ล๊อคอินมาตั้งคำถามกลางดึกกันเลยทีเดียว ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนเลย บ้านพ่อแม่เราคือเป็นหมู่บ้านชนบทตามต่างจังหวัด ละแวกบ้านก็จะมีญาติๆและพี่น้องที่คุ้นเคยกันดี และที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดก ที่ย่าแบ่งให้พ่อกับแม่เรา และลูกของย่าคนอื่นๆ ลูกของย่าคนอื่นๆ ได้ขายให้คนนอกที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องเราไป
แต่ปัญหามันมาเกิดขึ้น ก็คือ อาเราได้ยกที่ต่อให้ลูกสาว(มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องเรา) ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะลูกพี่ลูกน้องเรายังไม่แต่งงาน ก็อยู่กันมาได้เรื่อยๆ ไม่ได้มีปัญหา จนลูกพี่ลูกน้องเราแต่งงาน และพาสามีนางเข้ามา สามีนางอายุประมาณ 34 ทรงวัยรุ่นสร้างตัว สามีนางจะมีรถกระบะแต่งซิ่งอยู่คันนึง นิสัยสามีนางคือ เกรี้ยวกราดมาก ไม่ฟังใคร ไม่มีสัมมาคาระวะใดๆ และไม่เอาญาติฝ่ายเราด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร หลังจากนั้นได้ไม่นานสามีนางก็เอาพี่สาวมาปลูกบ้านเบียดๆ ใกล้ๆ กันอีก และญาติฝั่งเขาก็ทยอยกันมาเพิ่มเรื่อยๆ จากสามีนางคนเดียว ทีนี้กลายเป็นมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สุงสิงกันสักเท่าไหร่กับบ้านเรา จนนางคลอดลูก 2 คน ก็เท่ากับว่า เด็กคนนี้ก็คือ หลานเรา อยู่กันมาเรื่อย ๆ ลูกนางก็ไปมาหาสู่บ้านเราตามภาษาเด็กอ่ะนะ มาเล่นบ้านเราทุกวัน พ่อ แม่เราก็เอ็นดู วันหนึ่งหลานเราเขาทำอะไรผิดไม่รู้ นางตีลูกนางหนักมาก นางตีเสร็จ นางก็ไปพูดกับสามีนาง สามีนางตีอีก พ่อเราสงสารเลยเข้าไปห้าม ว่า แม่เขาทำโทษแล้ว ทำไมต้องทำโทษอีก เด็กหลาบจำแล้ว สามีนางหันมาตอบพ่อเราว่า แล้วมายุ่งกับครอบครัวกูทำไม ทำไมชอบมายุ่งกับครอบครัวกูด้วย พ่อได้ยินแล้วตกใจมาก แม่เราก็ไปดึงพ่อกลับมาอย่าไปยุ่ง พ่อเราบอกเมีย เป็นหลานกูเหมือนกัน กูพูดกับหลานกู ทำไมกูจะพูดไม่ได้
พี่สาวของสามีนางได้ยินรีบวิ่งมาด่าพ่อเราอีก ว่า ทำไมไปว่าน้องแก เลยเกิดการโต้เถียงกัน หลังจากนั้นหลานก็โดนสั่งห้ามไม่ให้มาบ้านเราอีก และ หลานเราเขาเลือกเชื่อสามี และขอตัดขาดญาติพี่น้องกับพ่อแม่เรา หลังจากนั้นสามีนางก็สร้างกำแพงกั้นระหว่างบ้านเขาและบ้านเรา และไม่มีการพูดคุยกันอีกต่อไป.
