วันก่อนไปเที่ยว คีรีรัฐนิคม ขับกลับมา บ้านป้าไม่ไกลจากบ้านกำนันสุเทพ วันนั้นยังอยู่ในช่วงวันแม่ ปรกติ วันแม่ ต่างคนต่างอยู่ ห่างกัน พันลี้ แต่ปีนี้ ลูกโตกันหมดแล้ว
“นั่งพักที่บ้านซักพัก เย็นๆ ค่อยไปหาอะไรกินกัน” ป้า บอก
“ผมอยากไป ตลาดศาลเจ้า” ผมเสนอ มาเมืองร้อยเกาะ ทีแรก ผมหงุดหงิดหาที่กินไม่ได้ ถูกปาก เรื่องร้านหรู แพง ไม่อร่อยสนุกเท่ากินร้านอาหารพื้นเมือง แค่ ระวัง นิดเรื่องความเผ็ด เพราะปรกติ ผมไม่กินเผ็ด ยิ่งเจอเผ็ดแบบคนใต้ แล้ว น้ำตาร่วงทุกที อดนึกถึง สมัยก่อน ไปปัตตานี เจอพี่คนหนึ่งแกชวนผมกินแกงเหลืองระหว่าง กินไปเช็ดน้ำตาปาดเหงื่อไป
“โคออฟ มีงาน ด้วยนะจำได้ไหมวานนี้จากสนามบินที่เหมือนงานวัดไปโคออฟดีกว่า” ป้าเสนอ
เอานะ โคออฟ ก็โคออฟ ถ้าเถียงป้ามีหวัง จะซวยเอา
และแล้ว 17.00 ขับรถออกไปกัน
“ป้า........ ฝนตก” ผมบอก วันนั้น 12-08-2563 ฝนตกทั้งวัน ไม่วาจะแรงหรือพรำๆ
“เอาไงดี ไปพุมเรียงไหม ออกทางท่าฉาง วิ่งพักหนึ่งถึง ดูฟ้าใสๆ แป๊บเดียวก็ถึง” ป้า ลงเหมือนกัน
ไปไหนไปกัน ป้าขับรถ นี่ ผมนั่ง เฉยๆ ไปไหนก็ได้
ที่สุราษฎร์ ในเมือง มีร้านอาหาร เยอะจริง แต่ ค่อนข้างเบียดเสียด จะ ไกลออกนอกเมือง ก็คือ ร้านอาหาร ลำพู2 ออกไปทางสะพานศรีสุราษฎร์ แต่ คน คนอยากพักสบายยิ่งน้ำขึ้นด้วย
พุมเรียง เป็นตำบลเล็กๆ ใน อำเภอไชยา เราขับรถเส้นใน คือ จาก เส้นไปเซนทรัล เลี้ยว เข้าท่าฉาง แล้วตรงยาว มาพักหนึ่ง อึดใจใหญ่ๆ ก็ถึง คลองพุมเรียง
“ครั้งก่อนน้องเล็ก มาก็พามาถ่ายรูปที่พุมเรียงนี่แหละ” ป้าเล่าถึง น้องรักคนหนึ่งที่หลายปีก่อน เจ้าเล็ก บินลัดฟ้า จากพัทยา มาเที่ยว เขื่อนรัชชประภา ป้าเลย ฉกตัวมาเที่ยว ที่นี่ด้วย
“มีร้านอะไรอร่อยครับ”
“ที่นี่ร้านดังก็แหลมโพธิ์ฯ” ป้าพูด พร้อมกับชี้ไปลานจอดรถ ร้านอาหาร
“คนเยอะมาก คงพาแม่พ่อ มากิน ไม่ไหวมังแล้วเราไปกิน สองคน ร้านไม่สนหรอก พี่คงจำได้นะที่ผมเคยเล่าเรื่องร้าน อ่าวกระเบนซีฟู๊ด ที่วันแม่เขาไม่สนใจผมเลย”
“ไปหน้าเทศบาล”
ที่นี่ เป็นร้านอาหารชายทะเล ความคึกคักเหมือนบางแสน ในวันธรรมดา คนไม่เยอะเท่า บางแสนช่วงเทศกาล ร้านอาหาร หน้าเทศบาล เป็นร้านเล็กๆ รวมๆ กัน เหมือน ฟู๊ดเซนเตอร์ ดูจะถูกใจป้าแกมาก
