สวัสดีค่ะ Snowbara เองค่ะ
แต่ก่อนจะสิงอยู่ในห้องการ์ตูนที่เป็นงานอดิเรกประปราย แต่เนื่องจากด้วยหลังจากป่วยเป็นภูมิแพ้ลมพิษมาเกือบ 15 ปี และเพิ่งจะคุมได้เมื่อไม่นานมานี้ จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ ทั้งในฐานะคนไข้ และบุคลากรทางการแพทย์ค่ะ
อาการคือกินแค่ปนเปื้อนสิ่งที่แพ้ก็ลมพิษขึ้นทั้งตัว ลำคอตีบ หายใจไม่สะดวก สัมพันธ์กับช่วงมีประจำเดือน เครียด นอนไม่พอ หากมี 3 อย่างนี้อาการจะหนักขึ้นค่ะ เคยกินอาหารที่แพ้ด้วยความไม่รู้ คือผื่นขึ้นทั้งตัว คัน บวมจนเจ็บ ถึงขั้นหายใจไม่ออก ค่าออกซิเจนลด (Anaphylaxis shock) เข้านอนรอดูอาการฝั่งแดงที่ห้องฉุกเฉิน
แต่ด้วยความที่เรียนมา พอเป็นลมพิษทั้งตัวเราจะสังเกตุอาการตัวเองทันที หากเริ่มจุกๆ แบบหายใจได้ไม่สุด เริ่มใช้กล้ามเนื้อช่วงอกเบ่งหายใจ (จะมีอาการเจ็บซี่โครงเลย) ก็จะไปโรงพยาบาลของมหาลัยทันที
ภาพปลากรอบ น่ากลัวนิดนึงนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้นี้จะเล่าประวัติตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน จะแทรกความรู้ทางการแพทย์และประสบการณ์ไปด้วย หากมีข้อมูลทางการแพทย์ผิดพลาดตรงไหนสามารถทักท้วงได้เลยนะคะ เราเป็นว่าที่บุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่ง(ที่ไม่ใช่แพทย์) จึงมีความรู้อยู่บ้างไม่ลึกค่ะเพราะไม่ใช่สาขาที่เรียนมา แหะๆ
และขอแท็คห้องชานเรือน เพราะที่ปัจจุบันเราเป็นหนักขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากครอบครัวค่ะ ไว้เตือนคุณพ่อคุณแม่
ตั้งแต่จำความได้ เราก็จำได้ว่าตนเองแพ้กุ้งและปูค่ะ แต่ไม่หนักมาก ทานก็จะมีน้ำมูกไหล คันคอ ตาแดง
ด้วยความเป็นเด็กอ่ะนะ อยากกินก็ขอ ที่บ้านก็ตามใจ (ปนเชื่อว่ากินๆไปเดี๋ยวก็หายเอง) พอมีอาการก็กินยาแก้แพ้เอา ตอนนั้นยังแพ้ไม่รุนแรงกินยาก็คุมอาการอยู่ เป็นอย่างนี้วนมาอยู่เรื่อยๆจนอายุ 12 ปี อาการก็พัฒนาเป็นผื่นแพ้ลมพิษ และแล้วชีวิตก็เปลี่ยนไปเหมือนกับการลงนรก
เพราะงั้นความเชื่อที่ว่า
"ภูมิแพ้อาหาร ค่อย ๆ กินอาหารที่แพ้ แล้วจะหายได้เอง" ขีดฆ่าออกไปจากสมอง และกระทืบมันทิ้งซ้ำๆเลยนะคะ ไม่เป็นความจริงค่ะ!!! พิสูจน์ให้แล้ว ไม่ต้องมาเดินซ้ำรอยนะคะ 5555
