จากที่สังเกตดูปัญหาฝนตก น้ำท่วม ในเขต กทม.และปริมณฑล เมื่อ 28 ส.ค.63 บริเวณแยก คปอ. ปกติในช่วงเช้าและเย็นก็มีปัญหาการจราจรอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ถ้าวันไหนฝนตกก็เป็นอันว่าเลิกกัน เส้นทางนี้ห้ามผ่านได้เลย
พอมองปัญหาลึกๆ ต้องไปที่บริเวณถนนสายไหม ถ้าเมื่อ 30-40 ปีก่อน ไม่มีอะไรเลย แต่ปัจจุบันมีหมู่บ้านขึ้นมาเยอะมาก ก็ไม่ทราบว่ากี่พันกี่หมื่นหลังคาเรือน แต่ปัญหาที่ต้องแก้คือการจราจร เนื่องจากถนนสายนี้มีรถเมล์สาย 1009 เพียงสายเดียว และมีคำร่ำลือว่ามาตามอารมณ์ จนทำให้ประชาชนที่พักอาศัยบริเวณนี้ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวทุกบ้าน คิดง่ายๆ บ้าน 1 หลังมีรถยนต์ 1 คัน ตั้งสมมุติฐาน บ้าน 10,000 หลัง ก็มีรถยนต์ 10,000 คัน ซึ่งแน่นอนปัญหาการจราจรติดขัดก็เลยตามมา และสาหัสสุดๆ คือวันที่มีฝนตก เช่นวันนี้เป็นต้น ผมขึ้นรถเมล์จากอู่บางเขนมา กม.27 ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง เพราะปัญหาการจราจรบริเวณแยก คปอ. ปกติจะใช้เวลา 40 นาที ถ้าใช้รถสาธารณะ ซึ่งผมสังเกตเห็นรถที่จะเลี้ยวจากถนนพหลโยธินเข้าไปทางสายไหม มีถึง 2 เลน ทำให้รถที่ตรงไปรังสิตวิ่งได้เลนซ้ายสุดเลนเดียว ทำให้รถติดสะสมไปจนเลยตลาดยิ่งเจริญ
แนวทางแก้ไขปัญหา อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขสมก., กทม. เข้ามาบริหารจัดการในเรื่องการเดินรถสาธารณะทดแทนสาย 1009 โดยจะทำเป็นรถ BRT หรือรถโดยสารประจำทาง วิ่งบริการตั้งแต่ตลาดประตูกรุงเทพ วิ่งผ่านถนนจันทรุเบกษา เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 54/1 เลี้ยวเข้าถนนสายไหม เลี้ยวเข้าถนนสุขาภิบาล 5 และสิ้นสุดที่แยกวัชรพล โดยให้บริการทุก 10 นาที เก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวมีทางเลือกในการเดินทาง และในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีแยก คปอ. จะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2563 และรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีวัชรพล จะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกขึ้น แต่ถ้าหากยังปล่อยไปแบบนี้ ปัญหาการจราจรก็จะหนักกว่าที่เป็นอยู่
ขนส่งสาธารณะบริเวณถนนสายไหม
พอมองปัญหาลึกๆ ต้องไปที่บริเวณถนนสายไหม ถ้าเมื่อ 30-40 ปีก่อน ไม่มีอะไรเลย แต่ปัจจุบันมีหมู่บ้านขึ้นมาเยอะมาก ก็ไม่ทราบว่ากี่พันกี่หมื่นหลังคาเรือน แต่ปัญหาที่ต้องแก้คือการจราจร เนื่องจากถนนสายนี้มีรถเมล์สาย 1009 เพียงสายเดียว และมีคำร่ำลือว่ามาตามอารมณ์ จนทำให้ประชาชนที่พักอาศัยบริเวณนี้ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวทุกบ้าน คิดง่ายๆ บ้าน 1 หลังมีรถยนต์ 1 คัน ตั้งสมมุติฐาน บ้าน 10,000 หลัง ก็มีรถยนต์ 10,000 คัน ซึ่งแน่นอนปัญหาการจราจรติดขัดก็เลยตามมา และสาหัสสุดๆ คือวันที่มีฝนตก เช่นวันนี้เป็นต้น ผมขึ้นรถเมล์จากอู่บางเขนมา กม.27 ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง เพราะปัญหาการจราจรบริเวณแยก คปอ. ปกติจะใช้เวลา 40 นาที ถ้าใช้รถสาธารณะ ซึ่งผมสังเกตเห็นรถที่จะเลี้ยวจากถนนพหลโยธินเข้าไปทางสายไหม มีถึง 2 เลน ทำให้รถที่ตรงไปรังสิตวิ่งได้เลนซ้ายสุดเลนเดียว ทำให้รถติดสะสมไปจนเลยตลาดยิ่งเจริญ
แนวทางแก้ไขปัญหา อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขสมก., กทม. เข้ามาบริหารจัดการในเรื่องการเดินรถสาธารณะทดแทนสาย 1009 โดยจะทำเป็นรถ BRT หรือรถโดยสารประจำทาง วิ่งบริการตั้งแต่ตลาดประตูกรุงเทพ วิ่งผ่านถนนจันทรุเบกษา เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 54/1 เลี้ยวเข้าถนนสายไหม เลี้ยวเข้าถนนสุขาภิบาล 5 และสิ้นสุดที่แยกวัชรพล โดยให้บริการทุก 10 นาที เก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวมีทางเลือกในการเดินทาง และในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีแยก คปอ. จะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2563 และรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีวัชรพล จะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกขึ้น แต่ถ้าหากยังปล่อยไปแบบนี้ ปัญหาการจราจรก็จะหนักกว่าที่เป็นอยู่