ได้ฉายซะทีครับ กับหนังที่หลายคนรอคอยเพื่อจะชมความอัศจรรย์ของ Christopher Nolan ที่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมาล้ำลึกแค่ไหน กับพล็อตหนังที่จะเรียกว่าเชยก็ว่าได้ กับหนังสายลับจารชน ที่มาเล่นกับเรื่องของ Loop เวลาที่ย้อนไปย้อนมา ดูแกนหลักของหนังคร่าวๆ แล้วไม่น่าจะมีอะไรใช่มั๊ยล่ะ แต่ขอบอกว่า มันมีอะไรลึกล้ำกว่าที่คิดเยอะมากจากความเป็น “พ่อโนแลน” ของทุกคน
เรื่องราวของตัวเอก (ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ เรายังไม่รู้ชื่อตัวละครเลย)ที่ถูกดึงเข้ามาพัวพันกับการปกป้องโลกจากอาชญากรที่คิดจะใช้อุปกรณ์ไฮเทคย้อนเวลาทำลายล้างโลกให้สิ้นไป ซึ่งตัวเอกของเราจะต้องร่วมมือกับ “นีล” เพื่อตามหาชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายกลับมาให้ครบ โดยทั้งสองจะต้องเจอกับการย้อนเวลาในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน
สารภาพแบบไม่อายว่า หนังครึ่งแรกผมดูแล้วงงแบบเรียกได้ว่าไม่รู้เรื่องเลยดีกว่า หนังตัดย้อนไปย้อนมาแบบไวมาก ซึ่งมันอาจจะเป็นกิมมิคของโนแลนที่พยายามจะทำให้คนไม่เข้าใจ ก่อนที่จะมาค่อยๆ เฉลยเรื่องราวออกมาเป็นสเต็ปแล้วก็ ตู้มมมม เปิดทุกอย่างออกมาแบบให้คนดูเหวอกันไปเลย เหมือนกับที่เขาเคยทำมาแล้วในหนังหลายๆ เรื่อง อย่างที่เด่นๆ เลยก็คือ Inseption และ Interstella ที่ผ่านมา
ช่วงครึ่งแรกหนังแทบจะไม่ได้อธิบายอะไรเลย มีแต่แอ็คชั่นสืบสวนตามเรื่องราว และวางแผนโจรกรรมกันไปมา บทพูดก็เยอะและศัพท์ยากๆ ออกมาเต็มจนง่วงนอน จนมาถึงช่วงที่ครึ่งหลังของหนังที่พอหนังเริ่มค่อยๆ เฉลยปมออกมา หนังกลับสนุกขึ้นแบบพลิกฝ่ามือจนไม่สามารถละสายตาจากจอได้ เพราะการที่เราไม่รู้อะไรเลยนี่แหละหนังมันจะค่อยๆ เฉลยสิ่งที่เราสงสัยอยู่ในตอนต้นออกมาให้เราเหวอขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตรงตามคำพูดที่หนังเน้นอยู่ตลอดเวลาว่า “การไม่รู้คืออาวุธของพวกเรา” ซึ่งการไม่รู้เรื่องหนังเลย มันคืออาวุธที่หนังจะโจมตีให้คนดูรู้สึกถึงความสุดยอดและความลึกล้ำของหนังนี่แหละ
ซึ่งองค์ประกอบสำคัญคงหนีไม่พ้นไอเดียและมุมมองที่บรรเจิดและไม่เหมือนใครของ Christopher Nolan นี่แหละที่ทำให้พล็อตหนังสายลับธรรมดาๆ ที่ออหจะเชยด้วยซ้ำ มากลายเป็นหนังที่ดูสนุกและแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครจนหลายคนที่ดูจบออกมาแล้วต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โคตรล้ำ เพราะหนังมันล้ำจริงๆ ซึ่งไม่น่าจะมีใครคิดอะไรแบบนี้ได้นอกจากผู้กำกับคนนี้คนเดียว
ซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องจะล้ำมากแล้ว งานโปรดักชั่นก็ไม่มีทางเสียชื่ออยู่แล้ว งานภาพออกมาได้สวยงามเนียนตามากๆ สีสันในแต่ละฉากมันเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังสนุกมาก ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ก็ระเบิดตึกตูมตามยิ่งใหญ่สมราคา บวกกับเทคนิคฉากแอ็คชั่นที่ทั้งเดินหน้าและถอยหลังสลับกกันไปมา รับรองว่าดูและสนุกและแปลกตากว่าเรื่องอื่นที่เคยดูมาแน่นอน
ก็อย่างที่จั่วหัวไปแหละครับว่า ผมสารภาพเลยว่า ครึ่งแรกของหนังผมดูแทบจะไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอครึ่งหลังหนังเริ่มเฉลยออกมาเรื่อยๆ มันทำให้ผมลืมความง่วงในครึ่งแรกไปเลย แล้วกลายเป็นหลงรักหนังเรื่องนี้แทนหลังจากที่ดูจบและหนังก็ปิดฉากได้ดีเยี่ยมพร้อมกับสร้างความเหวอให้ในตอนที่เฉลยปมออกมา...เยี่ยมครับ
ถ้าชอบบทความ ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] Tenet - ครึ่งแรกงง ครึ่งหลังเจอความล้ำลึกของโนแลน ที่ทำให้แตกต่างจากหนัง Loop Timeline เรื่องอื่นอย่างชัดเจน
