สวัสดีค่า เพื่อนร่วมทริปที่น่ารักของเราทู้กกกกกกคน
หลังจากที่หายยยยยยย Zzzzzzz ไปนานมาก (แต่เราก็คิดถึงพันทิปทุกวันนะคะ)
วันนี้ก็ได้ฤกษ์บิ้วอารมณ์เขียนทริปต่อซักที และหนึ่งในทริปที่ค้างไว้ก็คือ ทริปอินตะระเดีย (ส่ายหัวด้วยนะ)
เราอยากจะบอกทุกคนว่า ทริปนี้มหากาพย์มากๆเลยค่ะ ทุกคนต้องเสียสละเวลาให้เราเยอะๆนะคะสำหรับทริปนี้
เพราะอินเดียทำให้เรามึนมาก แล้วเราก็อยากให้ทุกคนอินเหมือนเรา ฉะนั้นเราต้องไปมึนด้วยกันนะจ๊ะที่รัก ม่ะ!!
เราใช้เวลาในการเตรียมตัวสองเดือนก่อนเดินทาง คือเริ่มตั้งแต่ เดือนเมษา
อาการมันมีอยู่ว่า จู่ๆแม่ซื้อก็มากระซิบข้างๆหูว่าอยากไปเที่ยวเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย
เราก็ เอ๊ะ เราก็อยากไปมานานแล้ว งั้นวันหยุดที่จะถึงนี้เราจะไปอินเดียละกัน
เมื่อตัดสินใจปุ๊ป ก็ไปเปิดหาตั๋วเลยค่ะ ทะแด้นนนนนนน ปั๊ก!!
เราบินตรงไปเลห์ไม่ได้แฮะ เราต้องไปต่อเครื่องที่เดลีก่อน แล้วเราก็กดหาตั๋วจนมือหงิกมากวันนั้น
แล้วก็ได้ราคามา กทม เดลี เลห์ เดลี กทม ราวๆสองหมื่น
สองหมื่น !! ไม่ค่ะ มันเกินงบ เราจะไม่จอง เรางก ข้ามๆ รอก่อน
ในระหว่างนั้นก็ดูโรงแรมไปก่อน ตอนนั้นเรารู้แล้วว่าจะไปช่วงไหน เราก็เลยกดหายาวๆไป
จนอาทิตย์นั้นเราตื่นเต้นมาก ดูรีวิวเยอะมาก กดดูทั้งอาทิตย์ แล้วก็ได้มาสองที่ที่เลห์
กดจองไปละ เรียบร้อย (มันยกเลิกฟรี) กลัวว่ามันจะเต็มก็เลยจองไปก่อน
เดี๋ยว!!! เราลืมอะไรไปรึเปล่า เราจองที่พักไปแบบพักสองคนนะ (นั่นคือเราจะจองให้แม่ซื้อหรอว้า)
บ้าบอ แกจะไปอินเดียกับแม่ซื้อสองคน ไม่ ! ได้ !
เอ๊ะ นี่เราไม่ได้คิดจะไปอินเดียคนเดียวใช่ป่ะ ไม่นะ ไม่..
(ใช่ค่ะ เราคิด แต่...แม่ซื้อห้ามไว้ "อย่าเลยลูก หาเพื่อนไปเถอะ แม่ขอร้อง" )
แล้วเราก็ตัดสินใจเชื่อแม่ซื้อ เรามิกล้าไปเสี่ยงกับเมืองแขกคนเดียว เรายังอยากเที่ยวประเทศอื่นต่อ
เพราะฉะนั้น ปฏิบัติการต่อไปก็คือ ไปหลอกเพื่อนมาจอยทริปกับเรา
ฮั่นแน่ มันไม่ง่ายเลยค่ะทุกคน อินเดียเนอะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น
เชื่อมั๊ยคะ (เชื่อเถอะ) ว่าทักไปกี่คน ส่ายหัวหมดเลยยยยย
"แกจะบ้าหรอ อินเดียยยยย? ไม่อ่ะ"
"ห๊ะ อินเดีย? โนๆๆ"
.........