หากอยากลองวิธีคล้ายกันนี้ให้ไปลองการรักษาแบบวัคซีนภายใต้การควบคุมของแพทย์นะคะ
ในช่วงแรกที่บ้านก็ยังให้กินและกินยาแก้แพ้ตามนะคะ จนพอเราโตเราก็รู้เองว่ามันไม่ได้แล้ว จึงหักดิบไม่กินเลย แน่นอนว่าไม่ทันแล้ว แต่ยังไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาก็ยังดื้อรั้นกินหอยกะหมึก (ซึ่งมาแพ้ภายหลัง) จนสุดท้ายอาหารก็รุนแรงพอกับกุ้งปู
และในช่วงไข้หวัด 2009 ระบาดไม่นาน เราก็เห็นโลงศพค่ะ บังเอิญไปติดเชื้อ โชคดีที่ว่าตอนนั้นมียารักษาแล้ว จึงหายในเวลาไม่นาน แต่ตอนแรกเราเกือบแย่เพราะภูมิแพ้เป็นเหตุ ผื่นขึ้นทั่งตัว หลอดลมตีบจนหายใจไม่ออก ซึ่งมาหายใจไม่ออกตอนรอคิวที่โรงพยาบาล เลยไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น
แต่จากเหตุการณ์นี้ เราก็เลิกทานอาหารทะเลทุกอย่าง (ยกเว้นปลาที่ไม่แพ้) แต่ก็ยังมีอาการอยู่เรื่อยๆ เข้าโรงพยาบาลทุกเดือน แบบไม่รู้แพ้อะไร รู้แค่สัมพันธ์กับประจำเดือน ที่บ้านพาไปรักษาทุกรูปแบบ ตั้งแต่กินทุกอย่างที่เขาว่าหาย ทั้งยาแผนปุจจับันแบบกินทุกวัน อาหาร ผลไม้ ยาแผนโบราณ หมอเทวดารักษาหายทุกราย ดูดวง หมอบ้านพ่นมนต์ บลาๆ ขาดแค่หาหมอผีน่าจะครบ... ก็คงไม่ต้องถามนะคะ ไม่หายค่ะ ยังคงมีอาการทุกเดือน 55555
แย่สุดคือเราไม่ค่อยตอบสนองต่อยาแก้แพ้และสเตียรอยด์ค่ะ ยาไม่ช่วยให้หยุดเป็น หรือเป็นน้อยลง แค่ช่วยให้หายเร็วขึ้น
เคยไปตรวจผิวหนัง (Skin prick test) ตอนนั้นผลออกมาว่าแพ้อาหารทะเลทุกชนิดยกเว้นปลา ผลพ่วงคือวันต่อมาเข้าโรงพยาบาลเพราะผื่นขึ้นทั้งตัว 5555
จนเมื่อ 2-3 ที่แล้วก็กระจ่างแจ้งจากฉลากหลังผลิตภัณฑ์อาหาร
ไออาหารที่ไม่เคยคิดว่าจะแพ้คือแพ้เยอะมากกกกก
ที่อึ้งสุด คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกรส มีปนเปื้อนกุ้ง หอย ยกเว้นเจ แม้แต่หมูสับก็ยังมีปนเปื้อนอ่ะ!
ก็หลีกเลี่ยงโดยอ่านฉลากกันไป เพิ่มเติมคือต้องศึกษาสูตรอาหารเพราะอาหารไทยเยอะมากที่ใส่กะปิ (มีกุ้งเคย)
ยกตัวอย่างที่อิหยังวะ ก็เช่น ไก่ทอดและหมูปิ้ง บางร้านเขาหมักด้วยน้ำมันหอย แต่เขาไม่มาบอกเราหรอกค่ะ เราก็ต้องเลือกที่จะไม่กินเอง
ก็แพ้น้อยลงเยอะ แต่ก็ยังมีอาการทุกเดือน ส่วนใหญ่ต้องหยุดเรียนและเข้าฉุกเฉิน แบบทำไมวะ!?
