สวัสดีครับ นี่คือกระทู้ภาคต่อจาก
https://ppantip.com/topic/39281977
พอใช้งานถึง 26,000 กม. ผมได้เปลี่ยนแบตใหม่เป็นแบบลิเธียม NMC 48V 28A
ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม แรงดันไฟแบตจะอยู่ที่ 59V ทำให้ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค ไม่ทำงานในช่วงแรก
เพราะเสปคของตัวควบคุมมอเตอร์รับแรงดันไฟไม่เกิน 60V ต้องขี่ไปสัก 15 กม.ขึ้นไป(แรงดันไฟต่ำกว่า 57V)
ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค จึงจะเริ่มทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วงแรกจึงต้องอาศัยยางเบรคในการเบรคอย่างเดียว
ผมตั้งโปรแกรมให้ตัวควบคุมรับไฟจากแบตไม่เกิน 8 แอมป์ จากเดิมที่ 10 แอมป์(ค่าจากโรงงาน 18 แอมป์ สูงสุด 30)
ทำให้ความเร็วสูงสุดลดลงจาก 40-42 km/h เหลือ 38-40 km/h ประหยัดแบต ได้ระยะทางเพิ่มขึ้น ล้อไม่ฟรีตอนออกตัว
ตั้งแต่เปลี่ยนแบตใหม่(คนขายอยู่เชียงราย เขาประกอบแบตเอง) ไม่เจอปัญหาแบตอีกเลย
ปัญหาใหม่เข้ามาหลังจากใช้ได้ 35,000 กม. คือหัวโช๊คหัก(ขาด)
วันนั้นขี่รถแล้วรู้สึกว่าการทรงตัวแย่ลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง
จึงสำรวจดู พบว่าหัวโช๊คข้างนึงแตกขาดออกจากแกนโช๊ค
ดีที่เป็นแสตนเลส จึงขี่ไปให้ช่างเชื่อมใกล้บ้านเชื่อมให้ และให้เขาเชื่อมพอกหัวโช๊คอีกฝั่ง เพิ่มความแข็งแรง
อีกครึ่งเดือนต่อมา ขี่ๆอยู่ล้อหลังสีกับเบรคตลอดเวลา ทีแรกนึกว่าแกนล้อคลอนแต่ไม่ใช่
เป็นเพราะเฟรมแตกขาดบริเวณใกล้กับจุดยึดล้อหลัง และร้าวเกือบขาดอีกจุดนึงด้านบน
จึงขี่ช้าๆประคองกลับมาจนถึงบ้าน แล้วขี่ไปให้ช่างเชื่อมเจ้าเดิมจัดการเชื่อมโดยใช้เศษท่อนเหล็กเสริมความแข็งแรง
ผมดูทรงเฟรมแล้ว มีจุดอ่อนที่น้ำหนักบรรทุกจากตะแกรงหลัง ไม่ลงมาที่แกนล้อหลังโดยตรง (ลงที่จุดหักแทน)
จึงเอาเศษอลูมิเนียมในบ้านมาติดตั้งจุดเชื่อมลงมาที่แกนล้อหลัง เพื่อช่วยกระจายแรงลงแกนล้อ
ปัญหาเฟรมหักจึงหมดไป แต่น้ำหนักที่ลงแกนล้อหลังมากขึ้น
ทำให้ดุมล้อหลังพังไวขึ้น และรถมีความกระด้างไม่นุ่มนวลมากขึ้น แต่การทรงตัวดีขึ้น
ในเวลาต่อมา มีวันนึงจู่ๆล้อหลังคลอนมาก เมื่อแกะเพลาและลูกปืนออก
