ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 4 และเป็นเรื่องสุดท้ายของวีคนี้ครับ ^^
เป็นเรื่องของชายผู้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว เพราะลูกชายของเขาเองบอกว่าพ่อแก่แล้ว วันดีคืนดี ได้เจอเพื่อนหญิงเก่าคนหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเพื่อนหญิงนั้นก็ได้เผยความลับบางอย่างซึ่งเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยให้เขาได้รับรู้...
อะไรคือความลับดังกล่าวที่เพื่อนเก่าเผยให้เขาได้รับรู้ และรับรู้แล้ว เขาจะเป็นอย่างไร...
คำถามที่สำคัญคือ ทำไมจึงเป็น "ความหม่นเศร้าอันงดงาม" ???
ตามมาหาคำตอบด้วยกันสิครับ... ^^
“ฮีโร่! คุณคือฮีโร่”
ผู้หญิงสวมสูทสีครีมร่างอวบ ผมหยักศกซอยสั้นร้องทักเสียงไม่เบานัก ทำให้เขาละสายตาจากหนังสือในมือ มองเธออย่างทึ่งจัดขณะเดินตรงเข้าไปหาเขาที่มุมหนึ่งในร้านหนังสือ
“จำกันไม่ได้ใช่ม้า ?” เธอทำเสียงล้อเลียนแล้วก็หัวเราะชอบใจ
“โทษนะครับ...นี่..เอ่อ...” เขายังยิ้มน้อย ๆ ปะปนอาการเขินอายพร้อมกับนึกโกรธตนเองที่ที่นึกชื่อเธอไม่ออก ก็คนที่เรียกชื่อเขาด้วยคำนี้มีอยู่กลุ่มเดียวเท่านั้น
“นึกออกมั้ย ทายมาซะดี ๆ”
เธอยังคงชอบอกชอบใจที่เห็นสีหน้าเขาตกประหม่าจนรู้สึกว่าเลือดฉีดขึ้นที่บริเวณใบหน้า และเขาคงจะเป็นเช่นนั้นอีกพักใหญ่ถ้าเธอไม่ได้รีบบอกชื่อของตนเองออกมา กิ๊บ อดีตเพื่อนสาวต่างคณะในรั้วสถาบันเดียวกันครั้งยี่สิบปีก่อนที่อยู่หอพักใกล้กัน เธอช่างปราดเปรียว ร่าเริง และช่างเจรจาทุกครั้งที่พบหน้า แล้วครั้งนี้ก็เป็นเธออีกเช่นเคยที่เป็นฝ่ายซักถามและกระเซ้าเย้าแหย่เขาอย่างคนอารมณ์ดี
คุยกันประสาเพื่อนร่วมสถาบันเก่าได้สักพัก เธอก็ขอปลีกตัวกลับไปก่อนเพราะนัดหมายคุยธุรกิจในอีกสถานที่หนึ่ง เขายิ้มกว้างให้เธอขณะโบกมือร่ำลาและยืนมองเธอหันหลังเดินกลับออกไปจากมุมนั้น
แต่พอสาวเท้าออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอกลับชะงักแล้วเหลียวกลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง
“ฮีโร่”
“ครับผม”
“จำแหวนได้มั้ย ?”
“แหวน...แหวนคณะเดียวกับกิ๊บน่ะเหรอ ?” เขายังไม่ค่อยมั่นใจ
“ใช่”
“คนที่ทำชมรมวรรณศิลป์ใช่มั้ยครับ ?”
“ช่ายแล้ว ถูกต้อง” เธอเดินอมยิ้มเข้ามาใกล้
“ทำไมหรือครับ ?”
“ความลับนะ” เธอทำหน้าขึงขัง ลดเสียงเป็นกระซิบ
“ตอนนั้นน่ะ...แหวนเขาหลงรักเธอล่ะ ไปนะบ๊ายบาย”
พอพูดจบ เธอก็หมุนตัวกลับและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เขายืนงงหน้าตาร้อนผ่าวอยู่คนเดียวอย่างนั้น ก่อนที่จะค่อย ๆ หันกลับมาดูหนังสือในมือที่เปิดค้างไว้....
นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แล้วมันก็มีอิทธิพลมากพอสมควรกับการที่วันนี้ทำให้เขาต้องหาเวลารื้อค้นภาพถ่ายเก่าที่เก็บไว้ในตู้เก็บของซึ่งตั้งไว้บนบ้าน ขณะที่พลิกแต่ละหน้าของสมุดภาพถ่าย ใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยเลือนรางอยู่ก็ค่อยชัดเจนขึ้นเหมือนการปรับเลนส์กล้องถ่ายรูป
...
ยามเย็นที่ฟ้าโปร่ง สายลมพัดโชยอ่อน บนทางเดินขึ้นเนินเพื่อไปยังตัวบ้านพักสำหรับนักศึกษาที่เดินทางมาร่วมอบรมกิจกรรมฝึกทักษะผู้นำในบริเวณอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทางภาคตะวันตก มีเธอกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินนำหน้ากลุ่มของเขาขึ้นไป พวกเธอแต่งกายคล้ายกันมากในชุดเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ แขนสั้นบ้าง แขนยาวบ้าง และกางเกงยีนขายาว แต่เธอเพียงคนเดียวที่ไว้ผมยาวรวบเปิดหน้าผาก ระหว่างนั้น เพื่อนจอมทะเล้นของเขาคนหนึ่งกระโดดมาจากด้านหลังแล้วใช้ขาทั้งสองขึ้นคร่อมแบบคนควบม้าพลางส่งเสียงดังพร้อมตบไหล่เขาแรง ๆ
“ฮีโร่เพื่อนยาก พาข้าออกศึกเดี๋ยวนี้ !“
เสียงหัวเราะครื้นเครงของเพื่อน ๆ ในกลุ่มเขาทำให้พวกเธอต่างหันกลับมามอง แล้วก็หัวเราะออกมาในแบบเดียวกัน เธอมีท่าทีเขินอายขณะที่เพื่อนสาวอีกคนร้องแซวเมื่อเห็นเขาแสร้งทำท่าม้าควบแซงหน้าพวกเธอขึ้นไป
“ห้ามสะบัดข้าตกนะโว้ย” คนขี่ตะโกนลั่น
และท่ามกลางแสงนวลของดวงเดือนในค่ำคืนนั้น ก็มีเสียงกีตาร์จากปลายนิ้วของเขาพร้อมด้วยถ้อยคำที่เรียงร้อยไว้ด้วยความรู้สึกล่องลอยผสานไปกับอณูของราตรี คือช่วงเวลาแห่งหัวใจของคนหนุ่มสาวที่เบิกบานแท้จริง ทว่า เธอและเพื่อน ๆ ไม่ได้ออกไปร่วมวงด้วย อาจเป็นด้วยยังไม่เคยคุ้นกันมากนักเพราะการที่เรียนต่างคณะ ดังนั้น ถ้าไม่นับเวลาทำกิจกรรมในห้องประชุมรวม เขามักได้พบพวกเธออีกครั้งในมื้ออาหาร
เขาจำได้ว่าเคยล้อเลียนเธอไว้ด้วยบางประโยคขณะที่เธอนั่งในสำรับอาหารพร้อมเพื่อนสนิท
“กินเยอะ ๆ หน่อยนะแหวน เดี๋ยวจะเป็นลม”
“รีบกินนะแหวน เดี๋ยวหมูในจานหายหมด”
เธอไม่เคยตอบโต้ มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ และแววตาที่เปี่ยมมิตรสำหรับเขา...
เขาเห็นภาพถ่ายของกิจกรรมนั้นจำนวนหนึ่ง ภาพหมู่กับเพื่อนร่วมคณะที่ด้านหน้าเขื่อน ภาพกิจกรรมในห้องประชุม และภาพของใครอีกสองสามคนขณะเดินเล่นในเขตน้ำตกก่อนเดินทางกลับ แต่กลับไม่พบภาพของเธออยู่ในนั้นแม้แต่ใบเดียว
“ความลับนะ....ตอนนั้นแหวนเขาหลงรักเธอล่ะ”
เสียงของกิ๊บ เพื่อนสนิทของเธออีกคนยังติดในโสตของเขาตั้งแต่ได้ยินที่ร้านหนังสือ
เธอหลงรักเขาหรือนี่...เขาใจหายโดยไม่รู้เหตุผล ผู้หญิงขรึม ๆ นัยน์ตาเศร้า มีเพียงรอยยิ้มคนนั้นมาหลงรักเขา...