“กินที่นี่ ราคาไม่แรงเหมือนร้านดัง เรากินอะไรกันได้นิดหน่อยๆ” ป้าพูดแนะนำ
ผมโชคดี อย่าง ที่ แฟนไม่ติดหรู ไม่ติดต้องกินร้านแพง อะไร เขาเป็นคนกินอะไรก็ได้ ด้วยความเป็นข้าราชการด้วยมัง เลยมีชีวิต ที่เรียบง่าย ผิดกับผม ถ้าหิว แล้ว ถูกแพงไม่รู้ เอามาเร็วๆ เลย กูจะกิน
“กินก่อนแล้วค่อยเดินถ่ายรูป” ป้าบอก
ร้านแถวนี้ผมชอบ นะพุมเรียง สงบ เงียบ มองไกลๆ เห็นหาดทรายแหลมทรายอีก ที เป็นแหลมยื่นในทะเล สวยดี แล้วดีที่สุด คือ ทีนี่ ฝนตกไปเรียบร้อยแล้ว ฟ้าหลังฝน สดใสดี
“หมึกย่าง อย่าว่านะไม่ได้กินนานแล้วอยากกินจริงๆ” ผมรีบออกตัวไว้ก่อน ขอป้าก่อน
ป้าค้อนขวับ นี่แหละ พยาบาลแบบนี้ กิน อะไร ไม่ค่อยได้ นั่นไขมัน นี่ ไม่ครบห้าหมู่ แต่ตัวเอง กินจนจะเป็นปอบผีฟ้าอยู่แล้ว
“งั้นพี่สั่งหอยขาว ผัดฉ่า นะ” ป้าบอก
“ต้มส้มปลากระบอกหน่อย”
สั่งอาหารเสร็จนั่งคุยซักพัก อาหารมา ทุกอย่างโอเค หมด เว้น ต้มส้มปลากระบอก อาจจะว่าคนใต้ กับคนภาคกลางกินคนละรส ต้มส้มปลากระบอก แบบที่ผมชอบ คือ
ขิงต้องเยอะ เรียกว่าเผ็ดขิง แล้ว เปรี้ยวน้ำมะขาม หรือใส่มะขาม ข้นหน่อย เวลากินรู้สึกสามรส หวานจากน้ำตาลปีบ เปรี้ยวส้มมะขาม เค็มน้ำปลาปะแล่มๆ แต่ร้านนี้ เขาอ่อน น้ำมะขาม ไปหน่อย แล้ว สิ่งที่ผมไม่เคยเจอ คือ ขมิ้น มีด้วยหรือ
“ที่นี่เขากินกันด้วย เอาขมิ้นดับคาว” ป้า รีบอธิบาย เพราะเห็นผมเริ่มงงๆ กับ อาหารที่รสแปลก
“กินหอยขาวผัดฉ่าเร็ว” ป้ารีบ ดึงความสนใจ
“บ้านพี่เรียกหอยขาว บ้านผมเรียกหอยตลับ ผัดอร่อยดี น้ำพริกเผา ฉั่วฮะเส็งแน่ ผมจำรสได้”
อืมค่อยยิ้มได้หน่อยแต่ที่ชอบ คือหมึกย่าง แม้ไม่ใช่หมึก ตัวใหญ่ๆ แต่ได้กินแค่นี้ก็ดีใจแล้ว กินหมึกย่างต่อหน้า พยาบาล มันเสี่ยงนะเฟ้ย
“คลอเรสตอรอล”
เกือบสามสิบปี ก่อน ผมขับรถจาก กทม ไปปัตตานี ไม่เคยได้แวะแบบนี้ เคยครั้งหนึ่งขากลับแวะวัดพระธาตุไชยา หน่อยแล้วก็ต้องรีบขับกลับกทม สมัยนั้นถนนก็ยังเป็นทางรถวิ่งสวนกัน ไม่ได้สบายแบบนี้
กินเสร็จได้ เดินริมทะเล กับป้า เหมือนเสียงเพลง
แซซี้ อ้ายลื้อ เจ็กนั้ง ดังเข้ามาในหูเลย แต่นี่ไม่ ใช่บางแสน ที่พระจันทร์ตกน้ำ ไชยา นี่พระจันทร์ กับพระอาทิตย์ตกดินหมด
ใครมา ไชยา มาไหว้พระธาตุไชยา แล้ว อย่าลืมมาพุมเรียง มาให้ดี ต้องตอนเย็น แล้วถ้าโชคดี เจอช่วงน้ำขึ้น วิเศษเลย ที่นี่จะสวยมาก แล้วอย่าลืมถ่ายรูปกับปูม้ายักษ์ด้วยนะครับ
