เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวมองโกเลีย เมื่อวันที่ 16 - 23 มีนาคม 2562 เป็นทริปที่ได้เปิดหูเปิดตาเปิดโลกมาก ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเหมือนกัน อยากจะมาแชร์ประสบการณ์เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ นะคะ
มองโกเลียเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ 30 วัน อากาศช่วงที่เราไปประมาณ -20 องศา ถึง 20 องศา หนาวแบบหาไม่ได้ที่ไทย ไม่ค่อยมีคนใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารสักเท่าไหร่ แอปที่เรามืติดมือถือไว้ ก็จะมีแอปแปลภาษาที่มีเสียงพูดให้ฟัง (mongolian), google maps, แอปแปลงสกุลเงิน (Currency) สกุลเงินที่นี่ใช้ (Tugrik) เทียบเป็นเงินไทย 10,000 T ตอนนั้นก็ประมาณ 120 บาทเอง
❀ วันที่ 1 : 16 มีนาคม 2562 ❀
ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทาง 3 คน พวกเราจองตั๋วของสายการบิน mongolia airlines MIAT จากสนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินเจงกิสข่าน (บินตรง)
ค่าตั๋วไป - กลับอยู่ที่ 23,020 บาท ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. กว่า ๆ สายการบินนี้ไม่มีเคาน์เตอร์นะ ต้องคอยดูเอาเองว่าเชคอินเคาน์เตอร์ไหน
อาหารบนเครื่องรสชาติไม่แย่ มีหูฟังแจกให้ เวลาไวกว่าไทย 1 ชม. ถ้าที่นั่งว่างยาว 3 เบาะตีตั๋วนอนเลย เมื่อยตูดสุด ๆ ก่อนลงจากเครื่องควรเตรียมพร้อมเสื้อกันหนาวไว้ด้วย
❀ วันที่ 2 : 17 มีนาคม 2562 ❀
ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้สนับสนุนหลักในทริปนี้ ซึ่งคือคุณลุง-คุณป้าของแฟนเราเอง เพราะคุณลุงมาทำงาน พวกเราเลยได้มาเที่ยวกันนน เย้ !!
ที่พัก(คุณป้า)อยู่อูลานบาตอร์ หลังจากทำการเปลี่ยนซิมมือถือและแลกเงินมองโกเลียที่คุณลุงเตรียมไว้ให้ พวกเราก็ออกมาเดินชื่นชมความหนาวเย็นรอบ ๆ ที่พัก วันแรกกับอากาศ -5 องศา ถ่ายรูปเล่น แวะห้างแถวนั้น (เราเรียกว่า ห้างโนมิน) แถวนี้มีร้านอาหารปิ้ง - ย่างสไตล์เกาหลีหลายร้านเลย สงสัยคงต้องมาฝากท้องสักมื้อ
ตอนบ่ายคุณป้าพาพวกเราไปกินอาหารที่โรงแรมแชงกรีล่า ขากลับพวกเราเลยขอเดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ ไม่ห่างจากที่พักมากนักเดินกลับมาเรื่อย ๆ จนถึง จตุรัสใจกลางเมืองอูลานบาตอร์ จัตุรัสซัคบาทาร์ (Sukhbaatar Square) ตรงนี้มีเด็ก ๆ มาวิ่งเล่นกัน กลุ่มคนนั่งชิล ๆ เยอะเลย เวลาประมาณ 1 ทุ่ม
