พ่อเลิกการพนันไม่ได้ เพราะต้องใช้หนี้?

จขกท. เป็นนักศึกษาปี4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อราว ๆ ตอนอยู่ปี 2 หรือ ปี 2561 พ่อจขกท. เริ่มติดการพนันออนไลน์อย่างหนักจากบอล และบาคาร่า
 
จขกท. สังเกตได้จากมีพฤติกรรมที่ติดโทรศัพท์มาก วัน ๆ ไม่ทำอะไร ก้มหน้าเล่นแม้ตอนขับรถ นอนโต้รุ่ง ด้วยความที่เป็นคนกลัวคุณพ่อมากในตอนนั้นทำให้ จขกท.ไม่มีความกล้ามากพอที่จะซักไซร้ให้ชัดเจน และจะได้ห้ามปรามได้ทัน ประกอบกับต้องกลับไปเรียนที่ต่างจังหวัด ทำให้ไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ช่วงนั้นได้เลย
 
โดยหลังจากเกิดเรื่องคุณพ่ออ้างว่าเพราะต้องหาเงินมาโปะค่ารถ และอยากหาเงินเยอะ ๆ เพราะอยากให้ครอบครัวสบาย
 
หนี้โดยรวมตอนนี้ ๆ ราว 2.5 ล้านบาท จากการเอาบ้านไปรีไฟแนนซ์ บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ(ญาติ) เพื่อเอามาเล่นการพนัน
โดยคนที่บ้านไม่ทราบมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้คุณพ่อมีอำนาจในการควบคุมเงินในบ้านแต่เพียงผู้เดียว(คุณแม่เป็นคนต่างชาติ ต้องพึ่งพิงอาศัยพ่อ)
 
โดยจากจุดเริ่มต้นหนี้การพนันในปี 2561 คุณพ่อยังไม่เลิกการพนัน โดยแอบเล่นมาโดยตลอด ดิฉันพึ่งทราบตอนกลางปี63 เพราะเอะใจเห็นเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างนอกจนถึง 5 ทุ่ม ไม่เข้ามาในบ้านสักที ด้วยความที่ฉันมีปมอยู่ในใจว่าถ้าตอนนั้นฉันออกแรงห้ามสุดตัวเรื่องอาจไม่เป็นอย่างนี้ ดิฉันบอกคุณพ่อเสมอถ้าพ่อสำนึกดิฉันพร้อมให้อภัย แต่ถ้ายังเล่นอยู่อย่างนี้ บอกตรง ๆ ดิฉันรับไม่ได้
 
ดิฉันจึงใจกล้าถามออกไปตรง ๆ แล้วขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ท่านก็ตีหน้าเศร้าบอกว่าทำเพื่อหาค่าข้าว? เล่นไฮโลตาละ 5 บาท 10 บาท
ดิฉันจึงตายใจ และขอให้ท่านรับปากว่าจะไม่เล่นอีก
 
ต่อมามีเหตุให้ฉันไปทราบรหัสการเข้าเฟสบุ๊ค อีเมลของท่านด้วยความบังเอิญ จากการไปช่วยเซ็ตค่าต่าง ๆ โทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ท่าน(ที่ดิฉันซื้อให้)
 
ดิฉันนึกเอะใจเลยแอบเข้าโทรศัพท์ของพ่อไปขอ statement บัญชีธนาคารของท่านทั้งหมดเข้าอีเมล ซึ่งทำให้ฉันตาสว่างมากที่พบว่าตลอดมาท่านเล่นมาโดยตลอดทุกเดือนหลักพัน ถึงหลักหมื่นหรือทั้งหมดของเงินเดือนท่าน!
 