พบว่าถ้วยที่รองรับลูกปืน แตกร้าวมาก(ชิ้นนี้อายุราว 4 หมื่นกิโลเมตรแล้ว ใช้มาก่อนจะติดมอเตอร์ไฟฟ้า)
จึงให้ช่างจักรยานร้านประจำใกล้บ้าน เปลี่ยนถ้วยลูกปืน(เป็นแบบอย่างดี) แกนเพลาและลูกปืนใหม่
ผมต้องลดแรงดันลมยางลงมา จากเดิมที่เติมราว 60 PSI ลดเหลือ 50 PSI เพราะหวังว่าจะลดแรงกระแทกที่ดุม
ขี่แบบช้าๆหยอดๆเวลาผ่านเนินลดความเร็ว จากเดิมที่ขี่ไม่ถนอม
ทางลูกรังแย่ๆผมขี่จักรยานรูดเร็วยิ่งกว่าขับรถกระบะ ก็ค่าซ่อมมันถูกกว่ากันเยอะ
แรงดันลมยางที่ลดลง แทบไม่ส่งผลต่อความเร็ว(มอเตอร์มันแรงดี) แต่คงทำให้ยางสึกเร็วขึ้นและโดนเศษแก้วหรือเหล็กตำรั่วง่ายขึ้น
ต่อมาวันที่ 10 ส.ค. 2563 หลังใช้งานได้ 43,000 กม. เกิดปัญหาใหญ่ ล้อมอเตอร์หมุนไม่ได้
ก่อนที่ล้อจะหยุดหมุน มีเสียงดังเหมือนโลหะเสียดสีกัน ดังมานานหลายวันแล้ว
เสียงนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วช่วงหนึ่ง หลังจากขี่รถลุยน้ำท่วมมิดมอเตอร์เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน
แต่มันยังใช้งานได้ปกติ และเสียงก็หายไปในที่สุด จึงไม่ได้ทำอะไร(แบบว่าทำไม่เป็นด้วย ไม่กล้าแกะมอเตอร์)
ตอนที่ล้อกำลังจะหยุดหมุน มันฝืดขึ้นเรื่อยๆ เวลากดคันเร่ง มอเตอร์ยังมีแรงอยู่ คาดว่าลูกปืนพัง
พอล้อหยุดหมุน ผมพยายามฝืนเข็นไปหาวินมอเตอร์ไซค์
ซึ่งจริงๆไม่ควรเข็นแล้ว เศษตลับลูกปืนจะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น
เอารถไปจอดที่วิน แล้วจ้างวินให้วิ่งไปส่งน้ำให้ลูกค้า หลังจากนั้นผมขับรถกระบะไปเอาจักรยานกลับมาที่บ้าน
การแกะล้อจักรยานไฟฟ้าแยกชิ้นส่วนมอเตอร์ ทำตามคลิปนี้ ขันสกรูยัดฝาครอบออก
แล้วกระแทกแกนลงไม้แรงๆเพื่อเอาชนะแรงแม่เหล็กที่มีแรงดูดสูงมาก(เวลาประกอบคืน ต้องระวังมากๆ หนีบนิ้วด้วนได้)
จริงๆฝาครอบด้านที่ไม่มีตัวควบคุม ไม่ควรถอดออกมา ตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องอะไร เห็นอะไรถอดได้ ถอดหมด
4 หมื่นกว่าโล ไม่เคยบำรุงรักษาอะไรเลย
เศษเหล็กจากตลับลูกปืนแตก ถูกแม่เหล็กแรงสูง(ที่เห็นเป็นวงแหวนรอบแกนล้อ)หลายสิบแท่งดูดติดไว้
ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย(เอาแปรงปัดออก)
ตลับลูกปืนที่เสียหาย อยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าจะแกะตลับลูกปืนออกมายังไง
ได้ค้นข้อมูลในเน็ต เจอเว็บบอร์ดของ Golden Motor บอกข้อมูลการซ่อมเยอะมาก
https://goldenmotor.com/SMF/index.php
ฝรั่งบอกว่าตลับลูกปืนที่พัง เป็นเบอร์ 6812-2RS ผมออกไปหาซื้อวันแม่ 12 ส.ค. ร้านขายตลับลูกปืนใหม่ปิดหมด
ได้ตลับลูกปืนมือสอง 80 บาท จากร้านขายตลับลูกปืนมือสองแถวคลองถม
ลองจับหมุนๆดูไม่ติดขัดอะไร แต่มันจะหนืดๆ ไม่เหมือนลูกปืนจักรยานที่หมุนลื่น
จริงๆต้องแกะฝาครอบ(สีดำ)กันฝุ่น เติมจาระบีใหม่เข้าไป แต่ผมก็ไม่ได้ทำ
มอเตอร์ตัวนี้ใช้ตลับลูกปืน 2 ตัว อีกตัวนึงเบอร์ 6202 RZ อยู่ในฝาครอบอีกฝั่ง ของเก่ายังหมุนดีอยู่
ตอนกระแทกไม้ถอดเพลาและมอเตอร์ออก จะเจอแหวนเหล็ก 4 วงซ้อนกันอยู่ข้างลูกปืนด้วย ระวังหายหรือถูกแม่เหล็กล้อดูด
ผมลองจับมาหมุนเล่นดู ลื่นมาก ไม่รู้ว่าลื่นเกินไปไหม จาระบีหายหมดรึยังไม่รู้
การที่จะแกะตลับลูกปืนที่พังออกได้ ต้องถอดตัวควบคุมมอเตอร์ออกมาก่อน
ขันสกรูด้านนอก แล้วเอาปลายไขควงแฉกแซะฝามันขึ้นมา ดึงออกมาจากแกนล้อ ระวังสายไฟตอนประกอบคืน
ตอนที่มอเตอร์ทำงาน ตัวควบคุมและแกนมอเตอร์จะอยู่นิ่งกับที่ แล้วนอกนั้นจะเป็นส่วนที่หมุน
แผงวงจรควบคุมถูกหล่อเรซิ่นไว้ มิน่าจมน้ำมิดแล้วไม่เป็นอะไร
ขันสกรูถอดถ้วยที่รอบรับตัวควบคุมออก จะเห็นสภาพตลับลูกปืนที่เยินสุดๆ ฝาปิดตลับแตกสูญไปแล้ว
เพลาล้อไม่ต้องเอาออก ทีแรกผมไปซื้อคีมถ่าง เอาเพลาออกมา(ไม่ช่วยอะไรในการเปลี่ยนลูกปืน)
วิธีเอาฝาครอบและตลับลูกปืนออก ต้องตอกจากข้างหลัง
ก่อนตอก ใช้เสปรย์หล่อลื่นฉีดให้ซึมเข้าไปโดยรอบก่อน เพราะมันแน่นมากๆ
ฝรั่งแนะนำให้ใช้ไม้หรืออะไรที่ไม่แข็งมาก จะได้ไม่เป็นรอย
ผมใช้ท่อนไม้ เหลาปลายให้แคบเล็ก ตอกไล่ไปรอบๆ
ผมทำผิด เน้นตอกขอบฝาครอบอย่างเดียว ไม่ได้ตอกขอบนอกของลูกปืนไปพร้อมกันตามรูป
ผมตอกฝาครอบออกมาได้แล้ว ตลับลูกปืนยังติดอยู่ที่แกน เดี๋ยวตอกตลับออก
ฝรั่งแนะนำให้เขี่ยลูกปืนให้กระจายตัวไปทั่วทั้งตลับ อย่าให้กระจุกแบบในรูป เพราะว่า....