พอติดช่วงโควิดเลยลองไม่กินอาหารตามสั่งและร้านก๋วยเตี๋ยวเลย เพราะสงสัยว่าปนเปื้อนแบบผัดในกระทะเดียวกันก็แพ้รึเปล่านะ สรุปคือเป็นเดือนแรกใน 13 ปีที่ไม่ขึ้นทั้งตัวค่ะ 5555 และไปตรวจภูมิแพ้ซ้ำอีกครั้ง แต่เพราะแพ้รุนแรง หมอจึงให้ตรวจเป็นตรวจเลือด Specific IgE (Rast test) ผลยืนยันว่าแพ้อาหารทะเลทุกชนิดยกเว้นปลาค่ะ
ตอนนั้นถามหมอเรื่องเทสภูมิแพ้อาหารแฝง (Food intolerance test)ที่แพงมากๆๆด้วย คุณหมอบอกว่าผลที่ได้ของเทสนี้ไม่แน่นอน ในแง่ภูมิแพ้ผลจะไม่เป็นที่ยอมรับค่ะ ก็เลยทำแค่ RAST test ที่เป็วิธีมาตรฐานหากเทสทางผิวหนังไม่ได้
ด้วยการเรียนทำให้ไม่มีเวลากับการออกกำลังกายและการนอนค่ะ ตอนนี้เราเลือกที่จะงานช้าหน่อย เอาเวลาทำงานไปทำอาหารกินเองและนอนพักผ่อน ซึ่งบางครั้งก็ทำไม่ได้ ยิ่งในช่วงมีประจำเดือนก็จะมีอาการภูมิแพ้กำเริบ เห็นชัดเลยว่าสัมพันธ์กับการนอนไม่พอ แต่ไม่หนักถึงขั้นต้องหยุดเรียนแล้วค่ะ หากใครมีอะไรสงสัย ถามได้นะคะ หรือจะมาแชร์ประสบการณ์เป็นวิทยาทานก็ได้ค่ะ
เดี๋ยวกระทู้ล่างจะมาเขียนสรุปวิธีการดูแลตัวเองให้อีกทีค่ะ
แชร์ประสบการณ์ ภูมิแพ้อาหารทะเลกับวิธีการดูแลตัวเอง
แต่ก่อนจะสิงอยู่ในห้องการ์ตูนที่เป็นงานอดิเรกประปราย แต่เนื่องจากด้วยหลังจากป่วยเป็นภูมิแพ้ลมพิษมาเกือบ 15 ปี และเพิ่งจะคุมได้เมื่อไม่นานมานี้ จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ ทั้งในฐานะคนไข้ และบุคลากรทางการแพทย์ค่ะ
อาการคือกินแค่ปนเปื้อนสิ่งที่แพ้ก็ลมพิษขึ้นทั้งตัว ลำคอตีบ หายใจไม่สะดวก สัมพันธ์กับช่วงมีประจำเดือน เครียด นอนไม่พอ หากมี 3 อย่างนี้อาการจะหนักขึ้นค่ะ เคยกินอาหารที่แพ้ด้วยความไม่รู้ คือผื่นขึ้นทั้งตัว คัน บวมจนเจ็บ ถึงขั้นหายใจไม่ออก ค่าออกซิเจนลด (Anaphylaxis shock) เข้านอนรอดูอาการฝั่งแดงที่ห้องฉุกเฉิน
แต่ด้วยความที่เรียนมา พอเป็นลมพิษทั้งตัวเราจะสังเกตุอาการตัวเองทันที หากเริ่มจุกๆ แบบหายใจได้ไม่สุด เริ่มใช้กล้ามเนื้อช่วงอกเบ่งหายใจ (จะมีอาการเจ็บซี่โครงเลย) ก็จะไปโรงพยาบาลของมหาลัยทันที
ภาพปลากรอบ น่ากลัวนิดนึงนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้นี้จะเล่าประวัติตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน จะแทรกความรู้ทางการแพทย์และประสบการณ์ไปด้วย หากมีข้อมูลทางการแพทย์ผิดพลาดตรงไหนสามารถทักท้วงได้เลยนะคะ เราเป็นว่าที่บุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่ง(ที่ไม่ใช่แพทย์) จึงมีความรู้อยู่บ้างไม่ลึกค่ะเพราะไม่ใช่สาขาที่เรียนมา แหะๆ
