โค้ชสอนฟุตบอล โบกมือลา โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษากับโรงพยาบาล Spine and Nerve Hospital

กระทู้นี้จะผมขอเล่าประสบการณ์จริงเกี่ยวกับโรคหมอนรองกระดูทับเส้นประสาทซึ่งแทบคิดไม่ถึงต้องมาผ่าตัดกับโรคนี้ จนวันนึงมาเกิดกับตัวผมเอง 
1) จุดเริ่มต้นเลย  ผมอายุ 41ปี มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนทำงานก็จะนั้งนานๆหลายๆชั่วโมงบางวันนั้งนานจนลืมลุกมากกว่า 3-4 ชม และขับรถทาง      ไกลนานๆยาวๆ และด้วยเป็นคนชอบกี่ฬาฟุตบอลก็จะมีสอนฟุตบอล เตะฟุตบอลบ่อยๆ เมื่อกลับถึงบ้านก็มีอาการปวดหลังบ่อยครั้ง ให้แฟนนวดบ้าง นวดแผนโบราณบ้าง อาการก็ไม่ได้หายขาด ก็กินซื้อยาคล้ายเส้น คลายกล้ามเนื้อ แก้อักเสบบ้างก็ไม่ดีขึ้นทรุดๆทรง ผมเรื่มมีอาการปวดหนักขึ้นเดือน พย 62 ผมก็ไปที่โรงพยาบาลเอกชนคุณหมอให้ ยามากิน แล้วหมดนัดมาใหม่สัปดาห์ถัดไป อาการก็ไม่ได้ดีหรือหาย มาพบหมออีกครั้ง มีการ X-Ray คุณหมอก็บอกว่าให้มากายภาพ และทานยาควบคู่กันไป เพื่อรักษาตามอาการรวม และเมื่อกินยาจากโรงพยาบาลที่ไปหา อาการก็ไม่หาย มันก็เกิดอาการปวดหลังอีกเราต่อเนื่องกันมากกว่า 10 ครั้ง และหาหมอวนไป ได้ยามากินวนไป พย 62 ถึง มค 63 ก็ไม่หายกลับ ปวดหลัง ปวดสโพก กระจายลงขา และมีอาการช้า เพิ่มมากขึ้น ยืนไม่นาน เดินได้นิดนหน่อย นอนปวด ลุกจากเตียงนอนปวด แสนทรมาร 
    จึงตัดสินใจบอกคุณหมอว่าผมทนไม่ไหวแล้วครับ ขอตัดสินใจผ่าตัด หมอให้เราไปทำ MRI และผลออกมาว่า หมอนรองกระดูกข้อ L4 L5 ปริ้นออกมากดทับเส้นประสาท หมอพยายามอธิบาย ถึงขั้นตอนการรักษาโดยผ่าตัด แบบส่องกล้อง กับ ไม่ส่องกล้อง ข้อแตกต่าง เป็นอย่างไร การผ่ามีความเสียงแบบใหน
วินาทีนั้น ยิ่งฟังก็ยิ่งกลัว ราคาค่าผ่าเกินหลายแสน คุณหมอให้เราไปตัดสินใจว่าจะผ่าวันใหน ก็แจ้งมาได้เลย
2) ค้นหาข้อมูล   ผมเริ่มค้นหาเกี่ยวกับผู้ที่มีประสบการณ์การผ่าตัด ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลที่ผมจะสามารถคุยได้อย่างสบายใจเลย รหว่างที่ค้นหา ปรากฏว่ามีข้อมูลที่ขึ้นมาโฆษณา เกี่ยวกับ โรงพยายาลเฉพาะทางด้านหลอนรองกระดูก ผมจึงเข้าไปอ่านหาความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัด
แบบส่องกล้อง (Endoscopic Spine Surgery) ข้อดีเป็นอย่างไรแตกต่างอย่างไรซึ่งแผลเล็กมากเท่าปลายนิ้วก้อย รวมถึงผ่าตัดแล้วค้างคืนเดียวสามารถกลับบ้านได้เลย ซึ่งคนไข้สามารถเดินได้ปกติหลังจากผ่าตัด ผมอ่านแล้ว จึงทำการโทรหา รพ ทันที่ จนท แนะนำให้ผมมาตรวจและพบคุณหมอก่อน
ปลายเดือน มค63 ผมได้ไปตามนัด ที่โรงพยายาบาลSpine and Nerve Hospital สิ่งแรกที่ผมประทับใจมาก คือ
1.จนท พยายาบาล นำรถเข็น เตียง มารอรับผมที่ประตูรถยนต์เลย 
2.จนท สุภาพดูแลเอาใจใส่ดีมาก มาพูดคุยสอบถามอาการเบื้องต้น คือเทคแคร์เราอย่างดี
หลังจากนั้น14:00 ได้พบคุณหมอ ชื่อ นพ เมธี ภัคเวช สุภาพมาก ยกมือไหว้ก่อนผมอีก คุณหมออธิบายจาก MRI เป็นอย่างไร รักษาอย่างไร ผ่าตัดแบบใหน บลาๆแน่นอนว่าหลังจากที่ฟังคำอธิบายข้อมูลแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าปลอดภัย โล้งอกสบายใจ ไร้ความกังวลมากๆ ผมเองก็คงเลือกแบบที่ 2 คือการผ่าตัดตัดหมอนกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้อง เพื่อให้ผมเจ็บน้อยที่สุด และหายดีในเร็ววัน เพื่อกลับมาเป็นปกติให้ได้
3.) ตัดสินใจ ผมตัดสินใจแน่วแน่เด็ดขาด โดยมีข้อมูลประกอบ เช่น
ประสบการณ์ของหมอ, เทคโนโลยีของเครื่องมือในการรักษา, การเดินทางไปที่โรงพยาบาล, การบริการจากสถานพยาบาลต่อคนไข้, Review ของคนที่เคยรักษาและหายขาด คือที่โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท - Spine and Nerve Hospital เหตุผลที่เลือกที่นี่เกิดจากหลายอย่างเหมือนกัน เช่น
- แพทย์ที่ทำการรักษาท่านจบมาเฉพาะทางเรื่องกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ
- ดูเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทำการรักษาก็เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย 
- การเดินทางไปโรงพยาบาลก็ไปง่ายขึ้นทางด่วนแล้วลงโชคชัย 4 ก็ถึงแล้ว
- ที่ขาดไม่ได้คือ Review จาก Facebook ของผู้ที่เคยไปรักษาและหายขาด ต้องขอบคุณที่มาแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเราและเราก็จะแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แบบนี้ให้กับคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน 
เมื่อเลือกโรงพยาบาลได้แล้ว ก็นัดหมอผ่า 