เวลาตอก วงแหวนด้านนอกของตลับลูกปืนจะหลุดออกมาอย่างเดียว ร่วงออกมาพร้อมลูกปืนทั้งหมด
ส่วนวงแหวนด้านในของตลับจะยังติดอยู่ ซึ่งผมพลาดแบบนั้นไปแล้ว
กว่าจะตอกวงแหวนด้านในออกมาได้ แทบแย่ ต้องเอาปลายไขควงใหญ่สอดไปที่ร่องของวงแหวนใน(ที่รองรับลูกปืน)
แล้วใช้ฆ้อนตอกรอบๆ เสปรย์หล่อลื่นฉีดช่วย
พอติดตั้งตลับลูกปืนมือสอง(ค่อยๆตอกที่วงแหวนด้านในของตลับเข้าไป)เรียบร้อยแล้ว ผมประกอบทุกอย่าง
ใส่ล้อเข้าเฟรมและลองกดคันเร่งทดสอบ พบกว่าล้อกระตุกตอนกดคันเร่ง ไม่หมุน มันต้องมีอะไรเสียอีกแน่ๆ
ถอดออกมาตรวจดู พบว่าสายไฟที่เข้า Hall Sensor มี 2 เส้นที่ขาดใน(ฉนวนนอกยังไม่ขาด แต่แกนทองแดงขาดไปแล้ว)
บัดกรีเชื่อมสายไฟแล้ว ล้อก็ยังไม่หมุนเหมือนเดิม
ผมใช้มิเตอร์วัดไฟเช็คความต่อเนื่องระหว่างสายไฟเส้นใหญ่ 3 เส้นที่เข้ามอเตอร์ พบว่ามันช็อตถึงกันหมด
คงเป็นเพราะแผ่นเหล็กที่อยู่ใกล้ลวดทองแดง ม้วนขึ้นมาชนทองแดง เพราะเศษตลับลูกปืนแทรกเข้าไปดันมันขึ้นมา
ทีแรกม้วนขึ้นมาเยอะมากแทบทุกแผ่น ในรูปนี้ผมใช้คีมคอม้า บีบให้เข้าที่เกือบทุกอันแล้ว จะเห็นแผ่นที่งอขึ้นมาทางด้านซ้าย
พอบีบแผ่นเหล็กจนราบทุกอัน มิเตอร์วัดใหม่ ไม่ช็อตแล้ว
ตอนที่ช็อตกัน เอามือจับล้อหมุน มันจะฝืดมากๆ ปล่อยมือล้อจะหยุดหมุนทันที พอหายช็อตก็หมุนลื่น
ผมสงสัยว่า Hall Sensor จะเสีย จากเศษตลับลูกปืนเสียดสีหรือวางไม่ดีตอนตอกตลับลูกปืนเก่า
จึงไล่เช็ค Hall ทั้ง 3 ตัว พบว่าเสียทั้ง 3 ตัว สาย Hall Sensor จะมีทั้งหมด 5 เส้น (สายไฟเส้นใหญ่ 3 อีกเส้นที่เข้ามอเตอร์ ไม่เกี่ยว)
วิธีเช็คคือเอาโวลท์มิเตอร์ สายสีแดงของมิเตอร์เชื่อมไปที่สายสีเหลือง/สีเขียว/น้ำเงิน ไล่ไปทีละสี
ส่วนสายสีดำ เชื่อมไปที่สายสีดำของสาย Hall (สายกราวน์) ต้องหาสายไฟเส้นเล็กจิ้มเข้าไปที่หลังขั้วต่อ
เพราะต้องเทสตอนที่แบตจ่ายไฟเข้าตัวควบคุมและมอเตอร์ จึงต้องนำผ้ามารองกันช็อต
พอจิ้มแล้ว ต้องหมุนแกนล้อทีละนิด ถ้า Hall ยังดีอยู่ ตัวเลขแรงดันไฟต้องเปลี่ยนแปลงระหว่าง 0 - 5V
แต่ของผมตัวเลขค้างอยู่ที่ 3.3V ตลอดสำหรับ Hall สองตัว ส่วนอีกตัวไม่ขึ้นแรงดันไฟเลย
เอาปลายคัตเตอร์แซะ Hall Sensor ตัวเก่าออก ติดแน่นมากๆ ของเดิมคงใช้กาวร้อนหรืออีพ็อกซี่ยึดไว้
ใส่ Hall Sensor เบอร์ 41F ตัวใหม่เข้าไปทั้ง 3 ตัว หยอดกาวร้อน แล้วบัดกรีสายไฟทุกเส้นตามตำแหน่งเดิม
ประกอบกลับ ล้อมอเตอร์ใช้งานได้ปกติแล้ว ดีใจมาก หลังจากซ่อมได้วิ่งมาราว 380 กม.แล้วยังไม่เจอปัญหาอะไร
สรุปค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า
ซ่อมมอเตอร์จักรยานไฟฟ้าและสรุปค่าใช้จ่ายหลังใช้มา 43,000 กม.