=====ลุงป้าเล่าเรื่อง พุมเรียงไชยา=====
“นั่งพักที่บ้านซักพัก เย็นๆ ค่อยไปหาอะไรกินกัน” ป้า บอก
“ผมอยากไป ตลาดศาลเจ้า” ผมเสนอ มาเมืองร้อยเกาะ ทีแรก ผมหงุดหงิดหาที่กินไม่ได้ ถูกปาก เรื่องร้านหรู แพง ไม่อร่อยสนุกเท่ากินร้านอาหารพื้นเมือง แค่ ระวัง นิดเรื่องความเผ็ด เพราะปรกติ ผมไม่กินเผ็ด ยิ่งเจอเผ็ดแบบคนใต้ แล้ว น้ำตาร่วงทุกที อดนึกถึง สมัยก่อน ไปปัตตานี เจอพี่คนหนึ่งแกชวนผมกินแกงเหลืองระหว่าง กินไปเช็ดน้ำตาปาดเหงื่อไป
“โคออฟ มีงาน ด้วยนะจำได้ไหมวานนี้จากสนามบินที่เหมือนงานวัดไปโคออฟดีกว่า” ป้าเสนอ
เอานะ โคออฟ ก็โคออฟ ถ้าเถียงป้ามีหวัง จะซวยเอา
และแล้ว 17.00 ขับรถออกไปกัน
“ป้า........ ฝนตก” ผมบอก วันนั้น 12-08-2563 ฝนตกทั้งวัน ไม่วาจะแรงหรือพรำๆ
“เอาไงดี ไปพุมเรียงไหม ออกทางท่าฉาง วิ่งพักหนึ่งถึง ดูฟ้าใสๆ แป๊บเดียวก็ถึง” ป้า ลงเหมือนกัน
ไปไหนไปกัน ป้าขับรถ นี่ ผมนั่ง เฉยๆ ไปไหนก็ได้
ที่สุราษฎร์ ในเมือง มีร้านอาหาร เยอะจริง แต่ ค่อนข้างเบียดเสียด จะ ไกลออกนอกเมือง ก็คือ ร้านอาหาร ลำพู2 ออกไปทางสะพานศรีสุราษฎร์ แต่ คน คนอยากพักสบายยิ่งน้ำขึ้นด้วย
พุมเรียง เป็นตำบลเล็กๆ ใน อำเภอไชยา เราขับรถเส้นใน คือ จาก เส้นไปเซนทรัล เลี้ยว เข้าท่าฉาง แล้วตรงยาว มาพักหนึ่ง อึดใจใหญ่ๆ ก็ถึง คลองพุมเรียง
“ครั้งก่อนน้องเล็ก มาก็พามาถ่ายรูปที่พุมเรียงนี่แหละ” ป้าเล่าถึง น้องรักคนหนึ่งที่หลายปีก่อน เจ้าเล็ก บินลัดฟ้า จากพัทยา มาเที่ยว เขื่อนรัชชประภา ป้าเลย ฉกตัวมาเที่ยว ที่นี่ด้วย
“มีร้านอะไรอร่อยครับ”
“ที่นี่ร้านดังก็แหลมโพธิ์ฯ” ป้าพูด พร้อมกับชี้ไปลานจอดรถ ร้านอาหาร
“คนเยอะมาก คงพาแม่พ่อ มากิน ไม่ไหวมังแล้วเราไปกิน สองคน ร้านไม่สนหรอก พี่คงจำได้นะที่ผมเคยเล่าเรื่องร้าน อ่าวกระเบนซีฟู๊ด ที่วันแม่เขาไม่สนใจผมเลย”
“ไปหน้าเทศบาล”
ที่นี่ เป็นร้านอาหารชายทะเล ความคึกคักเหมือนบางแสน ในวันธรรมดา คนไม่เยอะเท่า บางแสนช่วงเทศกาล ร้านอาหาร หน้าเทศบาล เป็นร้านเล็กๆ รวมๆ กัน เหมือน ฟู๊ดเซนเตอร์ ดูจะถูกใจป้าแกมาก
“กินที่นี่ ราคาไม่แรงเหมือนร้านดัง เรากินอะไรกันได้นิดหน่อยๆ” ป้าพูดแนะนำ