เริ่มหนาวแล้ว น้ำมูกเริ่มมา มือแดงชา ขอตัวกลับไปพักก่อน
❀ วันที่ 3 : 18 มีนาคม 2562 ❀
วันนี้พวกเราจะไปวัดกานดาน (Gandan Monastery) ด้วยการเดินค่ะ เพราะขึ้นรถเมล์ไม่เป็น ก่อนไปเราแวะรองท้องด้วยเบเกอรี่ร้านนึง จากคำแนะนำของคุณป้า และ google maps พาให้เรามาถูกทาง อากาศหนาว ๆ นมร้อนสักแก้วคือดีมาก เราเดินเล่นกันมาเรื่อย ๆ ระยะทางก็พอสมควร ที่วัดมีค่าเข้าชม 4000 T ต่อคน (เงินไทยประมาณ 50 บาท) ถ้าจะถ่ายรูปพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ด้านในต้องจ่ายเพิ่มก็เลยไม่ได้ถ่าย บริเวณวัดมีหลายส่วนให้เข้าชมนะคะ ตอนเราจ่ายค่าเข้าจะมีแผนที่ให้ ข้างหน้าทางเข้ามีอาหารนกพิราบเป็นถุงขาย เหมือนที่ไทยเลย เจ้าพิราบทนความหนาวได้ดีนะเนี่ย
เที่ยวเสร็จแล้วเริ่มหิว ก็เดินกลับมาหาอะไรกินแถวที่พักกันต่อ จากคำแนะนำของคุณป้าเช่นเคย เรามากินอาหารกันที่ร้าน SUSHI NAGOMI ต้องบอกเลยว่าพวกเรารอดแล้ววว!! อร่อยมาก ให้กินทุกวันที่อยู่ที่นี่เลยก็ได้ มีชุดชาบู กับ ซูชิ กินกันจนพุงกาง สนนราคา 117,300 T คิดเป็นเงินไทยตกคนละ 400 กว่าบาท ได้ภาษามองโกเลียมาด้วย ตอนจะคิดเงินให้พูดว่า ทอ-ซอ พนักงานจะเข้าใจเลยหลังจาก bill please กันอยู่นานไม่สำเร็จ
เราแวะร้านกาแฟใต้ตึกที่พักอีกสักแปบเพื่อนับเงินที่เหลือ วันนี้เหมือนเป็นวันแรกที่พวกเราเพิ่งจะได้ใช้เงินกันจริง ๆ จัง ๆ ตอนเอาแบงค์ออกมาเหมือนเล่นเกมส์เศรษฐีเลย แบงค์เยอะมาก แบ่งไว้เป็นสัดส่วน เพราะพรุ่งนี้พวกเราจะได้ไปเที่ยวนอกเมืองกันแล้ว
ก่อนนอนคืนนี้มีหิมะตกด้วยโรแมนติกซะจริง ๆ
❀ วันที่ 4 : 19 มีนาคม 2562 ❀
ตื่นเช้าใส่ชุดกันหนาวหนา ๆ พร้อมออกไปตะลุย เราจะไปนอนเกอร์กัน วันนี้คุณลุงกับคุณป้าไปเที่ยวกับพวกเราด้วย มีรถมารับหน้าที่พัก ที่นี่ขับรถเลนขวา แต่จะใช้รถพวงมาลัยข้างไหนก็ได้ ขับออกมาสักพักเจอแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง แวะถ่ายรูปสักหน่อยแล้วค่อยไปต่อ
สถานีต่อไป Gorkhi-Terelj National Park มาชื่นชมธรรมชาติกันบ้าง ขอเรียกที่นี่ว่า อุทยานเทเรจจี้ มีค่าเอารถเข้าคันละ 1000 T ระหว่างทางไปอุทยาน ข้างทางจะมีให้จอดรถแวะถ่ายรูปกับเหยี่ยว/ขี่อูฐ พวกเราเลือกขี่อูฐกัน ค่าใช้จ่ายก็คนละ 5000 T (ประมาณ 60 บาท) อูฐตัวสูงกว่าที่คิดไว้แฮะ ขนไม่ได้แข็งแต่ก็ไม่ได้นิ่ม ฮ่าๆ มีคนเดินจูงวนรอบ ๆ ประมาณ 5 นาที ประสบการณ์ขี่อูฐครั้งแรกโยกเยกดี