พอใช้งานถึง 26,000 กม. ผมได้เปลี่ยนแบตใหม่เป็นแบบลิเธียม NMC 48V 28A
ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม แรงดันไฟแบตจะอยู่ที่ 59V ทำให้ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค ไม่ทำงานในช่วงแรก
เพราะเสปคของตัวควบคุมมอเตอร์รับแรงดันไฟไม่เกิน 60V ต้องขี่ไปสัก 15 กม.ขึ้นไป(แรงดันไฟต่ำกว่า 57V)
ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค จึงจะเริ่มทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วงแรกจึงต้องอาศัยยางเบรคในการเบรคอย่างเดียว
ผมตั้งโปรแกรมให้ตัวควบคุมรับไฟจากแบตไม่เกิน 8 แอมป์ จากเดิมที่ 10 แอมป์(ค่าจากโรงงาน 18 แอมป์ สูงสุด 30)
ทำให้ความเร็วสูงสุดลดลงจาก 40-42 km/h เหลือ 38-40 km/h ประหยัดแบต ได้ระยะทางเพิ่มขึ้น ล้อไม่ฟรีตอนออกตัว
ตั้งแต่เปลี่ยนแบตใหม่(คนขายอยู่เชียงราย เขาประกอบแบตเอง) ไม่เจอปัญหาแบตอีกเลย
ปัญหาใหม่เข้ามาหลังจากใช้ได้ 35,000 กม. คือหัวโช๊คหัก(ขาด)
วันนั้นขี่รถแล้วรู้สึกว่าการทรงตัวแย่ลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง
จึงสำรวจดู พบว่าหัวโช๊คข้างนึงแตกขาดออกจากแกนโช๊ค
ดีที่เป็นแสตนเลส จึงขี่ไปให้ช่างเชื่อมใกล้บ้านเชื่อมให้ และให้เขาเชื่อมพอกหัวโช๊คอีกฝั่ง เพิ่มความแข็งแรง
อีกครึ่งเดือนต่อมา ขี่ๆอยู่ล้อหลังสีกับเบรคตลอดเวลา ทีแรกนึกว่าแกนล้อคลอนแต่ไม่ใช่
เป็นเพราะเฟรมแตกขาดบริเวณใกล้กับจุดยึดล้อหลัง และร้าวเกือบขาดอีกจุดนึงด้านบน
จึงขี่ช้าๆประคองกลับมาจนถึงบ้าน แล้วขี่ไปให้ช่างเชื่อมเจ้าเดิมจัดการเชื่อมโดยใช้เศษท่อนเหล็กเสริมความแข็งแรง
ผมดูทรงเฟรมแล้ว มีจุดอ่อนที่น้ำหนักบรรทุกจากตะแกรงหลัง ไม่ลงมาที่แกนล้อหลังโดยตรง (ลงที่จุดหักแทน)
จึงเอาเศษอลูมิเนียมในบ้านมาติดตั้งจุดเชื่อมลงมาที่แกนล้อหลัง เพื่อช่วยกระจายแรงลงแกนล้อ
ปัญหาเฟรมหักจึงหมดไป แต่น้ำหนักที่ลงแกนล้อหลังมากขึ้น
ทำให้ดุมล้อหลังพังไวขึ้น และรถมีความกระด้างไม่นุ่มนวลมากขึ้น แต่การทรงตัวดีขึ้น
ในเวลาต่อมา มีวันนึงจู่ๆล้อหลังคลอนมาก เมื่อแกะเพลาและลูกปืนออก