หวนนึกไป นับแต่กิจกรรมนั้นเป็นต้นมาก็มีเพียงครั้งเดียวที่เขาและเธอได้พบกันโดยบังเอิญในโรงอาหารเมื่อเขากลับไปเยี่ยมเยียนกลุ่มเพื่อนหลังจากตนเองสอบเข้าสถาบันใหม่ในปีต่อมา
เช้าวันนั้น เธอสวมชุดนักศึกษาเรียบร้อย ส่วนเขาสวมเสื้อเชิ้ตลำลองทับชายไว้ในกางเกงยีน ต่างคนต่างถือถาดอาหารเดินไปที่โต๊ะเก็บช้อนและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เขายิ้มและก้มศีรษะให้ขณะที่เธอทักทายเบา ๆ และพยายามจะหลบสายตา
“สวัสดีฮีโร่”
“สวัสดีครับแหวน”
เพียงเท่านั้นจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้กลับไปที่สถาบันแห่งนั้นอีกเลย...
เขายังคงค้นหาสมุดภาพถ่ายเล่มอื่น ๆ ขณะที่พยายามใช้ความคิดว่าเคยทำกิจกรรมอะไรไปบ้างในช่วงเวลานั้น ภาพใบหน้าเพื่อน ๆ หลายคนปรากฏในอิริยาบถแตกต่างกัน เขาเผลอยิ้ม และบางคราวก็หัวเราะเบา ๆ ออกมา
ภาพสุดท้ายที่พบในสมุดสะสมคือภาพกลุ่มนักศึกษาทั้งหมดพร้อมสัมภาระที่มีรถบัสเป็นฉากหลัง มันน่าจะเป็นกิจกรรมครั้งนั้น เขาเพ่งมอง ไล่สายตาดูคนในภาพทีละคน ภาพระยะไกลทำให้ดูยากว่าใครเป็นใคร บางคนสวมหมวก บางคนโพกผ้าที่ศีรษะ เขาจำไม่ได้ว่าเธอสวมหมวกหรือไม่...
“พ่อ! พ่อ!”
เสียงลูกชายคนเล็กจากชั้นล่างดังก้องขึ้นมาก่อนจะมีเสียงวิ่งขึ้นบันได
“ว่าไงลูก ?”
“แม่บอกว่าให้แต่งตัวได้แล้ว เผื่อรถติด” ประโยคสุดท้ายจบลงที่ร่างของคนพูดโผล่เข้ามาทางประตูพอดี “พ่อหาอะไรเหรอ ?”
เขาทยอยเก็บสมุดภาพถ่ายใส่เข้าไปในชั้นวางของตู้ใบเดิม ยังไม่ทันตอบลูกชายก็เข้ามาหยิบไปเล่มหนึ่งเพื่อเปิดดูบ้าง
“โห รูปพ่อกับเพื่อนเยอะแยะเลย”
“พ่อหล่อมั้ย ?”
ลูกยิ้มจนตาหยีก่อนที่จะพยักหน้า นัยน์ตาชั้นเดียวคู่นั้นถอดแบบไปจากเขาไม่ผิดเพี้ยน
“หล่อ ในรูปหล่อ”
เขารับสมุดภาพจากมือลูกไปวางไว้ที่เดิมแล้วปิดบานประตูตู้ตามหลัง
“แล้วตอนนี้ล่ะ ?”
ลูกชายแหงนดูเขาแล้วพูดช้า ๆ
“ตอนนี้ก็หล่อ...แก่ด้วย”
ลูกชายพูดจบก็วิ่งตื๋อนำหน้าไปที่บันได เขาหัวเราะขณะที่เดินตามหลังไป ผ่านกระจกเงาบานเล็กที่แขวนไว้ก่อนจะถึงเชิงบันได เขาหยุดสบตากับชายในกระจก กาลเวลาเริ่มแต่งแต้มริ้วรอย สีผิว และและสีผมให้เขาจนแทบเป็นอีกคนหนึ่ง
ถ้าพบกันวันนี้ เธอจะจำเขาได้ไหมหนอ
พร้อมกับหัวใจพองฟูเมื่อได้รับรู้ว่า ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่มาหลงรัก เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ช่างเป็นความหม่นเศร้าอันงดงาม
……………THE END………….