ขับไปเรื่อย ๆ จอดแวะถ่ายรูปอีกครั้ง
โลเคชั่นต่อมา หินเต่า (Turtle rock) อีกหนึ่งโลเคชั่นที่ต้องมาเก็บในอุทยานเทเรจจี้ เขาว่าเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แถวนี้มีที่พักเยอะ ตอนฤดูร้อนใบไม้สีเขียว วิวจะต้องสวยมากแน่ ๆ เลย
เราแวะกินมื้อเที่ยงกันที่ TERELJ HOTEL โรงแรมหรูมาก ตกแต่งดี ห้องอาหารวิวแม่น้ำ(ที่ตอนนี้เป็นน้ำแข็ง) มีภาษาอังกฤษในเมนูอาหาร
ทานอาหารเสร็จไปจิบชายามบ่ายกันที่ REDROCK RESORT ที่นี่มีที่พักแบบเกอร์ด้วย
พวกเราตั้งใจจะไปพักที่ TERELJ STAR RESORT (หาข้อมูลออนไลน์กันเอง คิดว่าที่นี่น่าจะดี) แล้วความพีคก็เกิดขึ้น เมื่อที่นี่ ปิดอยู่ !! ต้องหาที่พักใหม่ สื่อสารกับพนักงานอยู่นาน กว่าจะเข้าใจว่าที่นี่ปิด(แต่จองออนไลน์ได้ - -?) มีพนักงานวัยรุ่นคนนึงแนะนำ(เป็นภาษาอังกฤษ)ให้ไปพักอีกฝั่ง พวกเรารีบไปฝั่งตรงข้ามเพราะกลัวจะปิดเหมือนกัน แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่นี่เปิดอยู่ คุณลุงคุณป้าส่งพวกเราเข้าพักแล้วก็กลับเข้าเมือง
มามองโกเลียไม่ได้นอนเกอร์ (GER) เหมือนมาไม่ถึง จริง ๆ นะ ลักษณะของเกอร์ก็จะเป็นกระโจมกลม ๆ ตอนแรกคิดว่าต้องสุมไฟทั้งคืนซะอีก ฮ่า ๆ แต่ที่พักเราเป็นฮีตเตอร์แล้วนะ กดปรับอุณหภูมิเอาได้เลย ชื่อที่พักก็คือ TERELJ MOUNTAIN LODGE (รูปหัวกระทู้คือรูปที่พักของพวกเราเอง) พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ มีห้องพักหลายแบบให้เลือกเลย เกอร์คืนละ 300,000 T (เงินไทย 3,600 บาท) รวมอาหารเช้า นอนได้ 4 คน มีทีวี ปลั๊กไฟบนหัวเตียง ชั้นวางรองเท้า รองเท้าใส่ในบ้าน ผ้าขนหนูผืนเล็ก แปรงสีฟัน สัญญาณมือถือพอโทรได้ ถ้านอนเกอร์ต้องไปเข้าห้องน้ำส่วนกลาง ที่พักมีห้องคาราโอเกะ กับห้องดูหนังด้วย จ่ายเพิ่มนิดหน่อย
เข้ามาที่พักค่าอุณหภูมิที่เค้าเปิดไว้ให้คือ 60 องศา ดึก ๆ จะมีคนของที่พักมาถามว่า ร้อนไหม? พวกเราก็ตอบไปอย่างพร้อมเพรียงว่าร้อนฮะ ปรับลงไปเป็น 40 องศาน่าจะได้ ความคนไทยจะอาบน้ำก่อนนอน (พวกเราถามเรื่องห้องอาบน้ำก่อนเข้าพัก) เขาเปิดให้ใช้ห้องน้ำของห้อง standard room เลย (ส่วนกลางไม่มีห้องอาบน้ำ) ห้องเป็นแบบสองชั้น ข้างล่างเป็นห้องน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่น) กับห้องนั่งเล่น ชั้นบนเป็นเตียงใหญ่ สำหรับนอน 2 คน ราคาเท่ากันกับเกอร์