พบว่าถ้วยที่รองรับลูกปืน แตกร้าวมาก(ชิ้นนี้อายุราว 4 หมื่นกิโลเมตรแล้ว ใช้มาก่อนจะติดมอเตอร์ไฟฟ้า)
จึงให้ช่างจักรยานร้านประจำใกล้บ้าน เปลี่ยนถ้วยลูกปืน(เป็นแบบอย่างดี) แกนเพลาและลูกปืนใหม่
ผมต้องลดแรงดันลมยางลงมา จากเดิมที่เติมราว 60 PSI ลดเหลือ 50 PSI เพราะหวังว่าจะลดแรงกระแทกที่ดุม
ขี่แบบช้าๆหยอดๆเวลาผ่านเนินลดความเร็ว จากเดิมที่ขี่ไม่ถนอม
ทางลูกรังแย่ๆผมขี่จักรยานรูดเร็วยิ่งกว่าขับรถกระบะ ก็ค่าซ่อมมันถูกกว่ากันเยอะ
แรงดันลมยางที่ลดลง แทบไม่ส่งผลต่อความเร็ว(มอเตอร์มันแรงดี) แต่คงทำให้ยางสึกเร็วขึ้นและโดนเศษแก้วหรือเหล็กตำรั่วง่ายขึ้น
ต่อมาวันที่ 10 ส.ค. 2563 หลังใช้งานได้ 43,000 กม. เกิดปัญหาใหญ่ ล้อมอเตอร์หมุนไม่ได้
ก่อนที่ล้อจะหยุดหมุน มีเสียงดังเหมือนโลหะเสียดสีกัน ดังมานานหลายวันแล้ว
เสียงนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วช่วงหนึ่ง หลังจากขี่รถลุยน้ำท่วมมิดมอเตอร์เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน
แต่มันยังใช้งานได้ปกติ และเสียงก็หายไปในที่สุด จึงไม่ได้ทำอะไร(แบบว่าทำไม่เป็นด้วย ไม่กล้าแกะมอเตอร์)
ตอนที่ล้อกำลังจะหยุดหมุน มันฝืดขึ้นเรื่อยๆ เวลากดคันเร่ง มอเตอร์ยังมีแรงอยู่ คาดว่าลูกปืนพัง
พอล้อหยุดหมุน ผมพยายามฝืนเข็นไปหาวินมอเตอร์ไซค์
ซึ่งจริงๆไม่ควรเข็นแล้ว เศษตลับลูกปืนจะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น
เอารถไปจอดที่วิน แล้วจ้างวินให้วิ่งไปส่งน้ำให้ลูกค้า หลังจากนั้นผมขับรถกระบะไปเอาจักรยานกลับมาที่บ้าน
การแกะล้อจักรยานไฟฟ้าแยกชิ้นส่วนมอเตอร์ ทำตามคลิปนี้ ขันสกรูยัดฝาครอบออก
แล้วกระแทกแกนลงไม้แรงๆเพื่อเอาชนะแรงแม่เหล็กที่มีแรงดูดสูงมาก(เวลาประกอบคืน ต้องระวังมากๆ หนีบนิ้วด้วนได้)
จริงๆฝาครอบด้านที่ไม่มีตัวควบคุม ไม่ควรถอดออกมา ตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องอะไร เห็นอะไรถอดได้ ถอดหมด
4 หมื่นกว่าโล ไม่เคยบำรุงรักษาอะไรเลย
เศษเหล็กจากตลับลูกปืนแตก ถูกแม่เหล็กแรงสูง(ที่เห็นเป็นวงแหวนรอบแกนล้อ)หลายสิบแท่งดูดติดไว้
ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย(เอาแปรงปัดออก)
