'สุดารัตน์' ชำแหละงบ 2 หมื่นล้านซื้อเรือดำน้ำ ช่วยคนตกงานได้กว่า 7 แสนคน
https://voicetv.co.th/read/HPExPicHt
ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โวยรัฐบาลละเลงเงินจำนวนมหาศาลไปกับการซื้ออาวุธ ยืนยันเพื่อไทยไม่ปล่อยผ่าน เตรียมตัดงบในชั้น กมธ.
คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุถึงกรณี การลงมติในอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ใน กมธ.งบประมาณ 2564 กรณีจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่าลำละ 11,250 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 22,550 ล้านบาท โดยมีการออกเสียงเสมอกัน 4-4 ก่อนที่
สุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธาน กมธ. ลงคะแนนเสียงเห็นด้วย ทำให้ได้รับความเห็นชอบ
โดยเนื้อหาทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้
วันนี้พรรคเพื่อไทย โดย ส.ส. ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อไทย ส.ส.ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม เพื่อไทย และ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในคณะอนุกรรมการงบประมาณด้านครุภัณฑ์ ได้เสนอให้ตัดงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่ารวม 22,500 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดซื้อไปแล้ว 1 ลำ แต่ถึงตอนลงคะแนน เสียงฝ่ายค้านแพ้ไป 1 เสียง
แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมแพ้ จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ อย่างแน่นอน เราจะนำไปเสนอให้ตัดในกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง พรรคเพื่อไทย เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ที่จะมาใช้เงินจำนวนมหาศาล ไปจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ในขณะที่ประเทศชาติกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ประชาชนกำลังอดอยาก แทนที่จะใช้เงิน 22,500 ล้านบาท ไปซื้อเรือดำน้ำ ควรเอาเงินภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลนี้ ไปใช้สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชนคนส่วนใหญ่ดีกว่า
เงิน 22,500 ล้านบาท เอาไปช่วยคนตกงาน คนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน จะช่วยนักศึกษาจบใหม่และคนตกงานได้ถึง 750,000 คนนะคะ นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า บริษัทที่เป็นนายหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล และนอกจากได้งานจัดซื้อเรือดำน้ำแล้ว ยังกวาดงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีของทุกกระทรวงอีกด้วย
เรื่องแบบนี้ เพื่อไทยจะไม่ปล่อยไว้แน่ เราจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าใครได้รับผลประโยชน์จากการจัดซื้อหรือไม่ แล้วรอเจอกันตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
https://www.facebook.com/sudaratofficial/posts/3218012561610848
"ภารดร" ชี้ส.ส.ร.ควรมาจากการสรรหาจากกลุ่มวิชาชีพ
https://www.innnews.co.th/politics/news_753379/
นาย
ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโครงสร้างสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ว่า
ตอนนี้ร่างในส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่ได้ยื่นไว้ในสภาฯ ซึ่งตนได้ดูร่างคร่าวๆ ก็จะเห็นว่า มีจำนวน ส.ส.ร. 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยหัวหน้าพรรคได้แถลงชัดเจนว่า ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พรรคภูมิใจไทยก็มองถึงความครอบคลุมในทุกสาขาอาชีพ ดังนั้น นอกจากการเลือกตั้งควรมองถึงกลุ่มสาขาอาชีพ ลองเขียนโมเดลที่ให้สามารถครอบคลุมได้ทุกสาขาชีพ ซึ่งรวมไปถึงก็นักเรียน นิสิต นักศึกษาด้วย ทั้งนี้ ส.ส.ร.อาจจะมีสองส่วนก็ได้คือ มาจากการเลือกตั้ง แต่เมื่อมองว่า หากเราเลือกตั้งทั้งหมดจะตอบโจทย์หรือไม่ เพราะมองว่าคนที่ได้รับเลือกตั้งจะมาจากกลุ่มอาชีพใดบ้าง ซึ่งในการเขียนรัฐธรรมนูญ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยกลุ่มคนที่มีความชำนาญเฉพาะทางในกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นเรื่องดี ถ้าหากว่ามีตัวแทนของกลุ่มสาขาชีพมาเป็นตัวแทนของ ส.ส.ร.เพิ่มขึ้นมาจากตัวแทนของสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งในเขตจังหวัด
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า เห็นข่าวที่พรรคร่วมรัฐบาลกำหนดให้มี ส.ส.ร.200 คน โดย 150 คนมาจากการเลือกตั้งในเขตจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 50 คน อาจจะมีการสรรหาของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ตลอดจนกลุ่มสาขาที่ต่างๆ ซึ่งอาจต้องเอาโมเดลของ ส.ว.ที่มีการคัดสรรให้เหลือ 200 คนในขณะนั้นนำเอามาใช้ดูว่า สามารถที่จะดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีการเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม
ทั้งนี้ หากผ่านวาระที่หนึ่งไปแล้วและมีการตั้งคณะกรรมาธิการก็จะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดในชั้นกรรมาธิการต่อไป
JJNY : 'สุดารัตน์'ชำแหละงบ 2 หมื่นล้านซื้อเรือดำน้ำ/ภารดรชี้ส.ส.ร.ควรมาจากการสรรหา/ทั่วโลกติดโควิด23ล./ไม่มีผู้ติดเชื้อ
https://voicetv.co.th/read/HPExPicHt
ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โวยรัฐบาลละเลงเงินจำนวนมหาศาลไปกับการซื้ออาวุธ ยืนยันเพื่อไทยไม่ปล่อยผ่าน เตรียมตัดงบในชั้น กมธ.