จนถึงโควิด 19 ระบาดปัญหาใหญ่ก็ตามมา เราตกงาน กลับมาอยู่บ้านกับแม่ ก่อนหน้านี้แม่เราบอกกับเราบ่อยๆว่า ข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังมาก ร้องคาราโอเกะจนไม่ได้นอนตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรมากกับที่แม่เล่า จนเรากลับมาอยู่กับครอบครัว เสียงดังมากจริงๆ รถญาติพี่น้องสามีนางที่นับได้เห็น 5 คัน แต่ละคันแต่งซิ่ง ท่อดัง เครื่องเสียงแน่น แถมช่วงโควิทฝั่งสามีนางก็มีญาติที่ตกงานมาเพิ่มมากหน้าหลายตา ทุกเช้าจะมีการวอมเครื่อง เครื่องเสียงทุกวัน แม่เราตอนนี้อายุ 71 เพิ่งผ่าตัด อยากพักผ่อนก็ไม่ได้พักผ่อนเลย จะได้พักเต็มที่ก็ตอนกลางวัน ซึ่งคนเหล่านั้นได้ออกไปทำงาน เราเคยคุยกับนาง แต่นางไม่สน นางเลือกสามี เราเคยคุยกับอาเรา (พ่อแม่นาง) กลายเป็นว่าหลังจากนั้นอาเราก็ไม่มาสุงสิงบ้านเราเลย ตอนนี้กลายเป็นว่า บ้านเรามีปัญหาบ้านเราจะมีปัญหาเรื่องเสียงมาก แจ้งผู้ใหญ่บ้านไปครั้งนึงก็เบาลงมานิดนึง แต่ความสัมพันธ์ยิ่งแย่ลงกว่าเดิมแถมยังเกลียดบ้านเราที่ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านด้วย และพี่สาวสามีนางก็ไปพูดกับคนในหมู่บ้าน จนรู้สึกเหมือนว่า บ้านเราเป็นบ้านที่ปัญหา ตอนนี้แม่เราไม่ออกไปพบปะผู้คนเลย และเราเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าด้วย ตกงานและยังต้องมารับรู้ปัญหาของญาติพี่น้องไม่ลงรอบกันอีก เราบอกแม่ว่าจะซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านใหม่ แต่พ่อยังเหมือนไม่อยากย้ายเพราะผูกพันธ์ อยู่มาตั้งแต่พ่อกับแม่แต่งงานกัน ตั้งแต่มาอยู่บ้านช่วงโควิท เราไม่มีความสุขเลย อึดอัดมาก จากที่ ที่มีความสุขที่สุด กลับกลายเป็นว่า บ้านคือ ที่ซุกหัวนอน อยากสร้างบ้านให้แม่ใหม่ แต่ตอนนี้เราก็ตกงาน เงินเก็บก็จะหมด แก้ปัญหาอะไรให้แม่ที่กำลังป่วยไม่ได้เลย นอนไม่หลับสักคืนเลยตอนนี้ คิดฟุ้งซ่านไปถึงวันที่แม่จะจากไปโน่นเลย อยากทิ้งแม่ให้อยู่กับพ่อ 2 คน แล้วไปทำงาน ก็ลำบากมาก เพราะแม่ต้องหาหมอ เราต้องดูแลทุกอย่างเพราะ เราเป็นลูกคนเดียว. ตอนนี้ปัญหาตีกันในหัวมาก ไม่รู้เริ่มที่ตรงไหนก่อนดีเลย
ปัญหาเสียงดังของญาติข้างบ้าน(วัยรุ่นสร้างตัว)
แต่ปัญหามันมาเกิดขึ้น ก็คือ อาเราได้ยกที่ต่อให้ลูกสาว(มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องเรา) ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะลูกพี่ลูกน้องเรายังไม่แต่งงาน ก็อยู่กันมาได้เรื่อยๆ ไม่ได้มีปัญหา จนลูกพี่ลูกน้องเราแต่งงาน และพาสามีนางเข้ามา สามีนางอายุประมาณ 34 ทรงวัยรุ่นสร้างตัว สามีนางจะมีรถกระบะแต่งซิ่งอยู่คันนึง นิสัยสามีนางคือ เกรี้ยวกราดมาก ไม่ฟังใคร ไม่มีสัมมาคาระวะใดๆ และไม่เอาญาติฝ่ายเราด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร หลังจากนั้นได้ไม่นานสามีนางก็เอาพี่สาวมาปลูกบ้านเบียดๆ ใกล้ๆ กันอีก และญาติฝั่งเขาก็ทยอยกันมาเพิ่มเรื่อยๆ จากสามีนางคนเดียว ทีนี้กลายเป็นมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สุงสิงกันสักเท่าไหร่กับบ้านเรา จนนางคลอดลูก 2 คน ก็เท่ากับว่า เด็กคนนี้ก็คือ หลานเรา อยู่กันมาเรื่อย ๆ ลูกนางก็ไปมาหาสู่บ้านเราตามภาษาเด็กอ่ะนะ มาเล่นบ้านเราทุกวัน พ่อ แม่เราก็เอ็นดู วันหนึ่งหลานเราเขาทำอะไรผิดไม่รู้ นางตีลูกนางหนักมาก นางตีเสร็จ นางก็ไปพูดกับสามีนาง สามีนางตีอีก พ่อเราสงสารเลยเข้าไปห้าม ว่า แม่เขาทำโทษแล้ว ทำไมต้องทำโทษอีก เด็กหลาบจำแล้ว สามีนางหันมาตอบพ่อเราว่า แล้วมายุ่งกับครอบครัวกูทำไม ทำไมชอบมายุ่งกับครอบครัวกูด้วย พ่อได้ยินแล้วตกใจมาก แม่เราก็ไปดึงพ่อกลับมาอย่าไปยุ่ง พ่อเราบอกเมีย เป็นหลานกูเหมือนกัน กูพูดกับหลานกู ทำไมกูจะพูดไม่ได้
พี่สาวของสามีนางได้ยินรีบวิ่งมาด่าพ่อเราอีก ว่า ทำไมไปว่าน้องแก เลยเกิดการโต้เถียงกัน หลังจากนั้นหลานก็โดนสั่งห้ามไม่ให้มาบ้านเราอีก และ หลานเราเขาเลือกเชื่อสามี และขอตัดขาดญาติพี่น้องกับพ่อแม่เรา หลังจากนั้นสามีนางก็สร้างกำแพงกั้นระหว่างบ้านเขาและบ้านเรา และไม่มีการพูดคุยกันอีกต่อไป.