รายชื่อให้เลือกตอบครับ (แก้ไขแล้ว)
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Psycho G
6. ruennara
7. Soul Master
8. TOSHARE - 5212378
9. WANG JIE (กรรมการ)
10. แจ๊คในสวนถั่ว
11. ดินสอสีน้ำ
12. นลินมณี
13. ป้ามล - 3650985
14. รัชต์สารินท์
15. ลุงแผน
16. ลูนาติก
17. วนิล - 3188982
18. ส.สัตยา
19. สวนดอก
20. สิงห์ริมถนน
🐌🦅👨 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#26 สัปดาห์ที่ 9 : 24-28 ก.ค. "ความหม่นเศร้าอันงดงาม" - ถุงมือสีครีม 🐌🦅👨
เป็นเรื่องของชายผู้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว เพราะลูกชายของเขาเองบอกว่าพ่อแก่แล้ว วันดีคืนดี ได้เจอเพื่อนหญิงเก่าคนหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเพื่อนหญิงนั้นก็ได้เผยความลับบางอย่างซึ่งเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยให้เขาได้รับรู้...
อะไรคือความลับดังกล่าวที่เพื่อนเก่าเผยให้เขาได้รับรู้ และรับรู้แล้ว เขาจะเป็นอย่างไร...
คำถามที่สำคัญคือ ทำไมจึงเป็น "ความหม่นเศร้าอันงดงาม" ???
ตามมาหาคำตอบด้วยกันสิครับ... ^^
“ฮีโร่! คุณคือฮีโร่”
ผู้หญิงสวมสูทสีครีมร่างอวบ ผมหยักศกซอยสั้นร้องทักเสียงไม่เบานัก ทำให้เขาละสายตาจากหนังสือในมือ มองเธออย่างทึ่งจัดขณะเดินตรงเข้าไปหาเขาที่มุมหนึ่งในร้านหนังสือ
“จำกันไม่ได้ใช่ม้า ?” เธอทำเสียงล้อเลียนแล้วก็หัวเราะชอบใจ
“โทษนะครับ...นี่..เอ่อ...” เขายังยิ้มน้อย ๆ ปะปนอาการเขินอายพร้อมกับนึกโกรธตนเองที่ที่นึกชื่อเธอไม่ออก ก็คนที่เรียกชื่อเขาด้วยคำนี้มีอยู่กลุ่มเดียวเท่านั้น
“นึกออกมั้ย ทายมาซะดี ๆ”
เธอยังคงชอบอกชอบใจที่เห็นสีหน้าเขาตกประหม่าจนรู้สึกว่าเลือดฉีดขึ้นที่บริเวณใบหน้า และเขาคงจะเป็นเช่นนั้นอีกพักใหญ่ถ้าเธอไม่ได้รีบบอกชื่อของตนเองออกมา กิ๊บ อดีตเพื่อนสาวต่างคณะในรั้วสถาบันเดียวกันครั้งยี่สิบปีก่อนที่อยู่หอพักใกล้กัน เธอช่างปราดเปรียว ร่าเริง และช่างเจรจาทุกครั้งที่พบหน้า แล้วครั้งนี้ก็เป็นเธออีกเช่นเคยที่เป็นฝ่ายซักถามและกระเซ้าเย้าแหย่เขาอย่างคนอารมณ์ดี
คุยกันประสาเพื่อนร่วมสถาบันเก่าได้สักพัก เธอก็ขอปลีกตัวกลับไปก่อนเพราะนัดหมายคุยธุรกิจในอีกสถานที่หนึ่ง เขายิ้มกว้างให้เธอขณะโบกมือร่ำลาและยืนมองเธอหันหลังเดินกลับออกไปจากมุมนั้น
แต่พอสาวเท้าออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอกลับชะงักแล้วเหลียวกลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง
“ฮีโร่”
“ครับผม”
“จำแหวนได้มั้ย ?”
“แหวน...แหวนคณะเดียวกับกิ๊บน่ะเหรอ ?” เขายังไม่ค่อยมั่นใจ
“ใช่”
“คนที่ทำชมรมวรรณศิลป์ใช่มั้ยครับ ?”
“ช่ายแล้ว ถูกต้อง” เธอเดินอมยิ้มเข้ามาใกล้
“ทำไมหรือครับ ?”
“ความลับนะ” เธอทำหน้าขึงขัง ลดเสียงเป็นกระซิบ “ตอนนั้นน่ะ...แหวนเขาหลงรักเธอล่ะ ไปนะบ๊ายบาย”
พอพูดจบ เธอก็หมุนตัวกลับและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เขายืนงงหน้าตาร้อนผ่าวอยู่คนเดียวอย่างนั้น ก่อนที่จะค่อย ๆ หันกลับมาดูหนังสือในมือที่เปิดค้างไว้....
นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แล้วมันก็มีอิทธิพลมากพอสมควรกับการที่วันนี้ทำให้เขาต้องหาเวลารื้อค้นภาพถ่ายเก่าที่เก็บไว้ในตู้เก็บของซึ่งตั้งไว้บนบ้าน ขณะที่พลิกแต่ละหน้าของสมุดภาพถ่าย ใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยเลือนรางอยู่ก็ค่อยชัดเจนขึ้นเหมือนการปรับเลนส์กล้องถ่ายรูป
...ยามเย็นที่ฟ้าโปร่ง สายลมพัดโชยอ่อน บนทางเดินขึ้นเนินเพื่อไปยังตัวบ้านพักสำหรับนักศึกษาที่เดินทางมาร่วมอบรมกิจกรรมฝึกทักษะผู้นำในบริเวณอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทางภาคตะวันตก มีเธอกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินนำหน้ากลุ่มของเขาขึ้นไป พวกเธอแต่งกายคล้ายกันมากในชุดเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ แขนสั้นบ้าง แขนยาวบ้าง และกางเกงยีนขายาว แต่เธอเพียงคนเดียวที่ไว้ผมยาวรวบเปิดหน้าผาก ระหว่างนั้น เพื่อนจอมทะเล้นของเขาคนหนึ่งกระโดดมาจากด้านหลังแล้วใช้ขาทั้งสองขึ้นคร่อมแบบคนควบม้าพลางส่งเสียงดังพร้อมตบไหล่เขาแรง ๆ
“ฮีโร่เพื่อนยาก พาข้าออกศึกเดี๋ยวนี้ !“
เสียงหัวเราะครื้นเครงของเพื่อน ๆ ในกลุ่มเขาทำให้พวกเธอต่างหันกลับมามอง แล้วก็หัวเราะออกมาในแบบเดียวกัน เธอมีท่าทีเขินอายขณะที่เพื่อนสาวอีกคนร้องแซวเมื่อเห็นเขาแสร้งทำท่าม้าควบแซงหน้าพวกเธอขึ้นไป
“ห้ามสะบัดข้าตกนะโว้ย” คนขี่ตะโกนลั่น
และท่ามกลางแสงนวลของดวงเดือนในค่ำคืนนั้น ก็มีเสียงกีตาร์จากปลายนิ้วของเขาพร้อมด้วยถ้อยคำที่เรียงร้อยไว้ด้วยความรู้สึกล่องลอยผสานไปกับอณูของราตรี คือช่วงเวลาแห่งหัวใจของคนหนุ่มสาวที่เบิกบานแท้จริง ทว่า เธอและเพื่อน ๆ ไม่ได้ออกไปร่วมวงด้วย อาจเป็นด้วยยังไม่เคยคุ้นกันมากนักเพราะการที่เรียนต่างคณะ ดังนั้น ถ้าไม่นับเวลาทำกิจกรรมในห้องประชุมรวม เขามักได้พบพวกเธออีกครั้งในมื้ออาหาร
เขาจำได้ว่าเคยล้อเลียนเธอไว้ด้วยบางประโยคขณะที่เธอนั่งในสำรับอาหารพร้อมเพื่อนสนิท
“กินเยอะ ๆ หน่อยนะแหวน เดี๋ยวจะเป็นลม”
“รีบกินนะแหวน เดี๋ยวหมูในจานหายหมด”
เธอไม่เคยตอบโต้ มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ และแววตาที่เปี่ยมมิตรสำหรับเขา...
เขาเห็นภาพถ่ายของกิจกรรมนั้นจำนวนหนึ่ง ภาพหมู่กับเพื่อนร่วมคณะที่ด้านหน้าเขื่อน ภาพกิจกรรมในห้องประชุม และภาพของใครอีกสองสามคนขณะเดินเล่นในเขตน้ำตกก่อนเดินทางกลับ แต่กลับไม่พบภาพของเธออยู่ในนั้นแม้แต่ใบเดียว
“ความลับนะ....ตอนนั้นแหวนเขาหลงรักเธอล่ะ”
เสียงของกิ๊บ เพื่อนสนิทของเธออีกคนยังติดในโสตของเขาตั้งแต่ได้ยินที่ร้านหนังสือ
เธอหลงรักเขาหรือนี่...เขาใจหายโดยไม่รู้เหตุผล ผู้หญิงขรึม ๆ นัยน์ตาเศร้า มีเพียงรอยยิ้มคนนั้นมาหลงรักเขา...