อีกทั้งยังมารู้เพิ่มเติมว่าตลอดมาที่ท่านโทรศัพท์ขอเงินพี่น้องกำชับไม่ให้ดิฉันรู้(โดยไม่รู้ว่าดิฉันนั่งอยู่กับลุงๆป้าๆด้วย)
 
รวมถึงเงินเดือนดิฉันที่ท่านให้แล้วขอเรียกคืนครึ่งนึง(เหลือประมาณ 4000 บาทพร้อมหาเงินจ่ายค่าเทอม ค่าหอเอง)
โดยอ้างว่าเอาไปซ่อมนู่น นี่ นั่น จ่ายภาษี เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เมื่อฉันย้อนดูวันเวลาในไลน์กับในstatementมาเทียบกัน ซึ่งเขาเอาไปเติมการพนัน!
และพบว่าล่าสุดที่เงินเดือนออก ภายในวันเดียวเอาไปเล่นหมดแล้ว! ตอนแรกโอนเงินค่าซื้อโทรศัพท์มาให้แล้วก็ขอให้โอนกลับ!
 
ดิฉันจึงถามว่าเงินที่ขอให้โอนกลับเอาไปทำอะไร ท่านโกหกว่าเอาไปต่อทะเบียนภาษีรถที่ผลัดมาหลายเดือน ดิฉันเลยบอกไปว่าดิฉันทราบหมดแล้วจาก Statement ของท่าน ท่านเลยสารภาพและภาษีรถก็ยังไม่ได้ต่อ ฉันเลยบอกพ่อดิฉันช่วยพาไปหาหมอหรือโทรหาสายด่วนสุขภาพจิตไหม พ่อเป็นโรคเสพติดการพนันรึเปล่า? ท่านยืนยันว่าท่านไม่ได้เสพติดการพนัน?? ท่านเลยบอกจะให้ฉันช่วยควบคุมการเงินของท่านทั้งหมด ทั้งขาเข้า และขาออก
 
เดือนถัดมาท่านโอนเงินให้ฉัน 60% ดิฉันสังหรณ์ใจว่ามันต้องหมดแน่ ๆ เลยจี้ให้ท่านนำเงินไปเสียภาษีรถยนต์ ที่เหลือขอให้ทยอยเป็นอาทิตย์เพราะไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าเงินจะไม่หมดภายในวันเดียว และท่านต้องมาขอเงินเพิ่มอีก ซึ่ง 40% ถือว่าเยอะมาก ๆ กับการใช้ในชีวิตประจำวันท่านที่ใช้บัตรเติมน้ำมันบริษัท และห่อข้าวไปกินเองอยู่แล้วในทุก ๆ วัน
 
เดือนกค ไม่มีปัญหาอะไร จนเดือน สค ท่านไม่ได้โอนมาให้ฉันทั้งหมดตามที่ตกลง เพื่อแบ่งให้ท่านใช้รายอาทิตย์ ฉันก็ประนีประนอม คิดว่า โอเคเขาคงพอควบคุมได้แล้ว เพราะ3เดือนนี้ทะเลาะกันหลายรอบมาก สรุปว่า 12 สค มาขอเพิ่มบอกว่าเงินเหลือแค่ 1,500 บาท เพราะเอาไปซื้อหวยกับใช้จ่ายส่วนตัว? โดยบอกตรงๆว่าจะเอาไปเล่นบาคาร่าโดยจะเล่นอย่างมีสติ ตอนแรกฉันดึงดันจะไม่ให้ ท่านกลับบอกว่า เกินไปแล้วนะA ขอตรงๆ วันนั้นดิฉันทำงานเราพิมโทรศัพท์คุยกัน ดิฉันถึงกับร้องไห้ บอกว่า เงินเก็บท่านดิฉันจะไม่ให้นะ ได้ ถ้าอยากเล่นเอาเงินที่ลูกทำงานทั้ง 4 วันนี้ไปเลย จะรอดูว่าจะหามาคืนได้ไหม
โดยช่วงบ่ายของวันนั้นท่านก็โอนมาคืน ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ว่ายืมเงินคนอื่นมารึเปล่า
 