ไม่มี ไม่มีเลย ไม่มีใครไปกับเราเลยค่ะ
แต่ทันใดนั้นก็เหมือนได้ยินเสียงกระซิบจากแม่ซื้อ(อีกแล้ว)
"พี่นิไง พี่นิๆๆ"
เห้ยยยย ใช่!!! นี่เราลืมพี่นิไปได้ไง
ประโยคแรกที่ทักไปหาพี่นิ คือ
"น้องอยากไปเลห์ ลาดัก ที่อินเดียค่ะ กำลังหาเพื่อนไปซักอาทิตย์นึง สนป่าวๆ"
แล้วคำตอบที่ได้คือ "สนๆ"
แค่นั้นแหละ เราก็เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์สว่างขึ้นมาทันที
เราตั้งงบไว้ 10วัน ไม่เกิน 35,000บาท (รวมทุกอย่าง)
พอบอกพี่นิเรื่องงบปุ๊บ "โอเคค่ะ พี่ไปนานแค่ไหนก็ได้ ตามงบ พี่สะดวกทุกสิ่งอย่าง"
อยากจะกรี๊ด เรามีเพื่อนไปอินเดียแล้วจ้า
"น้องจองตั๋วที่พักละนะ เดี๋ยวให้เลือกว่าชอบอันไหน" (สรุปพี่นิก็ให้เราตัดสินใจเองทั้งหมด)
ส่วนเรื่องตั๋ว ตอนนั้นดูไปดูมาเหลือหมื่นแปด
แต่กะว่าจะรออีกหน่อย ทำไปทำมาได้มา 15,790บาท ทั้งหมด 4 เที่ยวบิน ก็โอเคเลยนะ
นี่คือเที่ยวบินที่เราเลือกไปค่ะ
เราทำการบ้านส่งรายละเอียดทั้งหมดดู Itinerary อย่างละเอียดของทุกวัน พร้อมทั้งราคาค่าเข้าของแต่ละที่
รวมทั้งที่พักด้วย ทำส่งไปให้เป็น pdf เรียบร้อย (นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เราทำแผนการเดินทาง ฮ่าๆ)
หน้าตาประมาณนี้ มีรูปประกอบด้วย พี่เค้าจะได้นึกภาพ และเตรียมชุดถูก (ข้อนี้ควรบอกตัวเอง 55)
อ่อๆ ลืมบอกไปค่ะว่าเรามีเดินทางด้วยรถไฟระหว่างเมืองด้วย
ฮั่นแน่ ตื่นเต้นล่ะสิ พอพี่นิรู้ว่าต้องขึ้นรถไฟอินเดียแค่นั้นแหละจ้า "ห๊ะ รถไฟด้วยหรอ? จะดีหรอ? "
"เอาน่าพี่นิ ไหนๆก็ไหนๆละ ลองนั่งซักหน่อย เดี๋ยวน้องจองที่แพงสุดให้เลย ไม่ต้องกลัว"
พี่นิฟังแล้วก็ "อะเครๆๆ ได้ๆๆ"
เรื่องจองตั๋วรถไฟเราติดต่อพี่คนนึงที่อยู่อินเดียให้จองให้ โอนเงินไปให้เค้า แล้วพี่เค้าจะส่งตั๋วอิเล็กทรอนิกส์มาให้ เราก็เอาไปยื่นขึ้นรถไฟได้เลย สะดวกมากค่ะ ถ้าใครอยากได้คอนแทค หลังไมค์มาได้นะคะ
วีซ่าขอเป็นแบบออนไลน์ E-Tourist visa ของ่ายมาก ไม่เกิน3วันอนุมัติละ ได้มา60วัน เดี๋ยวแนบลิงค์ไว้ให้นะคะ ถ้าใครมีคำถาม หลังไมค์มาโลดจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแล้ววันที่เรารอคอยก็มาถึง เรามีกระเป๋าลากใบ 24" และเป้อีก 2ใบ กะจะไปแบบสบายๆไม่ทรหด
ตื่นเช้ามากกกกกก เพราะไฟล์ท 8:35 Jet airways ได้น้ำหนักกระเป๋า 30kg ใช้เวลาบิน4.35 ชม
ไปถึงเดลีก็ราวๆเที่ยงพอดี
โอ้วววว ทั้งลำมีแต่แขกทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ
ตอนเครื่องแลนดิ้งตื่นเต้นมากค่ะ เราจะต้องเจอเจ้าหน้าที่แขก หน้าโคดดดดดุ
ขาเข้าตม. ตำรวจอินเดียหน้าเหมือนกันทุกคนเลยค่ะเพื่อนๆ หน้าขรึมๆ ยืนต้อนรับเราแต่ไม่ยิ้มเลย
เราไปยืนต่อแถวอยู่พักใหญ่ เพิ่งเหลือบไปเห็นด้านขวามือว่ามีช่องให้คนที่ยื่นเป็น E-tourist visaด้วย
โถ่ๆๆ วิ่งไปสิ ยื่นปุ๊บ ยิ้มงามๆอย่างไทยให้ทีนึง และแล้วก็ผ่านมาอย่างง่ายดาย
พอมาก้าวเท้าออกมาจากสนามบินแค่นั้นแหละจ้า พรึ่บ!! อาการเหมือนโดดแดดตบหน้า
แม่เจ้า! นี่อินเดียหรือนรก? คิดถึงพ่อเลย "แด๊ดดี๊" (มุขๆ) แดดดีเหลือเกินนนนนน
ทุกคนคะ คิดว่าอยู่ไทยร้อนแล้วชิมิ ทุกคนคิดผิดค่ะ เดือนมิถุนายน ประเทศอินเดียแลนด์