มื้อดึกพวกเราขึ้นไปกินอาหารที่ชั้น 2 ของล็อบบี้ เมนูก็มีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เราสั่ง พิซซ่า เฟรนฟรายด์ สเต็ก ช็อคโกเเลตร้อน LongIsland น้ำเปล่า 4 ขวด หมดไป 70,700 T หารสามก็ยังคุ้ม พอเข้านอนตกดึกหลังจากปรับลดอุณหภูมิลง มันหนาวมากกก มีคนนอนไม่ได้ ต้องตื่นมาเพิ่มอุณหภูมิ 55555 เตือนเลยว่าอย่าหาทำ!!! รออยู่นานกว่าจะอุ่นขึ้น ต้องรีบนอนตุนพลังงานสักหน่อยเพราะพรุ่งนี้เราจะไปขี่ม้ากันนน~
เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตที่ **มองโกเลีย**
มองโกเลียเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ 30 วัน อากาศช่วงที่เราไปประมาณ -20 องศา ถึง 20 องศา หนาวแบบหาไม่ได้ที่ไทย ไม่ค่อยมีคนใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารสักเท่าไหร่ แอปที่เรามืติดมือถือไว้ ก็จะมีแอปแปลภาษาที่มีเสียงพูดให้ฟัง (mongolian), google maps, แอปแปลงสกุลเงิน (Currency) สกุลเงินที่นี่ใช้ (Tugrik) เทียบเป็นเงินไทย 10,000 T ตอนนั้นก็ประมาณ 120 บาทเอง
❀ วันที่ 1 : 16 มีนาคม 2562 ❀
ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทาง 3 คน พวกเราจองตั๋วของสายการบิน mongolia airlines MIAT จากสนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินเจงกิสข่าน (บินตรง)
ค่าตั๋วไป - กลับอยู่ที่ 23,020 บาท ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. กว่า ๆ สายการบินนี้ไม่มีเคาน์เตอร์นะ ต้องคอยดูเอาเองว่าเชคอินเคาน์เตอร์ไหน
อาหารบนเครื่องรสชาติไม่แย่ มีหูฟังแจกให้ เวลาไวกว่าไทย 1 ชม. ถ้าที่นั่งว่างยาว 3 เบาะตีตั๋วนอนเลย เมื่อยตูดสุด ๆ ก่อนลงจากเครื่องควรเตรียมพร้อมเสื้อกันหนาวไว้ด้วย
ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้สนับสนุนหลักในทริปนี้ ซึ่งคือคุณลุง-คุณป้าของแฟนเราเอง เพราะคุณลุงมาทำงาน พวกเราเลยได้มาเที่ยวกันนน เย้ !!
ที่พัก(คุณป้า)อยู่อูลานบาตอร์ หลังจากทำการเปลี่ยนซิมมือถือและแลกเงินมองโกเลียที่คุณลุงเตรียมไว้ให้ พวกเราก็ออกมาเดินชื่นชมความหนาวเย็นรอบ ๆ ที่พัก วันแรกกับอากาศ -5 องศา ถ่ายรูปเล่น แวะห้างแถวนั้น (เราเรียกว่า ห้างโนมิน) แถวนี้มีร้านอาหารปิ้ง - ย่างสไตล์เกาหลีหลายร้านเลย สงสัยคงต้องมาฝากท้องสักมื้อ
ตอนบ่ายคุณป้าพาพวกเราไปกินอาหารที่โรงแรมแชงกรีล่า ขากลับพวกเราเลยขอเดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ ไม่ห่างจากที่พักมากนักเดินกลับมาเรื่อย ๆ จนถึง จตุรัสใจกลางเมืองอูลานบาตอร์ จัตุรัสซัคบาทาร์ (Sukhbaatar Square) ตรงนี้มีเด็ก ๆ มาวิ่งเล่นกัน กลุ่มคนนั่งชิล ๆ เยอะเลย เวลาประมาณ 1 ทุ่ม