และขอแท็คห้องชานเรือน เพราะที่ปัจจุบันเราเป็นหนักขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากครอบครัวค่ะ ไว้เตือนคุณพ่อคุณแม่
ตั้งแต่จำความได้ เราก็จำได้ว่าตนเองแพ้กุ้งและปูค่ะ แต่ไม่หนักมาก ทานก็จะมีน้ำมูกไหล คันคอ ตาแดง
ด้วยความเป็นเด็กอ่ะนะ อยากกินก็ขอ ที่บ้านก็ตามใจ (ปนเชื่อว่ากินๆไปเดี๋ยวก็หายเอง) พอมีอาการก็กินยาแก้แพ้เอา ตอนนั้นยังแพ้ไม่รุนแรงกินยาก็คุมอาการอยู่ เป็นอย่างนี้วนมาอยู่เรื่อยๆจนอายุ 12 ปี อาการก็พัฒนาเป็นผื่นแพ้ลมพิษ และแล้วชีวิตก็เปลี่ยนไปเหมือนกับการลงนรก
เพราะงั้นความเชื่อที่ว่า
"ภูมิแพ้อาหาร ค่อย ๆ กินอาหารที่แพ้ แล้วจะหายได้เอง"ขีดฆ่าออกไปจากสมอง และกระทืบมันทิ้งซ้ำๆเลยนะคะ ไม่เป็นความจริงค่ะ!!! พิสูจน์ให้แล้ว ไม่ต้องมาเดินซ้ำรอยนะคะ 5555หากอยากลองวิธีคล้ายกันนี้ให้ไปลองการรักษาแบบวัคซีนภายใต้การควบคุมของแพทย์นะคะ
ในช่วงแรกที่บ้านก็ยังให้กินและกินยาแก้แพ้ตามนะคะ จนพอเราโตเราก็รู้เองว่ามันไม่ได้แล้ว จึงหักดิบไม่กินเลย แน่นอนว่าไม่ทันแล้ว แต่ยังไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาก็ยังดื้อรั้นกินหอยกะหมึก (ซึ่งมาแพ้ภายหลัง) จนสุดท้ายอาหารก็รุนแรงพอกับกุ้งปู
และในช่วงไข้หวัด 2009 ระบาดไม่นาน เราก็เห็นโลงศพค่ะ บังเอิญไปติดเชื้อ โชคดีที่ว่าตอนนั้นมียารักษาแล้ว จึงหายในเวลาไม่นาน แต่ตอนแรกเราเกือบแย่เพราะภูมิแพ้เป็นเหตุ ผื่นขึ้นทั่งตัว หลอดลมตีบจนหายใจไม่ออก ซึ่งมาหายใจไม่ออกตอนรอคิวที่โรงพยาบาล เลยไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น
แต่จากเหตุการณ์นี้ เราก็เลิกทานอาหารทะเลทุกอย่าง (ยกเว้นปลาที่ไม่แพ้) แต่ก็ยังมีอาการอยู่เรื่อยๆ เข้าโรงพยาบาลทุกเดือน แบบไม่รู้แพ้อะไร รู้แค่สัมพันธ์กับประจำเดือน ที่บ้านพาไปรักษาทุกรูปแบบ ตั้งแต่กินทุกอย่างที่เขาว่าหาย ทั้งยาแผนปุจจับันแบบกินทุกวัน อาหาร ผลไม้ ยาแผนโบราณ หมอเทวดารักษาหายทุกราย ดูดวง หมอบ้านพ่นมนต์ บลาๆ ขาดแค่หาหมอผีน่าจะครบ... ก็คงไม่ต้องถามนะคะ ไม่หายค่ะ ยังคงมีอาการทุกเดือน 55555
แย่สุดคือเราไม่ค่อยตอบสนองต่อยาแก้แพ้และสเตียรอยด์ค่ะ ยาไม่ช่วยให้หยุดเป็น หรือเป็นน้อยลง แค่ช่วยให้หายเร็วขึ้น
เคยไปตรวจผิวหนัง (Skin prick test) ตอนนั้นผลออกมาว่าแพ้อาหารทะเลทุกชนิดยกเว้นปลา ผลพ่วงคือวันต่อมาเข้าโรงพยาบาลเพราะผื่นขึ้นทั้งตัว 5555
จนเมื่อ 2-3 ที่แล้วก็กระจ่างแจ้งจากฉลากหลังผลิตภัณฑ์อาหาร
ไออาหารที่ไม่เคยคิดว่าจะแพ้คือแพ้เยอะมากกกกก
ที่อึ้งสุด คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกรส มีปนเปื้อนกุ้ง หอย ยกเว้นเจ แม้แต่หมูสับก็ยังมีปนเปื้อนอ่ะ!