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุถึงกรณี การลงมติในอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ใน กมธ.งบประมาณ 2564 กรณีจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่าลำละ 11,250 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 22,550 ล้านบาท โดยมีการออกเสียงเสมอกัน 4-4 ก่อนที่ สุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธาน กมธ. ลงคะแนนเสียงเห็นด้วย ทำให้ได้รับความเห็นชอบ
โดยเนื้อหาทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้
วันนี้พรรคเพื่อไทย โดย ส.ส. ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อไทย ส.ส.ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม เพื่อไทย และ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในคณะอนุกรรมการงบประมาณด้านครุภัณฑ์ ได้เสนอให้ตัดงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่ารวม 22,500 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดซื้อไปแล้ว 1 ลำ แต่ถึงตอนลงคะแนน เสียงฝ่ายค้านแพ้ไป 1 เสียง
แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมแพ้ จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ อย่างแน่นอน เราจะนำไปเสนอให้ตัดในกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง พรรคเพื่อไทย เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ที่จะมาใช้เงินจำนวนมหาศาล ไปจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ในขณะที่ประเทศชาติกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ประชาชนกำลังอดอยาก แทนที่จะใช้เงิน 22,500 ล้านบาท ไปซื้อเรือดำน้ำ ควรเอาเงินภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลนี้ ไปใช้สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชนคนส่วนใหญ่ดีกว่า
เงิน 22,500 ล้านบาท เอาไปช่วยคนตกงาน คนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน จะช่วยนักศึกษาจบใหม่และคนตกงานได้ถึง 750,000 คนนะคะ นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า บริษัทที่เป็นนายหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล และนอกจากได้งานจัดซื้อเรือดำน้ำแล้ว ยังกวาดงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีของทุกกระทรวงอีกด้วย
เรื่องแบบนี้ เพื่อไทยจะไม่ปล่อยไว้แน่ เราจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าใครได้รับผลประโยชน์จากการจัดซื้อหรือไม่ แล้วรอเจอกันตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
https://www.facebook.com/sudaratofficial/posts/3218012561610848
"ภารดร" ชี้ส.ส.ร.ควรมาจากการสรรหาจากกลุ่มวิชาชีพ
https://www.innnews.co.th/politics/news_753379/
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโครงสร้างสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ว่า
ตอนนี้ร่างในส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่ได้ยื่นไว้ในสภาฯ ซึ่งตนได้ดูร่างคร่าวๆ ก็จะเห็นว่า มีจำนวน ส.ส.ร. 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยหัวหน้าพรรคได้แถลงชัดเจนว่า ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พรรคภูมิใจไทยก็มองถึงความครอบคลุมในทุกสาขาอาชีพ ดังนั้น นอกจากการเลือกตั้งควรมองถึงกลุ่มสาขาอาชีพ ลองเขียนโมเดลที่ให้สามารถครอบคลุมได้ทุกสาขาชีพ ซึ่งรวมไปถึงก็นักเรียน นิสิต นักศึกษาด้วย ทั้งนี้ ส.ส.ร.อาจจะมีสองส่วนก็ได้คือ มาจากการเลือกตั้ง แต่เมื่อมองว่า หากเราเลือกตั้งทั้งหมดจะตอบโจทย์หรือไม่ เพราะมองว่าคนที่ได้รับเลือกตั้งจะมาจากกลุ่มอาชีพใดบ้าง ซึ่งในการเขียนรัฐธรรมนูญ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยกลุ่มคนที่มีความชำนาญเฉพาะทางในกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นเรื่องดี ถ้าหากว่ามีตัวแทนของกลุ่มสาขาชีพมาเป็นตัวแทนของ ส.ส.ร.เพิ่มขึ้นมาจากตัวแทนของสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งในเขตจังหวัด
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า เห็นข่าวที่พรรคร่วมรัฐบาลกำหนดให้มี ส.ส.ร.200 คน โดย 150 คนมาจากการเลือกตั้งในเขตจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 50 คน อาจจะมีการสรรหาของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ตลอดจนกลุ่มสาขาที่ต่างๆ ซึ่งอาจต้องเอาโมเดลของ ส.ว.ที่มีการคัดสรรให้เหลือ 200 คนในขณะนั้นนำเอามาใช้ดูว่า สามารถที่จะดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีการเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม
ทั้งนี้ หากผ่านวาระที่หนึ่งไปแล้วและมีการตั้งคณะกรรมาธิการก็จะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดในชั้นกรรมาธิการต่อไป