เริ่มหนาวแล้ว น้ำมูกเริ่มมา มือแดงชา ขอตัวกลับไปพักก่อน
❀ วันที่ 3 : 18 มีนาคม 2562 ❀
วันนี้พวกเราจะไปวัดกานดาน (Gandan Monastery) ด้วยการเดินค่ะ เพราะขึ้นรถเมล์ไม่เป็น ก่อนไปเราแวะรองท้องด้วยเบเกอรี่ร้านนึง จากคำแนะนำของคุณป้า และ google maps พาให้เรามาถูกทาง อากาศหนาว ๆ นมร้อนสักแก้วคือดีมาก เราเดินเล่นกันมาเรื่อย ๆ ระยะทางก็พอสมควร ที่วัดมีค่าเข้าชม 4000 T ต่อคน (เงินไทยประมาณ 50 บาท) ถ้าจะถ่ายรูปพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ด้านในต้องจ่ายเพิ่มก็เลยไม่ได้ถ่าย บริเวณวัดมีหลายส่วนให้เข้าชมนะคะ ตอนเราจ่ายค่าเข้าจะมีแผนที่ให้ ข้างหน้าทางเข้ามีอาหารนกพิราบเป็นถุงขาย เหมือนที่ไทยเลย เจ้าพิราบทนความหนาวได้ดีนะเนี่ย
เที่ยวเสร็จแล้วเริ่มหิว ก็เดินกลับมาหาอะไรกินแถวที่พักกันต่อ จากคำแนะนำของคุณป้าเช่นเคย เรามากินอาหารกันที่ร้าน SUSHI NAGOMI ต้องบอกเลยว่าพวกเรารอดแล้ววว!! อร่อยมาก ให้กินทุกวันที่อยู่ที่นี่เลยก็ได้ มีชุดชาบู กับ ซูชิ กินกันจนพุงกาง สนนราคา 117,300 T คิดเป็นเงินไทยตกคนละ 400 กว่าบาท ได้ภาษามองโกเลียมาด้วย ตอนจะคิดเงินให้พูดว่า ทอ-ซอ พนักงานจะเข้าใจเลยหลังจาก bill please กันอยู่นานไม่สำเร็จ
เราแวะร้านกาแฟใต้ตึกที่พักอีกสักแปบเพื่อนับเงินที่เหลือ วันนี้เหมือนเป็นวันแรกที่พวกเราเพิ่งจะได้ใช้เงินกันจริง ๆ จัง ๆ ตอนเอาแบงค์ออกมาเหมือนเล่นเกมส์เศรษฐีเลย แบงค์เยอะมาก แบ่งไว้เป็นสัดส่วน เพราะพรุ่งนี้พวกเราจะได้ไปเที่ยวนอกเมืองกันแล้ว ก่อนนอนคืนนี้มีหิมะตกด้วยโรแมนติกซะจริง ๆ
❀ วันที่ 4 : 19 มีนาคม 2562 ❀
ตื่นเช้าใส่ชุดกันหนาวหนา ๆ พร้อมออกไปตะลุย เราจะไปนอนเกอร์กัน วันนี้คุณลุงกับคุณป้าไปเที่ยวกับพวกเราด้วย มีรถมารับหน้าที่พัก ที่นี่ขับรถเลนขวา แต่จะใช้รถพวงมาลัยข้างไหนก็ได้ ขับออกมาสักพักเจอแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง แวะถ่ายรูปสักหน่อยแล้วค่อยไปต่อ
สถานีต่อไป Gorkhi-Terelj National Park มาชื่นชมธรรมชาติกันบ้าง ขอเรียกที่นี่ว่า อุทยานเทเรจจี้ มีค่าเอารถเข้าคันละ 1000 T ระหว่างทางไปอุทยาน ข้างทางจะมีให้จอดรถแวะถ่ายรูปกับเหยี่ยว/ขี่อูฐ พวกเราเลือกขี่อูฐกัน ค่าใช้จ่ายก็คนละ 5000 T (ประมาณ 60 บาท) อูฐตัวสูงกว่าที่คิดไว้แฮะ ขนไม่ได้แข็งแต่ก็ไม่ได้นิ่ม ฮ่าๆ มีคนเดินจูงวนรอบ ๆ ประมาณ 5 นาที ประสบการณ์ขี่อูฐครั้งแรกโยกเยกดี