ได้ฉายซะทีครับ กับหนังที่หลายคนรอคอยเพื่อจะชมความอัศจรรย์ของ Christopher Nolan ที่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมาล้ำลึกแค่ไหน กับพล็อตหนังที่จะเรียกว่าเชยก็ว่าได้ กับหนังสายลับจารชน ที่มาเล่นกับเรื่องของ Loop เวลาที่ย้อนไปย้อนมา ดูแกนหลักของหนังคร่าวๆ แล้วไม่น่าจะมีอะไรใช่มั๊ยล่ะ แต่ขอบอกว่า มันมีอะไรลึกล้ำกว่าที่คิดเยอะมากจากความเป็น “พ่อโนแลน” ของทุกคน
เรื่องราวของตัวเอก (ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ เรายังไม่รู้ชื่อตัวละครเลย)ที่ถูกดึงเข้ามาพัวพันกับการปกป้องโลกจากอาชญากรที่คิดจะใช้อุปกรณ์ไฮเทคย้อนเวลาทำลายล้างโลกให้สิ้นไป ซึ่งตัวเอกของเราจะต้องร่วมมือกับ “นีล” เพื่อตามหาชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายกลับมาให้ครบ โดยทั้งสองจะต้องเจอกับการย้อนเวลาในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน
สารภาพแบบไม่อายว่า หนังครึ่งแรกผมดูแล้วงงแบบเรียกได้ว่าไม่รู้เรื่องเลยดีกว่า หนังตัดย้อนไปย้อนมาแบบไวมาก ซึ่งมันอาจจะเป็นกิมมิคของโนแลนที่พยายามจะทำให้คนไม่เข้าใจ ก่อนที่จะมาค่อยๆ เฉลยเรื่องราวออกมาเป็นสเต็ปแล้วก็ ตู้มมมม เปิดทุกอย่างออกมาแบบให้คนดูเหวอกันไปเลย เหมือนกับที่เขาเคยทำมาแล้วในหนังหลายๆ เรื่อง อย่างที่เด่นๆ เลยก็คือ Inseption และ Interstella ที่ผ่านมา
ช่วงครึ่งแรกหนังแทบจะไม่ได้อธิบายอะไรเลย มีแต่แอ็คชั่นสืบสวนตามเรื่องราว และวางแผนโจรกรรมกันไปมา บทพูดก็เยอะและศัพท์ยากๆ ออกมาเต็มจนง่วงนอน จนมาถึงช่วงที่ครึ่งหลังของหนังที่พอหนังเริ่มค่อยๆ เฉลยปมออกมา หนังกลับสนุกขึ้นแบบพลิกฝ่ามือจนไม่สามารถละสายตาจากจอได้ เพราะการที่เราไม่รู้อะไรเลยนี่แหละหนังมันจะค่อยๆ เฉลยสิ่งที่เราสงสัยอยู่ในตอนต้นออกมาให้เราเหวอขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตรงตามคำพูดที่หนังเน้นอยู่ตลอดเวลาว่า “การไม่รู้คืออาวุธของพวกเรา” ซึ่งการไม่รู้เรื่องหนังเลย มันคืออาวุธที่หนังจะโจมตีให้คนดูรู้สึกถึงความสุดยอดและความลึกล้ำของหนังนี่แหละ
ซึ่งองค์ประกอบสำคัญคงหนีไม่พ้นไอเดียและมุมมองที่บรรเจิดและไม่เหมือนใครของ Christopher Nolan นี่แหละที่ทำให้พล็อตหนังสายลับธรรมดาๆ ที่ออหจะเชยด้วยซ้ำ มากลายเป็นหนังที่ดูสนุกและแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครจนหลายคนที่ดูจบออกมาแล้วต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โคตรล้ำ เพราะหนังมันล้ำจริงๆ ซึ่งไม่น่าจะมีใครคิดอะไรแบบนี้ได้นอกจากผู้กำกับคนนี้คนเดียว
ซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องจะล้ำมากแล้ว งานโปรดักชั่นก็ไม่มีทางเสียชื่ออยู่แล้ว งานภาพออกมาได้สวยงามเนียนตามากๆ สีสันในแต่ละฉากมันเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังสนุกมาก ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ก็ระเบิดตึกตูมตามยิ่งใหญ่สมราคา บวกกับเทคนิคฉากแอ็คชั่นที่ทั้งเดินหน้าและถอยหลังสลับกกันไปมา รับรองว่าดูและสนุกและแปลกตากว่าเรื่องอื่นที่เคยดูมาแน่นอน
ก็อย่างที่จั่วหัวไปแหละครับว่า ผมสารภาพเลยว่า ครึ่งแรกของหนังผมดูแทบจะไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอครึ่งหลังหนังเริ่มเฉลยออกมาเรื่อยๆ มันทำให้ผมลืมความง่วงในครึ่งแรกไปเลย แล้วกลายเป็นหลงรักหนังเรื่องนี้แทนหลังจากที่ดูจบและหนังก็ปิดฉากได้ดีเยี่ยมพร้อมกับสร้างความเหวอให้ในตอนที่เฉลยปมออกมา...เยี่ยมครับ
ถ้าชอบบทความ ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้