เหตุการณ์วันที่ 31 สิงหา ดิฉันไลน์ไปเตือนว่าอย่าลืมโอนเงินมาให้เก็บเหมือนทุกเดือน ท่านเดินขึ้นบ้านมาหาฉันด้วยหน้าเศร้าหมอง บอกว่า ใช้ไปหมดแล้ว!
ปกติที่บริษัทจะโอนเงินให้ทุกวันสุดท้ายของเดือน กลับโอนมาก่อน1วัน โดยฉันไม่รู้ แล้วท่านก็ไม่ยอมบอก อาศัยที่วันนั้นดิฉันไปทำงาน เล่นหมดไปในคราวเดียว! โดยบอกว่าโทรไปต่อรองกับหนี้บัตรเครดิตกับบริษัทเอกชนรายหนึ่งมา ซึ่งบริษัทต้องการ 250,0000 บาทภายในเดือน ก.ย. พ่อไม่มีทางเลือก ไม่งั้นเขาจะส่งฟ้องศาล จะยึดบ้าน รถ เราไป
 
ในใจของดิฉันตอนนั้ทั้งรักทั้งเกลียด เกลียดการที่ทำไมญาติพี่น้องทุกคนต้องมาเดือดร้อนทั้งหมด โดยเฉพาะย่าที่ดิฉันรักและอาศัยอยู่กับท่านตั้งแต่เด็ก ๆ (พึ่งย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่ตอนมหาวิทยาลัย)พลอยมาเกลียดดิฉัน เพราะท่านต้องยืมเงินคนรู้จักมาให้พ่อใช้หนี้นอกระบบครึ่งล้าน แล้วไม่มีปัญญาส่งเงินให้ย่าไปใช้คนที่ยืมมาจนทำให้ย่าต้องใช้เงินตัวเองและญาติพี่น้องทยอยผ่อน แรกๆคุณพ่อก็มีเงินผ่อน แต่ภายหลังโดนให้ออกจากงานจำนวนเงินน้อยลง ทำให้ผ่อนหนี้ของย่าไม่ได้ พ่อไม่กล้าสู้หน้าย่า เลยเงียบหายไปหลายเดือน(ตอนนั้นฉันเรียนอยู่ต่างจังหวัดพอดีไม่ได้เจอพ่อเลย) ทิ้งให้ย่าเครียดเพื่อหาเงินมาผ่อนใช้หนี้ ซึ่งคงเป็นสาเหตุที่ย่าเริ่มเกลียดครอบครัวของเรา
 
ดิฉันบอกถ้าพ่อเหนื่อยที่จะต้องหาเงินบ้าน รถให้เขาฟ้องพ่อล้มละลายเลย เราไปเช่าบ้านอยู่กันก็ได้ พ่อจะได้เลิกกดดันตัวเองอยู่ในวังวนการพนันเพื่อหาเงินมาใช้หนี้สักที แล้วเราก็หาทางใช้หนี้ย่าอย่างเดียว
 
อธิบายเพิ่มเติม หนี้บ้าน รถ ได้รับการเว้นการผ่อนชำระประมาณเดือนเมษาถึงสิงหา จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ฉันพยายามบอกพ่อให้เก็บเงินก้อนสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน อธิบายยังไงพ่อก็ไม่ฟังเลยค่ะ ใจร้อนอยากหาเงินก้อนเร็ว ๆ แล้วจบด้วยการบอกไม่มีทางเลือก กลับไปติดบ่วงการพนันทุกที
 
ดิฉันควรทำยังไงดีคะ ดิฉันใช้ชีวิตเป็นเดิมพันก็แล้ว(บอกตรง ๆ ดิฉันไม่กล้าฆ่าตัวตายหรอกค่ะ ดิฉันยังอยากสู้เพื่ออนาคตของตัวเองแต่เจอแบบนี้มันท้อจังเลยค่ะ) ดิฉันพยายามช่วยครอบครัว พยายามควบคุมพ่อแล้ว แต่ก็มีรูรั่วตลอด เตือนอะไรไปไม่ฟังเลยค่ะ ล่าสุดถ้าดิฉันไม่ให้เงินไปเล่น ท่านบอกท่านหมดหวังจะใช้หนี้ ท่านจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
 
พึ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก ถ้าหากสื่อสารไม่เข้าใจ หรือผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ รายละเอียดมันเยอะจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะคะ
ดิฉันรักคุณพ่อมาก ทำใจอยู่นานกว่าจะปรึกษาใคร จนมาตั้งกระทู้นี้ เพราะกลัวจะเป็นการประจานคุณพ่อ แต่นี่คือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นค่ะ

*แก้ไขคำผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่