ขับไปเรื่อย ๆ จอดแวะถ่ายรูปอีกครั้ง
โลเคชั่นต่อมา หินเต่า (Turtle rock) อีกหนึ่งโลเคชั่นที่ต้องมาเก็บในอุทยานเทเรจจี้ เขาว่าเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แถวนี้มีที่พักเยอะ ตอนฤดูร้อนใบไม้สีเขียว วิวจะต้องสวยมากแน่ ๆ เลย
เราแวะกินมื้อเที่ยงกันที่ TERELJ HOTEL โรงแรมหรูมาก ตกแต่งดี ห้องอาหารวิวแม่น้ำ(ที่ตอนนี้เป็นน้ำแข็ง) มีภาษาอังกฤษในเมนูอาหาร
ทานอาหารเสร็จไปจิบชายามบ่ายกันที่ REDROCK RESORT ที่นี่มีที่พักแบบเกอร์ด้วย
พวกเราตั้งใจจะไปพักที่ TERELJ STAR RESORT (หาข้อมูลออนไลน์กันเอง คิดว่าที่นี่น่าจะดี) แล้วความพีคก็เกิดขึ้น เมื่อที่นี่ ปิดอยู่ !! ต้องหาที่พักใหม่ สื่อสารกับพนักงานอยู่นาน กว่าจะเข้าใจว่าที่นี่ปิด(แต่จองออนไลน์ได้ - -?) มีพนักงานวัยรุ่นคนนึงแนะนำ(เป็นภาษาอังกฤษ)ให้ไปพักอีกฝั่ง พวกเรารีบไปฝั่งตรงข้ามเพราะกลัวจะปิดเหมือนกัน แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่นี่เปิดอยู่ คุณลุงคุณป้าส่งพวกเราเข้าพักแล้วก็กลับเข้าเมือง
มามองโกเลียไม่ได้นอนเกอร์ (GER) เหมือนมาไม่ถึง จริง ๆ นะ ลักษณะของเกอร์ก็จะเป็นกระโจมกลม ๆ ตอนแรกคิดว่าต้องสุมไฟทั้งคืนซะอีก ฮ่า ๆ แต่ที่พักเราเป็นฮีตเตอร์แล้วนะ กดปรับอุณหภูมิเอาได้เลย ชื่อที่พักก็คือ TERELJ MOUNTAIN LODGE (รูปหัวกระทู้คือรูปที่พักของพวกเราเอง) พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ มีห้องพักหลายแบบให้เลือกเลย เกอร์คืนละ 300,000 T (เงินไทย 3,600 บาท) รวมอาหารเช้า นอนได้ 4 คน มีทีวี ปลั๊กไฟบนหัวเตียง ชั้นวางรองเท้า รองเท้าใส่ในบ้าน ผ้าขนหนูผืนเล็ก แปรงสีฟัน สัญญาณมือถือพอโทรได้ ถ้านอนเกอร์ต้องไปเข้าห้องน้ำส่วนกลาง ที่พักมีห้องคาราโอเกะ กับห้องดูหนังด้วย จ่ายเพิ่มนิดหน่อย
เข้ามาที่พักค่าอุณหภูมิที่เค้าเปิดไว้ให้คือ 60 องศา ดึก ๆ จะมีคนของที่พักมาถามว่า ร้อนไหม? พวกเราก็ตอบไปอย่างพร้อมเพรียงว่าร้อนฮะ ปรับลงไปเป็น 40 องศาน่าจะได้ ความคนไทยจะอาบน้ำก่อนนอน (พวกเราถามเรื่องห้องอาบน้ำก่อนเข้าพัก) เขาเปิดให้ใช้ห้องน้ำของห้อง standard room เลย (ส่วนกลางไม่มีห้องอาบน้ำ) ห้องเป็นแบบสองชั้น ข้างล่างเป็นห้องน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่น) กับห้องนั่งเล่น ชั้นบนเป็นเตียงใหญ่ สำหรับนอน 2 คน ราคาเท่ากันกับเกอร์