ก็หลีกเลี่ยงโดยอ่านฉลากกันไป เพิ่มเติมคือต้องศึกษาสูตรอาหารเพราะอาหารไทยเยอะมากที่ใส่กะปิ (มีกุ้งเคย)
ยกตัวอย่างที่อิหยังวะ ก็เช่น ไก่ทอดและหมูปิ้ง บางร้านเขาหมักด้วยน้ำมันหอย แต่เขาไม่มาบอกเราหรอกค่ะ เราก็ต้องเลือกที่จะไม่กินเอง
ก็แพ้น้อยลงเยอะ แต่ก็ยังมีอาการทุกเดือน ส่วนใหญ่ต้องหยุดเรียนและเข้าฉุกเฉิน แบบทำไมวะ!?
พอติดช่วงโควิดเลยลองไม่กินอาหารตามสั่งและร้านก๋วยเตี๋ยวเลย เพราะสงสัยว่าปนเปื้อนแบบผัดในกระทะเดียวกันก็แพ้รึเปล่านะ สรุปคือเป็นเดือนแรกใน 13 ปีที่ไม่ขึ้นทั้งตัวค่ะ 5555 และไปตรวจภูมิแพ้ซ้ำอีกครั้ง แต่เพราะแพ้รุนแรง หมอจึงให้ตรวจเป็นตรวจเลือด Specific IgE (Rast test) ผลยืนยันว่าแพ้อาหารทะเลทุกชนิดยกเว้นปลาค่ะ
ตอนนั้นถามหมอเรื่องเทสภูมิแพ้อาหารแฝง (Food intolerance test)ที่แพงมากๆๆด้วย คุณหมอบอกว่าผลที่ได้ของเทสนี้ไม่แน่นอน ในแง่ภูมิแพ้ผลจะไม่เป็นที่ยอมรับค่ะ ก็เลยทำแค่ RAST test ที่เป็วิธีมาตรฐานหากเทสทางผิวหนังไม่ได้
ด้วยการเรียนทำให้ไม่มีเวลากับการออกกำลังกายและการนอนค่ะ ตอนนี้เราเลือกที่จะงานช้าหน่อย เอาเวลาทำงานไปทำอาหารกินเองและนอนพักผ่อน ซึ่งบางครั้งก็ทำไม่ได้ ยิ่งในช่วงมีประจำเดือนก็จะมีอาการภูมิแพ้กำเริบ เห็นชัดเลยว่าสัมพันธ์กับการนอนไม่พอ แต่ไม่หนักถึงขั้นต้องหยุดเรียนแล้วค่ะ หากใครมีอะไรสงสัย ถามได้นะคะ หรือจะมาแชร์ประสบการณ์เป็นวิทยาทานก็ได้ค่ะ
เดี๋ยวกระทู้ล่างจะมาเขียนสรุปวิธีการดูแลตัวเองให้อีกทีค่ะ