หวนนึกไป นับแต่กิจกรรมนั้นเป็นต้นมาก็มีเพียงครั้งเดียวที่เขาและเธอได้พบกันโดยบังเอิญในโรงอาหารเมื่อเขากลับไปเยี่ยมเยียนกลุ่มเพื่อนหลังจากตนเองสอบเข้าสถาบันใหม่ในปีต่อมา
เช้าวันนั้น เธอสวมชุดนักศึกษาเรียบร้อย ส่วนเขาสวมเสื้อเชิ้ตลำลองทับชายไว้ในกางเกงยีน ต่างคนต่างถือถาดอาหารเดินไปที่โต๊ะเก็บช้อนและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เขายิ้มและก้มศีรษะให้ขณะที่เธอทักทายเบา ๆ และพยายามจะหลบสายตา
“สวัสดีฮีโร่”
“สวัสดีครับแหวน”
เพียงเท่านั้นจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้กลับไปที่สถาบันแห่งนั้นอีกเลย...
เขายังคงค้นหาสมุดภาพถ่ายเล่มอื่น ๆ ขณะที่พยายามใช้ความคิดว่าเคยทำกิจกรรมอะไรไปบ้างในช่วงเวลานั้น ภาพใบหน้าเพื่อน ๆ หลายคนปรากฏในอิริยาบถแตกต่างกัน เขาเผลอยิ้ม และบางคราวก็หัวเราะเบา ๆ ออกมา
ภาพสุดท้ายที่พบในสมุดสะสมคือภาพกลุ่มนักศึกษาทั้งหมดพร้อมสัมภาระที่มีรถบัสเป็นฉากหลัง มันน่าจะเป็นกิจกรรมครั้งนั้น เขาเพ่งมอง ไล่สายตาดูคนในภาพทีละคน ภาพระยะไกลทำให้ดูยากว่าใครเป็นใคร บางคนสวมหมวก บางคนโพกผ้าที่ศีรษะ เขาจำไม่ได้ว่าเธอสวมหมวกหรือไม่...
“พ่อ! พ่อ!”
เสียงลูกชายคนเล็กจากชั้นล่างดังก้องขึ้นมาก่อนจะมีเสียงวิ่งขึ้นบันได
“ว่าไงลูก ?”
“แม่บอกว่าให้แต่งตัวได้แล้ว เผื่อรถติด” ประโยคสุดท้ายจบลงที่ร่างของคนพูดโผล่เข้ามาทางประตูพอดี “พ่อหาอะไรเหรอ ?”
เขาทยอยเก็บสมุดภาพถ่ายใส่เข้าไปในชั้นวางของตู้ใบเดิม ยังไม่ทันตอบลูกชายก็เข้ามาหยิบไปเล่มหนึ่งเพื่อเปิดดูบ้าง
“โห รูปพ่อกับเพื่อนเยอะแยะเลย”
“พ่อหล่อมั้ย ?”
ลูกยิ้มจนตาหยีก่อนที่จะพยักหน้า นัยน์ตาชั้นเดียวคู่นั้นถอดแบบไปจากเขาไม่ผิดเพี้ยน
“หล่อ ในรูปหล่อ”
เขารับสมุดภาพจากมือลูกไปวางไว้ที่เดิมแล้วปิดบานประตูตู้ตามหลัง
“แล้วตอนนี้ล่ะ ?”
ลูกชายแหงนดูเขาแล้วพูดช้า ๆ
“ตอนนี้ก็หล่อ...แก่ด้วย”
ลูกชายพูดจบก็วิ่งตื๋อนำหน้าไปที่บันได เขาหัวเราะขณะที่เดินตามหลังไป ผ่านกระจกเงาบานเล็กที่แขวนไว้ก่อนจะถึงเชิงบันได เขาหยุดสบตากับชายในกระจก กาลเวลาเริ่มแต่งแต้มริ้วรอย สีผิว และและสีผมให้เขาจนแทบเป็นอีกคนหนึ่ง ถ้าพบกันวันนี้ เธอจะจำเขาได้ไหมหนอ
พร้อมกับหัวใจพองฟูเมื่อได้รับรู้ว่า ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่มาหลงรัก เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ช่างเป็นความหม่นเศร้าอันงดงาม