อุณหภูมิ 40+ คือร้อนแสบก้านสมองมากเลยค่ะ มันร้อนแบบแห้งๆ ไม่เหมือนบ้านเราเลย
อีกอย่างมีค่ามลมิษสูงมาก ดังนั้น แมสปิดหน้าอย่าลืมเอามาด้วยนะคะ
ณ จุดๆนี้ พี่ว่ากันแดด UV 1000 ก็ไม่น่าช่วยได้ ยอมรับชะตาไปเลยค่ะ
บ่นยาวมากเรื่องแดด แหม่ ทำอย่างกะตัวเองบินมาจากสวิสเนอะ ฮ่าๆๆๆ
หันหน้ามองพี่นิ เราต้องรอดเนอะ ป่ะ จากนั้นก็เดินไปหาแท็กเข้าโรงแรมกันค่ะ
พี่นิบอก "น้องนำเลยพี่ตามน้อง"
แค่นั้นแหละ เราก็โดนคนขับแท็กมารุมสัมภาษณ์เราหนักมาก
"แต๊กซี่ ? โฮ เต้ล? แต๊ก ซี่? โฮ เต้ล? "
กว่าจะฝ่าฝูงชนคนขับมาได้ เราเกือบเป็นลม ทั่งร้อน ทั่งเหม็น (อูปส์) จุ๊ๆค่ะ
เราเดินไปหาแท็กของสนามบิน ซึ่งทำการบ้านมาก่อนแล้วว่าจะต้องไปที่ห้องเล็กๆตรงนั้น เหมือนบ้านเรานั่นแหละค่ะ
บอกเค้าว่าจะไปที่ไหน เค้าก็เรียกรถมาตามคิวให้
พอรถแล่นออกมาจากสนามบินแปบบบบนึง มีคนโบกรถเราค่ะ
แล้วเขาก็คุยกับคนขับส่ายหัวไปส่ายหัวมา แล้วก็ขึ้นมานั่งบนรถเฉ้ย
เอ้า เห้ยยย นี่รถเราเหมามานี่นา พี่ชายขึ้นมาทำไม
แต่เรากับพี่นิก็ไม่ได้ถามอะไรหรอกนะ เค้าคงติดรถไปลงกลางทาง
แล้วก็จริงด้วย จ่ายเงินด้วยนะเออ แหม่ คนขับได่เบิ้ลเลยนะจ๊ะพี่
นั่งๆ เราก็เริ่มตื่นเต้นที่จะได้เห็นเมืองนิวเดลี รถติดดีแท้ ไม่แพ้กรุงเทพเลยจ่ะ
แต่ที่กรุงเทพแพ้พี่อินเดียก็คือ เสียงแตรจ่ะ บีบแตรราวกับญาติจะตายรีบพาส่งโรงบาลมากค่ะ
บีบกันเป็นธรรมเนียมทุกคันจริงๆ หูชามาค่ะบอกเลย
แต่....ทุกคนคะ เราใช้เวลาในการตื่นเต้นเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเองค่ะ
เพราะมันร้อนนนนนนนนนนนนมากจริงๆ เรานั่งภาวนาให้ถึงที่พักไวๆเลย
พอถึงที่พักแค่นั้นแหละ ขออาบน้ำทันที เราพักไม่ไกลจากสนามบินมากนัก
เพราะวันที่สองต้องบินไปเลห์ต่อเลย วันนี้ก็เที่ยวเล่นในเดลีไปก่อน
หลังจากพักได้แปบนึง เราก็เดินลงไปที่เคาน์เตอร์ที่พัก
ใช้บริการของโรงแรมที่เราติดต่อจองมาล่วงหน้า
One day trip 1600 rs. (สถานที่ 4 แห่ง)
แพลนเที่ยวในเดลีวันนี้คือ Qutub Minar, india gate, Red fort , Akshardham Temple
เราจะไม่พูดมากแล้วนะคะ เพราะมันร้อนมาก ให้ทุกคนไปชมรูปเองเลยละกัน
ถ่ายมาแบบรีบไปหาที่หลบแดดมาก 5555
แต่ก็สวยนะ สถาปัตยกรรมบ้านเค้า และที่สำคัญ ผู้ชายอินเดียเยอะจริงๆ
แล้วพอเราที่เป็นต่างชาติเดินเข้าไป โอ้โหหหห ทุกคนดูตื่นเต้นกับเรามาก เด็กก็เยอะมาก มาเล่นมาถ่ายรูปกับเรา
เอาจริงๆ คนอินเดียหน้าดุก็จริง แต่พอเค้ายิ้มแค่นัhนแหละ เค้าน่ารักมากเลย ใจดีด้วย ใจดีมากกกกก
ไม่รู้เพราะว่าเค้ามีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเหมือนบ้านเราหรือเปล่านะ ถึงทำให้เค้าเป็นคนมีน้ำใจ ชอบยิ้ม
(นอกจากพี่ตำรวจในสนามบิน) ทุกคนดูอัธยศัยดี ไม่มีพิษมีภัยเหมือนคำเลื่องลือที่ได้ยินมากเลย
และสิ่งนี่เอง ที่ทำให้เราเปิดใจรับประเทศอินเดีย นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายอย่าง
เดี๋ยวจะค่อยๆบอกนะคะว่าทำไมเราถึงเปิดใจให้อินเดีย
นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น
[CR] อินเดียแลนด์แดนต้องมนต์ (ใครไม่รัก ฉันรักอินเดีย) เดลี-เลห์-ชัยปุระ-อัครา EP.1
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้