ตลับลูกปืนที่เสียหาย อยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าจะแกะตลับลูกปืนออกมายังไง
ได้ค้นข้อมูลในเน็ต เจอเว็บบอร์ดของ Golden Motor บอกข้อมูลการซ่อมเยอะมาก
https://goldenmotor.com/SMF/index.php
ฝรั่งบอกว่าตลับลูกปืนที่พัง เป็นเบอร์ 6812-2RS ผมออกไปหาซื้อวันแม่ 12 ส.ค. ร้านขายตลับลูกปืนใหม่ปิดหมด
ได้ตลับลูกปืนมือสอง 80 บาท จากร้านขายตลับลูกปืนมือสองแถวคลองถม
ลองจับหมุนๆดูไม่ติดขัดอะไร แต่มันจะหนืดๆ ไม่เหมือนลูกปืนจักรยานที่หมุนลื่น
จริงๆต้องแกะฝาครอบ(สีดำ)กันฝุ่น เติมจาระบีใหม่เข้าไป แต่ผมก็ไม่ได้ทำ
มอเตอร์ตัวนี้ใช้ตลับลูกปืน 2 ตัว อีกตัวนึงเบอร์ 6202 RZ อยู่ในฝาครอบอีกฝั่ง ของเก่ายังหมุนดีอยู่
ตอนกระแทกไม้ถอดเพลาและมอเตอร์ออก จะเจอแหวนเหล็ก 4 วงซ้อนกันอยู่ข้างลูกปืนด้วย ระวังหายหรือถูกแม่เหล็กล้อดูด
ผมลองจับมาหมุนเล่นดู ลื่นมาก ไม่รู้ว่าลื่นเกินไปไหม จาระบีหายหมดรึยังไม่รู้
การที่จะแกะตลับลูกปืนที่พังออกได้ ต้องถอดตัวควบคุมมอเตอร์ออกมาก่อน
ขันสกรูด้านนอก แล้วเอาปลายไขควงแฉกแซะฝามันขึ้นมา ดึงออกมาจากแกนล้อ ระวังสายไฟตอนประกอบคืน
ตอนที่มอเตอร์ทำงาน ตัวควบคุมและแกนมอเตอร์จะอยู่นิ่งกับที่ แล้วนอกนั้นจะเป็นส่วนที่หมุน
แผงวงจรควบคุมถูกหล่อเรซิ่นไว้ มิน่าจมน้ำมิดแล้วไม่เป็นอะไร
ขันสกรูถอดถ้วยที่รอบรับตัวควบคุมออก จะเห็นสภาพตลับลูกปืนที่เยินสุดๆ ฝาปิดตลับแตกสูญไปแล้ว
เพลาล้อไม่ต้องเอาออก ทีแรกผมไปซื้อคีมถ่าง เอาเพลาออกมา(ไม่ช่วยอะไรในการเปลี่ยนลูกปืน)
วิธีเอาฝาครอบและตลับลูกปืนออก ต้องตอกจากข้างหลัง
ก่อนตอก ใช้เสปรย์หล่อลื่นฉีดให้ซึมเข้าไปโดยรอบก่อน เพราะมันแน่นมากๆ
ฝรั่งแนะนำให้ใช้ไม้หรืออะไรที่ไม่แข็งมาก จะได้ไม่เป็นรอย
ผมใช้ท่อนไม้ เหลาปลายให้แคบเล็ก ตอกไล่ไปรอบๆ
ผมทำผิด เน้นตอกขอบฝาครอบอย่างเดียว ไม่ได้ตอกขอบนอกของลูกปืนไปพร้อมกันตามรูป
ผมตอกฝาครอบออกมาได้แล้ว ตลับลูกปืนยังติดอยู่ที่แกน เดี๋ยวตอกตลับออก
ฝรั่งแนะนำให้เขี่ยลูกปืนให้กระจายตัวไปทั่วทั้งตลับ อย่าให้กระจุกแบบในรูป เพราะว่า....
