่องเที่ยวจะได้แว่นตา VR คนละอันเพื่อใช้ส่องผ่านซากโบราณสถานและเห็นพระราชวังทองคำของกษัตริย์เนโรรวมทั้งภาพประวัติศาสตร์วิถีชีวิตที่เคยเกิดขึ้นจริงในสมัยโรมัน
ส่วนตัวคิดว่าเมื่อหมู่บ้านญี่ปุ่นทำได้ ทำไมพระราชวังหลวงจะทำไม่ได้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่ากรมศิลปากร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งภาคเอกชนฯลฯ ที่สนใจได้นำเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ น่าจะเป็นการกระตุ้นการเข้าชมพระราชวังหลวงอยุธยาเหมือนพระราชวังที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจที่ดีมากๆซ้ำยังก่อให้เกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไปในตัว ซึ่งหากประสบความสำเร็จอาจนำไปใช้ในสถานที่อื่นๆได้ เช่น วัดมหาธาตุ วัดพระราม วัดกุฎีดาว และวัดมเหยงคณ์ที่บันทึกกันว่างามมากด้วย
ปล.ส่วนตัวอยากที่จะะเห็นพระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ ส้วมชาววังและตลาดน้ำในวังหลวงมากหากมีการใช้ VR
จะกระตุ้นการท่องเที่ยวพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยาโดยใช้แว่น VR ได้ไหมครับ?
ขนาดเป็นวันหยุดยาวนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศตรงบริเวณเจดีย์ 3 กษัตริย์ รวมทั้งวัดพระศรีสรรเพชญ์จะเยอะมาก แต่แทบไม่มีคนเดินเข้าไปชมเขตพระราชวังหลวงโบราณเลย เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้าใจ ทั้งที่ที่ตรงนี้เป็นที่มีความสำคัญมากเพราะเคยเป็นศูนย์กลางกาปกครอง ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของไทยที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน
ตอนละครบุพเพสันนิวาสบูมๆ เกศสุรางค์ก็ไม่ได้มาเรียนนอกสถานที่ที่พระราชวังหลวงเลย ทำให้คนไม่แห่มาถ่ายรูปตามรอยดังเช่นที่อื่นๆ
แต่ส่วนตัวก็เข้าใจได้ว่าพระที่นั่งต่างๆเหลือแต่ส่วนฐานแล้ว ซ้ำยังไม่มีบอกรายละเอียดข้อมูลให้เท่าไหร่ แถมบริเวณตรงนั้นก็กว้างมาก คนคงไม่อยากเดินตากแดดนานๆ
ทีนี้เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ดูสารคดีภาคภาษาอังกฤษเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อยุธยาของทีวีสิงคโปร์ข้างล่าง ซึ่งทางทีมงานศึกษาข้อมูลและนำเสนอได้ดีทีเดียว
และมีฉากหนึ่งที่ผู้ดำเนินรายการไปที่หมู่บ้านญี่ปุ่นโดยทางศูนย์หมู่บ้านญี่ปุ่นได้ให้แว่นตา VR พิธีกรมาด้วย เพื่อนำไปส่องที่ท่าน้ำ และได้เห็นภาพเสมือนจริงของวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่อยุธยาในยุคนั้น
ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมืองใหญ่ๆในต่างประเทศก็ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว เช่น โรม นักท่องเที่ยวจะได้แว่นตา VR คนละอันเพื่อใช้ส่องผ่านซากโบราณสถานและเห็นพระราชวังทองคำของกษัตริย์เนโรรวมทั้งภาพประวัติศาสตร์วิถีชีวิตที่เคยเกิดขึ้นจริงในสมัยโรมัน
ส่วนตัวคิดว่าเมื่อหมู่บ้านญี่ปุ่นทำได้ ทำไมพระราชวังหลวงจะทำไม่ได้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่ากรมศิลปากร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งภาคเอกชนฯลฯ ที่สนใจได้นำเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ น่าจะเป็นการกระตุ้นการเข้าชมพระราชวังหลวงอยุธยาเหมือนพระราชวังที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจที่ดีมากๆซ้ำยังก่อให้เกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไปในตัว ซึ่งหากประสบความสำเร็จอาจนำไปใช้ในสถานที่อื่นๆได้ เช่น วัดมหาธาตุ วัดพระราม วัดกุฎีดาว และวัดมเหยงคณ์ที่บันทึกกันว่างามมากด้วย
ปล.ส่วนตัวอยากที่จะะเห็นพระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ ส้วมชาววังและตลาดน้ำในวังหลวงมากหากมีการใช้ VR