4.) ถึงโรงพยาบาลตอน 7โมงเช้า อดข้าวน้ำรอเลย  เมื่อถึงโรงพยาบาลผมประทับใจคือ การบริการของพี่ ๆ พยาบาลทุกคนที่ดูแลคนไข้เหมือนญาติตัวเอง
    นี่คือรูปผมเองที่กำลังจะเข้าพบหมอ และแอบหวั่น ๆ กับการผ่าตัด 
    https://postimg.cc/ThFdyqmV
ผ่าตัด เมื่อมาถึงวันผ่าตัด วันที่ 5 กพ 63 หมอให้งดน้ำ งดอาหารก่อนทำการผ่าตัด 8 ชั่วโมง และนอนที่ห้องพักที่โรงพยาบาลก่อนถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด นี่คือความพร้อมของคนไข้ในห้องพัก ห้องพักที่นี่ค่อนข้างใหญ่แบ่งเป็น 2 ส่วนใน 1 ห้องส่วนนึงคือห้องสำหรับคนไข้ และด้านนอกคือของญาติ มีอุปกรณ์ครัวครบครัน เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม ไมโครเวฟ รูปภาพ ห้องนอน
https://postimg.cc/gallery/x0sr8Wc

5.) ผ่าตัดเสร็จ พยายาบาลมารับตัวไปห้องผ่าตัด ประมาณ  6โมงเย็น เปลี่ยนเสื้อผ่า ตามขั้นตอนพยายาบาล ใจเต้น ตื่นเต้นมากๆ คุณพยาบาลชวนคุยตลอดให้ผ่อนคลาย  คุณหมอใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง และอยู่ในห้องเฝ้าระวัง ประมาณ 1 ชั่วโมง ผมสะลึมสะลือด้วยผลของยาสลบ และมีวิสัญญีแพทย์ช่วยในเรื่องการดมยาสลบก่อน และคุณหมอผ่าตัดโดยการส่องกล้อง ภาพพยายาบาล มาส่งที่ห้อง และ หมอนรองกระดูกที่ปริ้นออกมาทับเส้นประสาท ทั้งคืนพยายาบาลมาตรวจวัดไข้ ความดัน ยา ตลอดทั้งคืนตามเวลาที่คุณหมอกำหนดไว้
https://postimg.cc/gallery/9jwfN2k

6. กลับบ้าน   รุ่งเช้าผมตื่นมา ลองขยับขา ลองพยายามนึกอาการว่ามีความเจ็บหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีแล้ว ไม่เจ็บหลัง ไม่ชาขา คำว่า “ผ่าตัด 1 วัน วันรุ่งขึ้นกลับบ้านเดินได้เลย” มันเกิดขึ้นจริง เพราะผมตื่นเช้ามาหลังจากพักฟื้นมาทั้งคืน นอนเต็มอิ่มตื่นขึ้นมาลุกจากเตียงและเดินไปเข้าห้องน้ำได้ ผมก็ดีใจมากๆ
เริ่มหิวข้าวมาก เพราะเมื่อคืนผ่าตัดเสร็จไม่ได้ลุกขึ้นมากินข้าวเลย คงเพราะฤทธิ์ยาสลบจึงทำให้อยากนอนให้ร่างกายได้พักฟื้น
คุณหมอก็เข้ามาตรวจแผลก็บอกว่าปกติดี คุณหมอก็แนะนำวิธีการทำกายภาพบำบัดเมื่ออยู่ที่บ้านคุณหมอมาเยี่ยม ให้ผมลองลุกช้าๆเดินช้า  คุณหมออนุญาตให้ช่วงบ่ายกลับบ้านได้ รูปคุณมาเยี่ยมก่อนจะกลับบ้าน
https://postimg.cc/5Q2jgxgZ

รูปยืนยันว่าหลังจากผ่าตัด
https://postimg.cc/gallery/SxGQc50

ท่านใดที่ดู Review นี้แล้วอยากทำการรักษา อยากจะเข้าไปปรึกษาอาการ หรือพบคุณหมอ สามารถตามแผนที่นี้ได้เลยแนะนำว่าต้องโทรจองก่อนครับเข้าไปแบบไม่นัดอาจจะต้องรอนานเพราะคนเยอะมากๆ

ท้ายนี้บทความนี้ผมแชร์ประสบการณ์จริง เพื่อเป็นวิทยาทาน แก่ท่านที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

Coach Boy
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่