เวลาตอก วงแหวนด้านนอกของตลับลูกปืนจะหลุดออกมาอย่างเดียว ร่วงออกมาพร้อมลูกปืนทั้งหมด
ส่วนวงแหวนด้านในของตลับจะยังติดอยู่ ซึ่งผมพลาดแบบนั้นไปแล้ว
กว่าจะตอกวงแหวนด้านในออกมาได้ แทบแย่ ต้องเอาปลายไขควงใหญ่สอดไปที่ร่องของวงแหวนใน(ที่รองรับลูกปืน)
แล้วใช้ฆ้อนตอกรอบๆ เสปรย์หล่อลื่นฉีดช่วย
พอติดตั้งตลับลูกปืนมือสอง(ค่อยๆตอกที่วงแหวนด้านในของตลับเข้าไป)เรียบร้อยแล้ว ผมประกอบทุกอย่าง
ใส่ล้อเข้าเฟรมและลองกดคันเร่งทดสอบ พบกว่าล้อกระตุกตอนกดคันเร่ง ไม่หมุน มันต้องมีอะไรเสียอีกแน่ๆ
ถอดออกมาตรวจดู พบว่าสายไฟที่เข้า Hall Sensor มี 2 เส้นที่ขาดใน(ฉนวนนอกยังไม่ขาด แต่แกนทองแดงขาดไปแล้ว)
บัดกรีเชื่อมสายไฟแล้ว ล้อก็ยังไม่หมุนเหมือนเดิม
ผมใช้มิเตอร์วัดไฟเช็คความต่อเนื่องระหว่างสายไฟเส้นใหญ่ 3 เส้นที่เข้ามอเตอร์ พบว่ามันช็อตถึงกันหมด
คงเป็นเพราะแผ่นเหล็กที่อยู่ใกล้ลวดทองแดง ม้วนขึ้นมาชนทองแดง เพราะเศษตลับลูกปืนแทรกเข้าไปดันมันขึ้นมา
ทีแรกม้วนขึ้นมาเยอะมากแทบทุกแผ่น ในรูปนี้ผมใช้คีมคอม้า บีบให้เข้าที่เกือบทุกอันแล้ว จะเห็นแผ่นที่งอขึ้นมาทางด้านซ้าย
พอบีบแผ่นเหล็กจนราบทุกอัน มิเตอร์วัดใหม่ ไม่ช็อตแล้ว
ตอนที่ช็อตกัน เอามือจับล้อหมุน มันจะฝืดมากๆ ปล่อยมือล้อจะหยุดหมุนทันที พอหายช็อตก็หมุนลื่น
ผมสงสัยว่า Hall Sensor จะเสีย จากเศษตลับลูกปืนเสียดสีหรือวางไม่ดีตอนตอกตลับลูกปืนเก่า
จึงไล่เช็ค Hall ทั้ง 3 ตัว พบว่าเสียทั้ง 3 ตัว สาย Hall Sensor จะมีทั้งหมด 5 เส้น (สายไฟเส้นใหญ่ 3 อีกเส้นที่เข้ามอเตอร์ ไม่เกี่ยว)
วิธีเช็คคือเอาโวลท์มิเตอร์ สายสีแดงของมิเตอร์เชื่อมไปที่สายสีเหลือง/สีเขียว/น้ำเงิน ไล่ไปทีละสี
ส่วนสายสีดำ เชื่อมไปที่สายสีดำของสาย Hall (สายกราวน์) ต้องหาสายไฟเส้นเล็กจิ้มเข้าไปที่หลังขั้วต่อ
เพราะต้องเทสตอนที่แบตจ่ายไฟเข้าตัวควบคุมและมอเตอร์ จึงต้องนำผ้ามารองกันช็อต
พอจิ้มแล้ว ต้องหมุนแกนล้อทีละนิด ถ้า Hall ยังดีอยู่ ตัวเลขแรงดันไฟต้องเปลี่ยนแปลงระหว่าง 0 - 5V
แต่ของผมตัวเลขค้างอยู่ที่ 3.3V ตลอดสำหรับ Hall สองตัว ส่วนอีกตัวไม่ขึ้นแรงดันไฟเลย
เอาปลายคัตเตอร์แซะ Hall Sensor ตัวเก่าออก ติดแน่นมากๆ ของเดิมคงใช้กาวร้อนหรืออีพ็อกซี่ยึดไว้
ใส่ Hall Sensor เบอร์ 41F ตัวใหม่เข้าไปทั้ง 3 ตัว หยอดกาวร้อน แล้วบัดกรีสายไฟทุกเส้นตามตำแหน่งเดิม
ประกอบกลับ ล้อมอเตอร์ใช้งานได้ปกติแล้ว ดีใจมาก หลังจากซ่อมได้วิ่งมาราว 380 กม.แล้วยังไม่เจอปัญหาอะไร
สรุปค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า