ผมโชคดี อย่าง ที่ แฟนไม่ติดหรู ไม่ติดต้องกินร้านแพง อะไร เขาเป็นคนกินอะไรก็ได้ ด้วยความเป็นข้าราชการด้วยมัง เลยมีชีวิต ที่เรียบง่าย ผิดกับผม ถ้าหิว แล้ว ถูกแพงไม่รู้ เอามาเร็วๆ เลย กูจะกิน
“กินก่อนแล้วค่อยเดินถ่ายรูป” ป้าบอก
ร้านแถวนี้ผมชอบ นะพุมเรียง สงบ เงียบ มองไกลๆ เห็นหาดทรายแหลมทรายอีก ที เป็นแหลมยื่นในทะเล สวยดี แล้วดีที่สุด คือ ทีนี่ ฝนตกไปเรียบร้อยแล้ว ฟ้าหลังฝน สดใสดี
“หมึกย่าง อย่าว่านะไม่ได้กินนานแล้วอยากกินจริงๆ” ผมรีบออกตัวไว้ก่อน ขอป้าก่อน
ป้าค้อนขวับ นี่แหละ พยาบาลแบบนี้ กิน อะไร ไม่ค่อยได้ นั่นไขมัน นี่ ไม่ครบห้าหมู่ แต่ตัวเอง กินจนจะเป็นปอบผีฟ้าอยู่แล้ว
“งั้นพี่สั่งหอยขาว ผัดฉ่า นะ” ป้าบอก
“ต้มส้มปลากระบอกหน่อย”
สั่งอาหารเสร็จนั่งคุยซักพัก อาหารมา ทุกอย่างโอเค หมด เว้น ต้มส้มปลากระบอก อาจจะว่าคนใต้ กับคนภาคกลางกินคนละรส ต้มส้มปลากระบอก แบบที่ผมชอบ คือ
ขิงต้องเยอะ เรียกว่าเผ็ดขิง แล้ว เปรี้ยวน้ำมะขาม หรือใส่มะขาม ข้นหน่อย เวลากินรู้สึกสามรส หวานจากน้ำตาลปีบ เปรี้ยวส้มมะขาม เค็มน้ำปลาปะแล่มๆ แต่ร้านนี้ เขาอ่อน น้ำมะขาม ไปหน่อย แล้ว สิ่งที่ผมไม่เคยเจอ คือ ขมิ้น มีด้วยหรือ
“ที่นี่เขากินกันด้วย เอาขมิ้นดับคาว” ป้า รีบอธิบาย เพราะเห็นผมเริ่มงงๆ กับ อาหารที่รสแปลก
“กินหอยขาวผัดฉ่าเร็ว” ป้ารีบ ดึงความสนใจ
“บ้านพี่เรียกหอยขาว บ้านผมเรียกหอยตลับ ผัดอร่อยดี น้ำพริกเผา ฉั่วฮะเส็งแน่ ผมจำรสได้”
อืมค่อยยิ้มได้หน่อยแต่ที่ชอบ คือหมึกย่าง แม้ไม่ใช่หมึก ตัวใหญ่ๆ แต่ได้กินแค่นี้ก็ดีใจแล้ว กินหมึกย่างต่อหน้า พยาบาล มันเสี่ยงนะเฟ้ย
“คลอเรสตอรอล”
เกือบสามสิบปี ก่อน ผมขับรถจาก กทม ไปปัตตานี ไม่เคยได้แวะแบบนี้ เคยครั้งหนึ่งขากลับแวะวัดพระธาตุไชยา หน่อยแล้วก็ต้องรีบขับกลับกทม สมัยนั้นถนนก็ยังเป็นทางรถวิ่งสวนกัน ไม่ได้สบายแบบนี้
กินเสร็จได้ เดินริมทะเล กับป้า เหมือนเสียงเพลง
แซซี้ อ้ายลื้อ เจ็กนั้ง ดังเข้ามาในหูเลย แต่นี่ไม่ ใช่บางแสน ที่พระจันทร์ตกน้ำ ไชยา นี่พระจันทร์ กับพระอาทิตย์ตกดินหมด
ใครมา ไชยา มาไหว้พระธาตุไชยา แล้ว อย่าลืมมาพุมเรียง มาให้ดี ต้องตอนเย็น แล้วถ้าโชคดี เจอช่วงน้ำขึ้น วิเศษเลย ที่นี่จะสวยมาก แล้วอย่าลืมถ่ายรูปกับปูม้ายักษ์ด้วยนะครับ