จนถึงโควิด 19 ระบาดปัญหาใหญ่ก็ตามมา เราตกงาน กลับมาอยู่บ้านกับแม่ ก่อนหน้านี้แม่เราบอกกับเราบ่อยๆว่า ข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังมาก ร้องคาราโอเกะจนไม่ได้นอนตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรมากกับที่แม่เล่า จนเรากลับมาอยู่กับครอบครัว เสียงดังมากจริงๆ รถญาติพี่น้องสามีนางที่นับได้เห็น 5 คัน แต่ละคันแต่งซิ่ง ท่อดัง เครื่องเสียงแน่น แถมช่วงโควิทฝั่งสามีนางก็มีญาติที่ตกงานมาเพิ่มมากหน้าหลายตา ทุกเช้าจะมีการวอมเครื่อง เครื่องเสียงทุกวัน แม่เราตอนนี้อายุ 71 เพิ่งผ่าตัด อยากพักผ่อนก็ไม่ได้พักผ่อนเลย จะได้พักเต็มที่ก็ตอนกลางวัน ซึ่งคนเหล่านั้นได้ออกไปทำงาน เราเคยคุยกับนาง แต่นางไม่สน นางเลือกสามี เราเคยคุยกับอาเรา (พ่อแม่นาง) กลายเป็นว่าหลังจากนั้นอาเราก็ไม่มาสุงสิงบ้านเราเลย ตอนนี้กลายเป็นว่า บ้านเรามีปัญหาบ้านเราจะมีปัญหาเรื่องเสียงมาก แจ้งผู้ใหญ่บ้านไปครั้งนึงก็เบาลงมานิดนึง แต่ความสัมพันธ์ยิ่งแย่ลงกว่าเดิมแถมยังเกลียดบ้านเราที่ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านด้วย และพี่สาวสามีนางก็ไปพูดกับคนในหมู่บ้าน จนรู้สึกเหมือนว่า บ้านเราเป็นบ้านที่ปัญหา ตอนนี้แม่เราไม่ออกไปพบปะผู้คนเลย และเราเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าด้วย ตกงานและยังต้องมารับรู้ปัญหาของญาติพี่น้องไม่ลงรอบกันอีก เราบอกแม่ว่าจะซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านใหม่ แต่พ่อยังเหมือนไม่อยากย้ายเพราะผูกพันธ์ อยู่มาตั้งแต่พ่อกับแม่แต่งงานกัน ตั้งแต่มาอยู่บ้านช่วงโควิท เราไม่มีความสุขเลย อึดอัดมาก จากที่ ที่มีความสุขที่สุด กลับกลายเป็นว่า บ้านคือ ที่ซุกหัวนอน อยากสร้างบ้านให้แม่ใหม่ แต่ตอนนี้เราก็ตกงาน เงินเก็บก็จะหมด แก้ปัญหาอะไรให้แม่ที่กำลังป่วยไม่ได้เลย นอนไม่หลับสักคืนเลยตอนนี้ คิดฟุ้งซ่านไปถึงวันที่แม่จะจากไปโน่นเลย อยากทิ้งแม่ให้อยู่กับพ่อ 2 คน แล้วไปทำงาน ก็ลำบากมาก เพราะแม่ต้องหาหมอ เราต้องดูแลทุกอย่างเพราะ เราเป็นลูกคนเดียว. ตอนนี้ปัญหาตีกันในหัวมาก ไม่รู้เริ่มที่ตรงไหนก่อนดีเลย